ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ – ปัญหาหมอกควันเชียงใหม่คลี่คลาย คุณภาพอากาศปกติ แต่ยังเฝ้าระวังต่อเนื่อง จังหวัดเตรียมทำหนังสือแจงกงสุลต่างประเทศ ขณะแพทย์เชียงใหม่เผย ยอดผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจเข้ารับการรักษาตัวเพิ่มขึ้น ช่วงเกิดหมอกควัน วันละ 2,000-3,000 คน เป็นเรื่องปกติในช่วงนี้ของทุกปี
นายภุชงค์ อินสมพันธ์ หัวหน้าสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยถึงสถานการณ์หมอกควันในจังหวัดเชียงใหม่ว่า วานนี้(26 มี.ค.51) จากการตรวจวัดคุณภาพอากาศของกรมควบคุมมลพิษพบว่า คุณภาพอากาศเมืองเชียงใหม่กลับไปอยู่ในระดับที่ดี ตามเกณฑ์มาตรฐานแล้ว แต่ยังคงต้องมีการดำเนินมาตรการต่างๆ คุมเข้มอย่างต่อเนื่องต่อไป
ทั้งนี้ยืนยันว่าสถานการณ์คุณภาพอากาศเมืองเชียงใหม่ไม่ได้เลวร้าย โดยเวลานี้เตรียมที่จะทำหนังสือชี้แจงเกี่ยวกับสถานการณ์หมอกควันที่เกิดขึ้น ส่งไปยังสถานกงสุลประเทศต่างๆ ในจังหวัดเชียงใหม่ด้วย เพื่อให้เกิดความเข้าใจสถานการณ์อย่างถูกต้อง รวมทั้งเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบต่อภาพลักษณ์และการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ด้วย
ด้านนายแพทย์วัฒนา กาญจนกามล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า จากรายงานของโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุขทั้ง 24 แห่งในจังหวัดเชียงใหม่ พบว่าในช่วงนี้มีผู้ป่วยที่เจ็บป่วยด้วยโรคเกี่ยวข้องกับระบบทางเดินหายใจเข้ารับการรักษาตัวประมาณวันละ 2,000 -3,000 คน ซึ่งยอมรับว่าสูงขึ้นกว่าช่วงสภาพอากาศปกติ
อย่างไรก็ตาม ถือเป็นเรื่องปกติที่ในช่วงนี้ของทุกปีจะมีผู้ป่วยด้วยโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินหายใจ เข้ารับการรักษาตัวมากขึ้น เนื่องจากสภาพอากาศที่ปกคลุมด้วยหมอกควัน แต่ทั้งนี้ถือว่าสถานการณ์ไม่ได้รุนแรงแต่อย่างใด โดยเฉพาะอย่างเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ที่มีผู้ป่วยเข้ารับการรักษาตัวมากกว่านี้หลายเท่าตัว
นายแพทย์วัฒนา กล่าวอีกว่า หากสถานการณ์หมอกควันและคุณภาพอากาศกลับสู่ภาวะปกติ เชื่อว่าจำนวนผู้ป่วยที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาหมอกควันน่าจะลดจำนวนลง และเชื่อว่าผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อสุขภาพของประชาชน น่าจะเกิดขึ้นในระยะสั้นเท่านั้น โดยไม่น่าจะมีผลกระทบสะสมแต่อย่างใด
ขณะที่นายแพทย์ชัชวาลย์ ศิรินิรันดร์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครพิงค์ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลประจำจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ในช่วงนี้มีผู้ป่วยด้วยโรคระบบทางเดินหายใจเข้ารับการรักษาตัวเฉลี่ยวันละประมาณ 300 คน โดยการป้องกันตัวของประชาชนในช่วงที่มีปัญหาหมอกควันรุนแรง แนะนำว่าควรหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมนอกบ้านหรือตัวอาคารเป็นเวลานาน และควรงดการออกกำลังกายกลางแจ้ง ปิดประตูหน้าต่างบ้าน ทั้งนี้หากมีความจำเป็นต้องออกทำกิจกรรมนอกบ้านควรสวมหน้ากากป้องกันฝุ่นละอองหรือใช้ผ้าชุบน้ำปิดหน้า
