คนไทยลุยฟิลิปปินส์เผยโฉม Republican College ของ “สุธา ชันแสง” พบสภาพยิ่งกว่ามหาวิทยาลัยห้องแถว เป็นตึกโทรมสุดขีด ในย่านชุมชนแออัดที่มีทางเข้าเป็นประตูเล็กๆ เพียงประตูเดียว ทั้งยังพบข้อมูลพิรุธบนระเบียนการศึกษาและเอกสารจบการศึกษาที่แม้จะระบุว่าจบการศึกษาตั้งแต่ พ.ศ.2527 แต่กลับเขียนอายุปัจจุบันของนายสุธา ทั้งยังมีตราประทับใหม่เอี่ยม สื่อปินส์ตะลึงมีรมต.ไทยจบจากม.ห้องแถวในประเทศตัวเอง
ขณะที่วานนี้ (27 มี.ค.) หนังสือพิมพ์หลายฉบับได้ตีพิมพ์ข่าวการเดินทางไปยื่นหนังสือที่กระทรวงการต่างประเทศของนายไทกร พลสุวรรณ แกนนำกลุ่มอีสานกู้ชาติ เมื่อวันที่ 26 มี.ค. โดยนายไทกรได้เดินทางมายื่นหนังสือต่อนายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ เพื่อขอให้ตรวจสอบและเปิดเผยข้อมูลกรณีพิรุธเรื่องวุฒิการศึกษาระดับปริญญาตรีของนายสุธา ชันแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ซึ่งอาจจะขัดต่อรัฐธรรมนูญ พุทธศักราช 2550 มาตรา 174 ที่ระบุว่า รัฐมนตรีต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามดังข้อ (3) สำเร็จการศึกษาไม่ต่ำกว่าปริญญาตรี หรือเทียบเท่า โดยข้อมูลที่ต้องการให้ตรวจสอบและเปิดเผยมี 3 เรื่องดังนี้คือ 1.ประวัติการทำหนังสือเดินทางของนายสุธา, 2.ประวัติการเดินทางไปประเทศฟิลิปปินส์ของนายสุธา และ 3.ให้กรมการกงสุลประสานงานกับสถานทูตสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ เพื่อขอข้อมูลการเดินทางเข้า-ออกประเทศฟิลิปปินส์ของนายสุธา
ล่าสุด เมื่อวันที่ 26 มี.ค. ในเว็บบล็อก www.oknation.net/blog/thaibaan ซึ่งผู้เขียนเป็นชาวไทยใช้นามแฝงว่า “เสี่ยวไทบ้าน” ได้เดินทางไปพร้อมกับชาวฟิลิปปินส์เพื่อไปสำรวจวิทยาลัยรีพับลิกัน (Republican College) ณ 42-18th Avenue, Murphy, Quezon City ที่นายสุธาอ้างว่าจบการศึกษานั้นมีสภาพของสถานศึกษาเป็นอย่างไร
ทั้งนี้ สภาพของสถานที่เรียน Republican College ตามที่เจ้าของเว็บบล็อกดังกล่าวถ่ายภาพมาและบรรยายไว้นั้นเป็นห้องแถวเล็กๆ อยู่ริมถนนในย่านชุมชนแออัด ทางเข้าวิทยาลัยนั้นถูกเปิดเป็นประตูเล็กๆ ประตูเดียว ขณะที่สภาพอาคารเรียนก็เป็นตึกเก่าๆ ที่ปราศจากนักศึกษาหรืออาจารย์ โดยมีเจ้าหน้าที่ประจำอยู่เพียงไม่กี่คนเท่านั้น โดยตึกเรียนนั้นล้อมรอบสนามบาสเกตบอลที่อยู่ตรงกลาง
เมื่อเจ้าของเว็บบล็อกเข้าไปขอถ่ายเอกสารประกาศนียบัตร และระเบียนการศึกษาของนายสุธา เจ้าหน้าที่ที่ประจำอยู่ก็ค้นหาและมอบเอกสารให้โดยทันทีโดยไม่ได้สอบถามอะไร หรือแม้กระทั่งตรวจสอบว่าผู้มาขอเอกสารนั้นเป็นใคร โดยเมื่อได้เอกสารมาแล้วก็พบว่าในระเบียนการศึกษาของนายสุธานั้น ระบุเพียงชื่อ-นามสกุล อายุ และเพศเท่านั้น แต่ไม่มีที่อยู่หรือโทรศัพท์ติดต่อ
และยิ่งน่าสังเกตยิ่งขึ้นไปอีกว่าแม้ในระเบียนการศึกษาดังกล่าวจะระบุว่านายสุธาจบการศึกษาตั้งแต่เดือนมีนาคม ค.ศ.1984 (พ.ศ.2527) แต่กลับระบุอายุของนายสุธาว่า 48 ปี ซึ่งเป็นอายุปัจจุบันของนายสุธา (เกิดเมื่อวันที่ 13 มิ.ย.2503)
