ผู้จัดการรายวัน - CENTEL เตรียมออกกองทุนอสังหาฯ มูลค่า 3-4 พันล้านบาท ดึงโรงแรมดีสุดของกลุ่มเข้าเป็นสินทรัพย์ พร้อมเบรกแผนออกหุ้นเพิ่มทุนอ้างขอรอดูภาวะตลาดหุ้น ส่วนการหา Strategic Partner ลั่นอีก2 เดือนได้ข้อสรุป ตั้งเป้ารายได้ปีนี้ที่ 8.4 พันล้านบาท โต 15% จากปีก่อน จากแนวโน้มธุรกิจโตตามการท่องเที่ยว และการเปิดโรงแรมใหม่ แถมทุ่ม 4 พันล้านบาท ก่อสร้างโรงแรม และเพิ่มสาขาธุรกิจอาหาร
นายรณชิต มหัทธนะพฤทธิ์ ผู้ช่วยกรรมการฝ่ายการเงิน-บัญชี บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมแผนออกกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ มูลค่า 3,000-4,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะเปิดขายได้ในช่วงปลายไตรมาส 2/51 ซึ่งจะต้องรอความเห็นชอบของคณะกรรมการบริษัทก่อน โดยจะนำโรงแรมในต่างจังหวัดที่ดีที่สุดของกลุ่มเข้ามาเป็นสินทรัพย์ของกองทุน ส่วนการออกหุ้นเพิ่มทุนจะชะลอออกไปเพราะต้องรอดูภาวะของตลาดหุ้นไทยโดยรวมก่อนตัดสินใจอีกครั้ง
สำหรับความคืบหน้าในการหา Strategic Partner คาดว่าจะชัดเจนในเวลา 1-2 เดือน วงเงินประมาณ 1 พันล้านบาท โดยจะเป็นนักลงทุนต่างชาติรายใหญ่เข้ามาถือหุ้นบริษัทในสัดส่วนไม่เกิน 49% ตามที่กฎหมายกำหนดไว้ ซึ่งขณะนี้ยอมรับว่ามีการเจรจากับกลุ่มทุนหรนือนักลงทุนหลายราย ทั้งนี้บริษัทเชื่อว่าการหาพันธมิตรจะช่วยให้แผนธุรกิจต่างๆ ขยายได้เร็วขึ้น
ขณะเดียวกัน บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 51 เติบโต 15% อยู่ที่ 8,200-8,400 ล้านบาท จากรายได้ 7,200 ล้านบาทในปีที่ผ่านมา เช่นเดียวกับกำไรที่คาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้น ตามแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจการท่องเที่ยว และโรงแรม Centara Grand at Central World ที่จะเปิดให้บริการครบ 505 ห้องในเดือนตุลาคม ซึ่งจะช่วยเพิ่มรายได้อีกช่องทางหนึ่ง หรือโดยรวมธุรกิจโรงแรมจะเติบโต 20-30% ตามเป้าที่ 3,400 ล้านบาท ส่วนธุรกิจอาหารจะเติบโต 15% มากกว่าภาวะตลาดที่คาดไว้ 8% โดยมีเป้ารายได้ที่ 4,800-5,000 ล้านบาท ดังนั้นรายได้รวมในปีนี้จะมาจากธุรกิจโรงแรม 43% และธุรกิจอาหาร 57% จากปี 2550 ที่มีสัดส่วนรายได้จากธุรกิจโรงแรม 40% และธุรกิจอาหาร 60%
นายรณชิต กล่าวว่า ในปี2551 บริษัทตั้งงบลงทุนไว้ที่ 4,022 ล้านบาท แบ่งเป็นการลงทุนในการก่อสร้างโรงแรมใหม่ 3 แห่ง คือ โรงแรม Centara Grand at Central World โรงแรม Centara Grand mirage beach resort ที่พัทยา และโรงแรม Centara Grand ภูเก็ต จำนวน 3,335 ล้านบาท รวมทั้งการลงทุนในโรงแรมเก่า 347 ล้านบาท และการลงทุนในธุรกิจอาหาร 340 ล้านบาท โดยมีแผนเปิดสาขาใหม่เพิ่มเติมอีก 24-25 แห่ง พร้อมกับเปิดตัวแบรนด์ใหม่ 1 แบรนด์ในช่วงครึ่งปีหลัง รวมถึงการเปลี่ยนรูปโฉมของร้าน Mister Donut เพื่อดึงดูดลูกค้าเข้ามาใช้บริการมากขึ้น
"โรงแรม Centara Grand mirage beach resort ที่พัทยา เราคาดว่าจะเปิดในช่วงไตรมาส 3-4 /52 โดยจะเปิดบริการทั้งหมด 555 ห้อง และในช่วงไตรมาส 2/53 จะเปิดให้บริการแบบเต็มรูปแบบที่โรงแรม Centara Grand ภูเก็ต ประมาณ 268 ห้อง ส่วนโรงแรม Centara Grand at Central World ที่กรุงเทพ จะเปิดให้บริการบางส่วน(soft opening)ในช่วง พ.ค. ประมาณ 100 ห้องและเปิดบริการเต็มรูปแบบในช่วงเดือนต.ค. จำนวน 505 ห้อง" นายรณชิต กล่าว