นายภุชงค์ อินสมพันธ์ หัวหน้าสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยถึงสถานการณ์หมอกควันในจังหวัดเชียงใหม่ว่า วานนี้(26 มี.ค.51) จากการตรวจวัดคุณภาพอากาศของกรมควบคุมมลพิษพบว่า คุณภาพอากาศเมืองเชียงใหม่กลับไปอยู่ในระดับที่ดี ตามเกณฑ์มาตรฐานแล้ว แต่ยังคงต้องมีการดำเนินมาตรการต่างๆ คุมเข้มอย่างต่อเนื่องต่อไป
ทั้งนี้ยืนยันว่าสถานการณ์คุณภาพอากาศเมืองเชียงใหม่ไม่ได้เลวร้าย โดยเวลานี้เตรียมที่จะทำหนังสือชี้แจงเกี่ยวกับสถานการณ์หมอกควันที่เกิดขึ้น ส่งไปยังสถานกงสุลประเทศต่างๆ ในจังหวัดเชียงใหม่ด้วย เพื่อให้เกิดความเข้าใจสถานการณ์อย่างถูกต้อง รวมทั้งเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบต่อภาพลักษณ์และการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ด้วย
ด้านนายแพทย์วัฒนา กาญจนกามล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า จากรายงานของโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุขทั้ง 24 แห่งในจังหวัดเชียงใหม่ พบว่าในช่วงนี้มีผู้ป่วยที่เจ็บป่วยด้วยโรคเกี่ยวข้องกับระบบทางเดินหายใจเข้ารับการรักษาตัวประมาณวันละ 2,000 -3,000 คน ซึ่งยอมรับว่าสูงขึ้นกว่าช่วงสภาพอากาศปกติ
อย่างไรก็ตาม ถือเป็นเรื่องปกติที่ในช่วงนี้ของทุกปีจะมีผู้ป่วยด้วยโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินหายใจ เข้ารับการรักษาตัวมากขึ้น เนื่องจากสภาพอากาศที่ปกคลุมด้วยหมอกควัน แต่ทั้งนี้ถือว่าสถานการณ์ไม่ได้รุนแรงแต่อย่างใด โดยเฉพาะอย่างเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ที่มีผู้ป่วยเข้ารับการรักษาตัวมากกว่านี้หลายเท่าตัว
นายแพทย์วัฒนา กล่าวอีกว่า หากสถานการณ์หมอกควันและคุณภาพอากาศกลับสู่ภาวะปกติ เชื่อว่าจำนวนผู้ป่วยที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาหมอกควันน่าจะลดจำนวนลง และเชื่อว่าผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อสุขภาพของประชาชน น่าจะเกิดขึ้นในระยะสั้นเท่านั้น โดยไม่น่าจะมีผลกระทบสะสมแต่อย่างใด
ขณะที่นายแพทย์ชัชวาลย์ ศิรินิรันดร์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครพิงค์ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลประจำจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ในช่วงนี้มีผู้ป่วยด้วยโรคระบบทางเดินหายใจเข้ารับการรักษาตัวเฉลี่ยวันละประมาณ 300 คน โดยการป้องกันตัวของประชาชนในช่วงที่มีปัญหาหมอกควันรุนแรง แนะนำว่าควรหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมนอกบ้านหรือตัวอาคารเป็นเวลานาน และควรงดการออกกำลังกายกลางแจ้ง ปิดประตูหน้าต่างบ้าน ทั้งนี้หากมีความจำเป็นต้องออกทำกิจกรรมนอกบ้านควรสวมหน้ากากป้องกันฝุ่นละอองหรือใช้ผ้าชุบน้ำปิดหน้า