ขณะที่เมื่อดูไปยังเอกสารจบการศึกษาของนายสุธาก็พบพิรุธยิ่งขึ้นไปอีก โดยเอกสารต้นฉบับนั้นมีตราประทับใหม่ๆ ที่ระบุ ค.ศ.2008 (พ.ศ.2551) อันเป็นข้อพิสูจน์ได้ว่าเอกสารดังกล่าวเพิ่งออกมาใหม่ๆ และไม่ได้มีร่องรอยของการเป็นเอกสารเก่าอายุกว่า 20 ปีดังที่นายสุธากล่าวอ้างว่าจบการศึกษาตั้งแต่ปี พ.ศ.2527 เลย
สื่อฟิลิปปินส์ตีข่าวเก้าอี้ รมต.อาจหลุด
ขณะที่วานนี้ (27 มี.ค.) หนังสือพิมพ์ Philippine Daily Inquirerได้ตีพิมพ์ข่าว “รัฐมนตรีไทยอาจต้องหลุดจากตำแหน่งจากปัญหาวุฒิการศึกษา” ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับพิรุธเรื่องวุฒิการศึกษาระดับปริญญาตรีของนายสุธาในหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์โดยเนื้อหามีดังนี้คือ
***********************************************************
รัฐมนตรีไทยอาจต้องสูญเสียตำแหน่งในคณะรัฐมนตรีหลังจากมีผู้ตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับวุฒิการศึกษาระดับปริญญาตรีของเขาจากสถาบันการศึกษาโนเนมในประเทศฟิลิปปินส์
สุธา ชันแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ระบุว่าเขาจบการศึกษาจากวิทยาลัยรีพลับลิกัน (Republican College) ในเมืองเคซอน (Quezon City) ประเทศฟิลิปปินส์ หลังจากมีรายงานในหนังสือพิมพ์ระบุว่าเขาน่าจะจบแค่เกรด 12 หรือเทียบเท่ากับระดับมัธยมศึกษาเท่านั้น ทั้งนี้รัฐธรรมนูญของไทยระบุไว้ว่าผู้ที่จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีต้องจบการศึกษาไม่ต่ำกว่าระดับปริญญาตรี
นายสุธา ชันแสง รัฐมนตรีมือใหม่วัย 48 ปี สั่งให้เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์อธิบายกับสื่อมวลชนว่าเขาจบการศึกษามาจากวิทยาลัยรีพลับลิกันด้วยวุฒิการศึกษาระดับปริญญาตรีสาขา Bachelor of Science in Commerce (Management) degree ในปี ค.ศ.1984 (พ.ศ.2527)
ด้าน Ditas Lapata เจ้าหน้าที่สำนักทะเบียนวัย 59 ปีของวิทยาลัยกล่าวกับ Philippine Daily Inquirer ว่า “จากข้อมูลระเบียนชี้ให้เห็นว่าเขาจบการศึกษาจากโรงเรียนของเราในปี ค.ศ.1984” พร้อมกล่าวด้วยว่า ข้อมูลที่ว่ารวมไปถึง คำสั่งพิเศษ ใบรับรองฉบับจริงที่ออกให้โดยคณะกรรมการด้านสถาบันการศึกษาระดับสูงว่าเขาจบการศึกษาครบถ้วนตามหลักสูตร
ขณะที่เจ้าหน้าที่ทะเบียนระดับสูงอย่าง Dr.Homobono Aguiling II และเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ ก็ไม่ว่างที่จะให้สัมภาษณ์ในวันพุธที่ผ่านมา
ความลึกลับในเรื่องหนังสือเดินทาง
ต่อมาข้อถกเถียงเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็ได้แง่มุมใหม่เพิ่มเติมมาอีกเมื่อมีการค้นพบว่านายสุธาทำพาสปอร์ตเป็นครั้งแรกในปี ค.ศ.1994 (พ.ศ.2537) หรือสิบปีหลังจากที่เขาจบการศึกษามาจากวิทยาลัยรีพลับลิกันซึ่งตั้งอยู่ ณ เลขที่ 42 18th Ave., Murphy, Quezon City
อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่กระทรวงต่างประเทศของไทยกลับปฏิเสธที่จะเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับหนังสือเดินทางของนายสุธา โดยอ้างถึงเรื่องสิทธิส่วนบุคคล
ด้านหนังสือพิมพ์เดลี เอ็กซ์เพรส ได้รายงานว่านายสุธาไม่เคยระบุถึงวุฒิการศึกษาดังกล่าวมาก่อนในเอกสารของทางราชการ พร้อมกับระบุด้วยว่าในปี ค.ศ.1985 (พ.ศ.2528) ในใบปลิวหาเสียงในการเลือกตั้งสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) นายสุธา ระบุวุฒิการศึกษาของตนไว้เพียงแค่ ม.ศ.5 ส่วนวุฒิการศึกษาที่เขาระบุในการลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเมื่อปีที่แล้วเขาก็ระบุว่าเขาได้ประกาศนียบัตรชั้นสูงและวุฒิบัตรขั้นสูงสุด (FCILT) ด้านโลจิสติกส์และการขนส่ง จากสถาบันโลจิสติกส์และการขนส่ง
ด้านนายสุธาได้ให้สัมภาษณ์ว่า สาเหตุที่ก่อนหน้านี้เขาไม่ได้ระบุวุฒิการศึกษาระดับปริญญาตรีจากฟิลิปปินส์ก็เพราะว่า สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ไม่ได้ให้การรับรองสถาบันขณะที่เขาจบการศึกษา
สถาบันแห่งนี้ (วิทยาลัยรีพลับลิกัน) ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1949 (พ.ศ.2492) โดยครอบครัวของ Dr. Horosi Aguiling ปัจจุบันวิทยาลัยรีพลับลิกันเปิดสอนในหลักสูตรต่อเนื่องจากระดับมัธยมศึกษา ในระดับปริญญาตรีด้านการศึกษา, การค้า, อาชญวิทยา, ศิลปะศาสตร์, หลักสูตรเลขานุการ และในระดับปริญญาโทด้านศิลปะศาสตร์และการศึกษา โดยมีนักศึกษาทั้งหมดประมาณ 600 คน
ประสบการณ์ด้านการเมือง
Lapata เจ้าหน้าที่สำนักทะเบียนของวิทยาลัยรีพลับลิกันกล่าวด้วยว่า “เดือนที่แล้วมีเจ้าหน้าที่จากสถานทูตไทยมาที่นี่เพื่อตรวจสอบวุฒิการศึกษา (ของนายสุธา) จากนั้นเราจึงส่งสำเนาเอกสารทางดีเอชแอลไปตามที่เขาต้องการ”
หนังสือพิมพ์เดลี เอ็กซ์เพรส ระบุว่านายสุธาคลุกคลีในแวดวงการเมืองไทยมากว่า 20 ปีโดยเป็น ส.ก.กรุงเทพฯสองครั้งตั้งแต่ปี ค.ศ.1985 (พ.ศ.2528) นอกจากนี้ตั้งแต่ปี ค.ศ.1992 (พ.ศ.2535) เขายังเป็น ส.ส.ถึง 4 สมัย นอกจากนี้ยังเคยเป็นที่ปรึกษาของรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย, คลัง, คมนาคม และเกษตรฯ อีกด้วย
ระหว่างปี ค.ศ.2002-2004 (พ.ศ.2545-2547) เขายังเคยเป็นผู้บริหารของพรรคไทยรักไทย และปัจจุบันก็เป็นกรรมการบริหารพรรคพลังประชาชนซึ่งเป็นพรรคที่เป็นกลุ่มตัวแทนของพรรคไทยรักไทยของอดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร ที่ถูกยุบไปแล้ว (รายงานชิ้นนี้ได้รับความร่วมมือจาก Jerry E. Esplanada และหน่วยวิจัยของ Inquirer ในมะนิลา)