นอกจากนี้ บริษัทเตรียมเจรจารับบริหารโรงแรมในย่านเอเชีย 1 แห่ง โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายใน 1-2 เดือน ซึ่งงานดังกล่าวถือว่าให้ผลตอบแทนค่อนข้างสูง และเป็นการปูพื้นฐานการบริหารโรงแรมในอนาคต ขณะเดียวกันบริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาขยายธุรกิจเพิ่มในประเทศจีน อินเดีย และเวียดนาม
นายรณชิต มหัทธนะพฤทธิ์ ผู้ช่วยกรรมการฝ่ายการเงิน-บัญชี บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมแผนออกกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ มูลค่า 3,000-4,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะเปิดขายได้ในช่วงปลายไตรมาส 2/51 ซึ่งจะต้องรอความเห็นชอบของคณะกรรมการบริษัทก่อน โดยจะนำโรงแรมในต่างจังหวัดที่ดีที่สุดของกลุ่มเข้ามาเป็นสินทรัพย์ของกองทุน ส่วนการออกหุ้นเพิ่มทุนจะชะลอออกไปเพราะต้องรอดูภาวะของตลาดหุ้นไทยโดยรวมก่อนตัดสินใจอีกครั้ง
สำหรับความคืบหน้าในการหา Strategic Partner คาดว่าจะชัดเจนในเวลา 1-2 เดือน วงเงินประมาณ 1 พันล้านบาท โดยจะเป็นนักลงทุนต่างชาติรายใหญ่เข้ามาถือหุ้นบริษัทในสัดส่วนไม่เกิน 49% ตามที่กฎหมายกำหนดไว้ ซึ่งขณะนี้ยอมรับว่ามีการเจรจากับกลุ่มทุนหรนือนักลงทุนหลายราย ทั้งนี้บริษัทเชื่อว่าการหาพันธมิตรจะช่วยให้แผนธุรกิจต่างๆ ขยายได้เร็วขึ้น
ขณะเดียวกัน บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 51 เติบโต 15% อยู่ที่ 8,200-8,400 ล้านบาท จากรายได้ 7,200 ล้านบาทในปีที่ผ่านมา เช่นเดียวกับกำไรที่คาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้น ตามแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจการท่องเที่ยว และโรงแรม Centara Grand at Central World ที่จะเปิดให้บริการครบ 505 ห้องในเดือนตุลาคม ซึ่งจะช่วยเพิ่มรายได้อีกช่องทางหนึ่ง หรือโดยรวมธุรกิจโรงแรมจะเติบโต 20-30% ตามเป้าที่ 3,400 ล้านบาท ส่วนธุรกิจอาหารจะเติบโต 15% มากกว่าภาวะตลาดที่คาดไว้ 8% โดยมีเป้ารายได้ที่ 4,800-5,000 ล้านบาท ดังนั้นรายได้รวมในปีนี้จะมาจากธุรกิจโรงแรม 43% และธุรกิจอาหาร 57% จากปี 2550 ที่มีสัดส่วนรายได้จากธุรกิจโรงแรม 40% และธุรกิจอาหาร 60%
นายรณชิต กล่าวว่า ในปี2551 บริษัทตั้งงบลงทุนไว้ที่ 4,022 ล้านบาท แบ่งเป็นการลงทุนในการก่อสร้างโรงแรมใหม่ 3 แห่ง คือ โรงแรม Centara Grand at Central World โรงแรม Centara Grand mirage beach resort ที่พัทยา และโรงแรม Centara Grand ภูเก็ต จำนวน 3,335 ล้านบาท รวมทั้งการลงทุนในโรงแรมเก่า 347 ล้านบาท และการลงทุนในธุรกิจอาหาร 340 ล้านบาท โดยมีแผนเปิดสาขาใหม่เพิ่มเติมอีก 24-25 แห่ง พร้อมกับเปิดตัวแบรนด์ใหม่ 1 แบรนด์ในช่วงครึ่งปีหลัง รวมถึงการเปลี่ยนรูปโฉมของร้าน Mister Donut เพื่อดึงดูดลูกค้าเข้ามาใช้บริการมากขึ้น
"โรงแรม Centara Grand mirage beach resort ที่พัทยา เราคาดว่าจะเปิดในช่วงไตรมาส 3-4 /52 โดยจะเปิดบริการทั้งหมด 555 ห้อง และในช่วงไตรมาส 2/53 จะเปิดให้บริการแบบเต็มรูปแบบที่โรงแรม Centara Grand ภูเก็ต ประมาณ 268 ห้อง ส่วนโรงแรม Centara Grand at Central World ที่กรุงเทพ จะเปิดให้บริการบางส่วน(soft opening)ในช่วง พ.ค. ประมาณ 100 ห้องและเปิดบริการเต็มรูปแบบในช่วงเดือนต.ค. จำนวน 505 ห้อง" นายรณชิต กล่าว
นอกจากนี้ บริษัทเตรียมเจรจารับบริหารโรงแรมในย่านเอเชีย 1 แห่ง โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายใน 1-2 เดือน ซึ่งงานดังกล่าวถือว่าให้ผลตอบแทนค่อนข้างสูง และเป็นการปูพื้นฐานการบริหารโรงแรมในอนาคต ขณะเดียวกันบริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาขยายธุรกิจเพิ่มในประเทศจีน อินเดีย และเวียดนาม
