รอยเตอร์/เอเอฟพี - รายงานวิจัยของสหประชาชาติเตือนผู้ป่วยเอดส์ในเอเชียอาจเพิ่มขึ้นจากกว่า 4,000,000 คน เป็น 8,000,000 คน และยอดคนตายจากโรคเอดส์อาจเพิ่มขึ้นเป็นเกือบ 500,000 คน ภายในปี2020 หากรัฐบาลยังไม่แก้ปัญหาให้มากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ แนะควรทุ่มงบประมาณป้องกันโรค อย่างน้อย 30 เซ็นต์ต่อประชากร 1 คน
ผลการวิจัยซึ่งจัดทำตามที่องค์การยูเอ็นเอดส์มอบหมาย ระบุว่าปัจจุบันมีผู้ติดเชื้อเอดส์ในเอเชียเกือบ 5,000,000 คน และมีผู้เสียชีวิตจากโรคร้ายนี้ปีละ 440,000 คน ทั้งนี้ องค์การชำนัญพิเศษของสหประชาชาติที่รณรงค์มาตรการเพื่อป้องกันการระบาดของโรคเอดส์เตือนว่า หากยังไม่มีมาตรการต่อสู้ป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสเอชไอวีให้มากกว่าที่เป็นอยู่ จำนวนผู้ติดเชื้อในเอเชียอาจเพิ่มขึ้นกว่า 150% เป็น 8,000,000 คน ภายในปี2020
ผลการวิจัยชิ้นนี้พบว่า การแพร่เชื้อเอดส์ในเอเชียเพิ่มขึ้นสืบเนื่องจากพฤติกรรมเข้าข่ายเสี่ยงติดเชื้อเอดส์ของคน 3 กลุ่มใหญ่ อันได้แก่ ผู้ขายบริการทางเพศและลูกค้าที่ไม่ใช้อุปกรณ์ป้องกัน ผู้ใช้ยาเสพติดแบบฉีดเข้าเส้นเลือด และกลุ่มชายรักร่วมเพศที่ไม่ใช้อุปกรณ์ป้องกัน
ผลการวิจัยชิ้นชี้ว่าโรคเอดส์เป็นปัจจัยสำคัญที่สุดที่ทำให้เกิดการเสียชีวิตและการสูญเสียวันทำงาน ในหมู่ประชากรอายุ 15 - 44 ปี ในเอเชีย ทั้งนี้ เอเชียเป็นภูมิภาคที่มีผู้ติดเชื้อเอดส์มากที่สุดเป็นอันดับสอง รองจากซับซาฮาราในแอฟริกา ซึ่งมีผู้ติดเชื้อเอชไอวีราว 22,500,000 คน
สำหรับงบประมาณในการแก้ปัญหาโรคเอดส์นั้น ผลการวิจัยชิ้นนี้พบว่า ในปีที่แล้ว รัฐบาลต่างๆในเอเชียได้จัดงบประมาณในการป้องกันโรคเอดส์เพียง 1,200 ล้านดอลลาร์ ขณะที่หากจะดำเนินมาตรการป้องกันโรคเอดส์อย่างมีประสิทธิภาพ จำเป็นต้องใช้งบประมาณ 6,400 ล้านดอลลาร์
ผลการวิจัยชี้แนะว่าจำเป็นต้องใช้งบประมาณรายปีจำนวน 30 - 50 เซ็นต์ ต่อประชากร 1 คน ในการดำเนินมาตรการป้องกันโรค แต่หากรัฐบาลเพิ่มงบประมาณเป็น 1 ดอลลาร์ ต่อประชากร 1 คน จะสามารถดำเนินมาตรการที่กว้างขึ้นซึ่งรวมถึงการรักษาโรค
ผลการวิจัยซึ่งจัดทำตามที่องค์การยูเอ็นเอดส์มอบหมาย ระบุว่าปัจจุบันมีผู้ติดเชื้อเอดส์ในเอเชียเกือบ 5,000,000 คน และมีผู้เสียชีวิตจากโรคร้ายนี้ปีละ 440,000 คน ทั้งนี้ องค์การชำนัญพิเศษของสหประชาชาติที่รณรงค์มาตรการเพื่อป้องกันการระบาดของโรคเอดส์เตือนว่า หากยังไม่มีมาตรการต่อสู้ป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสเอชไอวีให้มากกว่าที่เป็นอยู่ จำนวนผู้ติดเชื้อในเอเชียอาจเพิ่มขึ้นกว่า 150% เป็น 8,000,000 คน ภายในปี2020
ผลการวิจัยชิ้นนี้พบว่า การแพร่เชื้อเอดส์ในเอเชียเพิ่มขึ้นสืบเนื่องจากพฤติกรรมเข้าข่ายเสี่ยงติดเชื้อเอดส์ของคน 3 กลุ่มใหญ่ อันได้แก่ ผู้ขายบริการทางเพศและลูกค้าที่ไม่ใช้อุปกรณ์ป้องกัน ผู้ใช้ยาเสพติดแบบฉีดเข้าเส้นเลือด และกลุ่มชายรักร่วมเพศที่ไม่ใช้อุปกรณ์ป้องกัน
ผลการวิจัยชิ้นชี้ว่าโรคเอดส์เป็นปัจจัยสำคัญที่สุดที่ทำให้เกิดการเสียชีวิตและการสูญเสียวันทำงาน ในหมู่ประชากรอายุ 15 - 44 ปี ในเอเชีย ทั้งนี้ เอเชียเป็นภูมิภาคที่มีผู้ติดเชื้อเอดส์มากที่สุดเป็นอันดับสอง รองจากซับซาฮาราในแอฟริกา ซึ่งมีผู้ติดเชื้อเอชไอวีราว 22,500,000 คน
สำหรับงบประมาณในการแก้ปัญหาโรคเอดส์นั้น ผลการวิจัยชิ้นนี้พบว่า ในปีที่แล้ว รัฐบาลต่างๆในเอเชียได้จัดงบประมาณในการป้องกันโรคเอดส์เพียง 1,200 ล้านดอลลาร์ ขณะที่หากจะดำเนินมาตรการป้องกันโรคเอดส์อย่างมีประสิทธิภาพ จำเป็นต้องใช้งบประมาณ 6,400 ล้านดอลลาร์
ผลการวิจัยชี้แนะว่าจำเป็นต้องใช้งบประมาณรายปีจำนวน 30 - 50 เซ็นต์ ต่อประชากร 1 คน ในการดำเนินมาตรการป้องกันโรค แต่หากรัฐบาลเพิ่มงบประมาณเป็น 1 ดอลลาร์ ต่อประชากร 1 คน จะสามารถดำเนินมาตรการที่กว้างขึ้นซึ่งรวมถึงการรักษาโรค