***********************************************************
อนึ่งรายงานชิ้นดังกล่าวของ Philippine Daily Inquirer ไม่ได้ชี้แจงถึงประเด็นเกี่ยวกับวุฒิการศึกษาของนายสุธาอย่างเช่น การลงทะเบียนเรียนในภาคที่สองของปีการศึกษา 1983-1984 (พ.ศ.2526-2527) แต่กลับได้รับวุฒิการศึกษาในเดือนมีนาคม ค.ศ.1984 (พ.ศ.2527) หรือหลังจากที่ลงทะเบียนเรียนไปได้เพียงแคเทอมเดียวเท่านั้น
ขณะที่วานนี้ (27 มี.ค.) หนังสือพิมพ์หลายฉบับได้ตีพิมพ์ข่าวการเดินทางไปยื่นหนังสือที่กระทรวงการต่างประเทศของนายไทกร พลสุวรรณ แกนนำกลุ่มอีสานกู้ชาติ เมื่อวันที่ 26 มี.ค. โดยนายไทกรได้เดินทางมายื่นหนังสือต่อนายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ เพื่อขอให้ตรวจสอบและเปิดเผยข้อมูลกรณีพิรุธเรื่องวุฒิการศึกษาระดับปริญญาตรีของนายสุธา ชันแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ซึ่งอาจจะขัดต่อรัฐธรรมนูญ พุทธศักราช 2550 มาตรา 174 ที่ระบุว่า รัฐมนตรีต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามดังข้อ (3) สำเร็จการศึกษาไม่ต่ำกว่าปริญญาตรี หรือเทียบเท่า โดยข้อมูลที่ต้องการให้ตรวจสอบและเปิดเผยมี 3 เรื่องดังนี้คือ 1.ประวัติการทำหนังสือเดินทางของนายสุธา, 2.ประวัติการเดินทางไปประเทศฟิลิปปินส์ของนายสุธา และ 3.ให้กรมการกงสุลประสานงานกับสถานทูตสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ เพื่อขอข้อมูลการเดินทางเข้า-ออกประเทศฟิลิปปินส์ของนายสุธา
ล่าสุด เมื่อวันที่ 26 มี.ค. ในเว็บบล็อก www.oknation.net/blog/thaibaan ซึ่งผู้เขียนเป็นชาวไทยใช้นามแฝงว่า “เสี่ยวไทบ้าน” ได้เดินทางไปพร้อมกับชาวฟิลิปปินส์เพื่อไปสำรวจวิทยาลัยรีพับลิกัน (Republican College) ณ 42-18th Avenue, Murphy, Quezon City ที่นายสุธาอ้างว่าจบการศึกษานั้นมีสภาพของสถานศึกษาเป็นอย่างไร
ทั้งนี้ สภาพของสถานที่เรียน Republican College ตามที่เจ้าของเว็บบล็อกดังกล่าวถ่ายภาพมาและบรรยายไว้นั้นเป็นห้องแถวเล็กๆ อยู่ริมถนนในย่านชุมชนแออัด ทางเข้าวิทยาลัยนั้นถูกเปิดเป็นประตูเล็กๆ ประตูเดียว ขณะที่สภาพอาคารเรียนก็เป็นตึกเก่าๆ ที่ปราศจากนักศึกษาหรืออาจารย์ โดยมีเจ้าหน้าที่ประจำอยู่เพียงไม่กี่คนเท่านั้น โดยตึกเรียนนั้นล้อมรอบสนามบาสเกตบอลที่อยู่ตรงกลาง
เมื่อเจ้าของเว็บบล็อกเข้าไปขอถ่ายเอกสารประกาศนียบัตร และระเบียนการศึกษาของนายสุธา เจ้าหน้าที่ที่ประจำอยู่ก็ค้นหาและมอบเอกสารให้โดยทันทีโดยไม่ได้สอบถามอะไร หรือแม้กระทั่งตรวจสอบว่าผู้มาขอเอกสารนั้นเป็นใคร โดยเมื่อได้เอกสารมาแล้วก็พบว่าในระเบียนการศึกษาของนายสุธานั้น ระบุเพียงชื่อ-นามสกุล อายุ และเพศเท่านั้น แต่ไม่มีที่อยู่หรือโทรศัพท์ติดต่อ
และยิ่งน่าสังเกตยิ่งขึ้นไปอีกว่าแม้ในระเบียนการศึกษาดังกล่าวจะระบุว่านายสุธาจบการศึกษาตั้งแต่เดือนมีนาคม ค.ศ.1984 (พ.ศ.2527) แต่กลับระบุอายุของนายสุธาว่า 48 ปี ซึ่งเป็นอายุปัจจุบันของนายสุธา (เกิดเมื่อวันที่ 13 มิ.ย.2503)
ขณะที่เมื่อดูไปยังเอกสารจบการศึกษาของนายสุธาก็พบพิรุธยิ่งขึ้นไปอีก โดยเอกสารต้นฉบับนั้นมีตราประทับใหม่ๆ ที่ระบุ ค.ศ.2008 (พ.ศ.2551) อันเป็นข้อพิสูจน์ได้ว่าเอกสารดังกล่าวเพิ่งออกมาใหม่ๆ และไม่ได้มีร่องรอยของการเป็นเอกสารเก่าอายุกว่า 20 ปีดังที่นายสุธากล่าวอ้างว่าจบการศึกษาตั้งแต่ปี พ.ศ.2527 เลย
สื่อฟิลิปปินส์ตีข่าวเก้าอี้ รมต.อาจหลุด
ขณะที่วานนี้ (27 มี.ค.) หนังสือพิมพ์ Philippine Daily Inquirerได้ตีพิมพ์ข่าว “รัฐมนตรีไทยอาจต้องหลุดจากตำแหน่งจากปัญหาวุฒิการศึกษา” ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับพิรุธเรื่องวุฒิการศึกษาระดับปริญญาตรีของนายสุธาในหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์โดยเนื้อหามีดังนี้คือ
***********************************************************
รัฐมนตรีไทยอาจต้องสูญเสียตำแหน่งในคณะรัฐมนตรีหลังจากมีผู้ตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับวุฒิการศึกษาระดับปริญญาตรีของเขาจากสถาบันการศึกษาโนเนมในประเทศฟิลิปปินส์
สุธา ชันแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ระบุว่าเขาจบการศึกษาจากวิทยาลัยรีพลับลิกัน (Republican College) ในเมืองเคซอน (Quezon City) ประเทศฟิลิปปินส์ หลังจากมีรายงานในหนังสือพิมพ์ระบุว่าเขาน่าจะจบแค่เกรด 12 หรือเทียบเท่ากับระดับมัธยมศึกษาเท่านั้น ทั้งนี้รัฐธรรมนูญของไทยระบุไว้ว่าผู้ที่จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีต้องจบการศึกษาไม่ต่ำกว่าระดับปริญญาตรี
นายสุธา ชันแสง รัฐมนตรีมือใหม่วัย 48 ปี สั่งให้เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์อธิบายกับสื่อมวลชนว่าเขาจบการศึกษามาจากวิทยาลัยรีพลับลิกันด้วยวุฒิการศึกษาระดับปริญญาตรีสาขา Bachelor of Science in Commerce (Management) degree ในปี ค.ศ.1984 (พ.ศ.2527)
ด้าน Ditas Lapata เจ้าหน้าที่สำนักทะเบียนวัย 59 ปีของวิทยาลัยกล่าวกับ Philippine Daily Inquirer ว่า “จากข้อมูลระเบียนชี้ให้เห็นว่าเขาจบการศึกษาจากโรงเรียนของเราในปี ค.ศ.1984” พร้อมกล่าวด้วยว่า ข้อมูลที่ว่ารวมไปถึง คำสั่งพิเศษ ใบรับรองฉบับจริงที่ออกให้โดยคณะกรรมการด้านสถาบันการศึกษาระดับสูงว่าเขาจบการศึกษาครบถ้วนตามหลักสูตร
ขณะที่เจ้าหน้าที่ทะเบียนระดับสูงอย่าง Dr.Homobono Aguiling II และเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ ก็ไม่ว่างที่จะให้สัมภาษณ์ในวันพุธที่ผ่านมา
ความลึกลับในเรื่องหนังสือเดินทาง
ต่อมาข้อถกเถียงเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็ได้แง่มุมใหม่เพิ่มเติมมาอีกเมื่อมีการค้นพบว่านายสุธาทำพาสปอร์ตเป็นครั้งแรกในปี ค.ศ.1994 (พ.ศ.2537) หรือสิบปีหลังจากที่เขาจบการศึกษามาจากวิทยาลัยรีพลับลิกันซึ่งตั้งอยู่ ณ เลขที่ 42 18th Ave., Murphy, Quezon City
อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่กระทรวงต่างประเทศของไทยกลับปฏิเสธที่จะเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับหนังสือเดินทางของนายสุธา โดยอ้างถึงเรื่องสิทธิส่วนบุคคล
ด้านหนังสือพิมพ์เดลี เอ็กซ์เพรส ได้รายงานว่านายสุธาไม่เคยระบุถึงวุฒิการศึกษาดังกล่าวมาก่อนในเอกสารของทางราชการ พร้อมกับระบุด้วยว่าในปี ค.ศ.1985 (พ.ศ.2528) ในใบปลิวหาเสียงในการเลือกตั้งสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) นายสุธา ระบุวุฒิการศึกษาของตนไว้เพียงแค่ ม.ศ.5 ส่วนวุฒิการศึกษาที่เขาระบุในการลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเมื่อปีที่แล้วเขาก็ระบุว่าเขาได้ประกาศนียบัตรชั้นสูงและวุฒิบัตรขั้นสูงสุด (FCILT) ด้านโลจิสติกส์และการขนส่ง จากสถาบันโลจิสติกส์และการขนส่ง
ด้านนายสุธาได้ให้สัมภาษณ์ว่า สาเหตุที่ก่อนหน้านี้เขาไม่ได้ระบุวุฒิการศึกษาระดับปริญญาตรีจากฟิลิปปินส์ก็เพราะว่า สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ไม่ได้ให้การรับรองสถาบันขณะที่เขาจบการศึกษา
สถาบันแห่งนี้ (วิทยาลัยรีพลับลิกัน) ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1949 (พ.ศ.2492) โดยครอบครัวของ Dr. Horosi Aguiling ปัจจุบันวิทยาลัยรีพลับลิกันเปิดสอนในหลักสูตรต่อเนื่องจากระดับมัธยมศึกษา ในระดับปริญญาตรีด้านการศึกษา, การค้า, อาชญวิทยา, ศิลปะศาสตร์, หลักสูตรเลขานุการ และในระดับปริญญาโทด้านศิลปะศาสตร์และการศึกษา โดยมีนักศึกษาทั้งหมดประมาณ 600 คน
ประสบการณ์ด้านการเมือง
Lapata เจ้าหน้าที่สำนักทะเบียนของวิทยาลัยรีพลับลิกันกล่าวด้วยว่า “เดือนที่แล้วมีเจ้าหน้าที่จากสถานทูตไทยมาที่นี่เพื่อตรวจสอบวุฒิการศึกษา (ของนายสุธา) จากนั้นเราจึงส่งสำเนาเอกสารทางดีเอชแอลไปตามที่เขาต้องการ”
หนังสือพิมพ์เดลี เอ็กซ์เพรส ระบุว่านายสุธาคลุกคลีในแวดวงการเมืองไทยมากว่า 20 ปีโดยเป็น ส.ก.กรุงเทพฯสองครั้งตั้งแต่ปี ค.ศ.1985 (พ.ศ.2528) นอกจากนี้ตั้งแต่ปี ค.ศ.1992 (พ.ศ.2535) เขายังเป็น ส.ส.ถึง 4 สมัย นอกจากนี้ยังเคยเป็นที่ปรึกษาของรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย, คลัง, คมนาคม และเกษตรฯ อีกด้วย
ระหว่างปี ค.ศ.2002-2004 (พ.ศ.2545-2547) เขายังเคยเป็นผู้บริหารของพรรคไทยรักไทย และปัจจุบันก็เป็นกรรมการบริหารพรรคพลังประชาชนซึ่งเป็นพรรคที่เป็นกลุ่มตัวแทนของพรรคไทยรักไทยของอดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร ที่ถูกยุบไปแล้ว (รายงานชิ้นนี้ได้รับความร่วมมือจาก Jerry E. Esplanada และหน่วยวิจัยของ Inquirer ในมะนิลา)
***********************************************************
อนึ่งรายงานชิ้นดังกล่าวของ Philippine Daily Inquirer ไม่ได้ชี้แจงถึงประเด็นเกี่ยวกับวุฒิการศึกษาของนายสุธาอย่างเช่น การลงทะเบียนเรียนในภาคที่สองของปีการศึกษา 1983-1984 (พ.ศ.2526-2527) แต่กลับได้รับวุฒิการศึกษาในเดือนมีนาคม ค.ศ.1984 (พ.ศ.2527) หรือหลังจากที่ลงทะเบียนเรียนไปได้เพียงแคเทอมเดียวเท่านั้น