รับตำแหน่งใหม่สดๆร้อน สำหรับ กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) ของคุณ มาร์ค เดวาเดสัน โดยนัดแรกของการพบปะสื่อมวลชน มาร์ค ได้เข้ามาทักทายสื่อมวลชนอย่างเป็นกันเอง เหมือนเตรียมตัวมาอย่างดีในการทักทายคำว่า “สวัสดีครับ” เสียงดังฟังชัดมาก พบกันครั้งแรกก็ประทับใจซะแล้ว
ก่อนที่จะมีการพูดถึงแผนธุรกิจ เข้ามารับตำแหน่งใหญ่ในประเทศไทย ก็ได้เล่าถึงประวัติส่วนตัวเพื่อแนะนำให้นักข่าวได้รับทราบกัน เริ่มต้นก็อธิบายถึงครอบครัวเป็นนานาชาติโดยแท้จริง เริ่มจาก คุณแม่เป็นคนอังกฤษ คุณพ่อ เป็นชาวศรีลังกา ภรรยาสัญชาติ ออสเตเลีย ทำอาชีพทนาย อ้อลืมไป ก่อนมีภรรยาต้องเกิดก่อน มาร์คเกิดที่อังกฤษ แต่หน้าเหมือนแขก
ส่วนลูกๆ 2 คนนั้น ก็แยกย้ายกันไปเกิดในแต่ละประเทศที่ มาร์คและภรรยา เดินทางไปทำงาน โดยลูกคนแรกเกิดที่ ฟิลิปปินส์ คนที่สอง เกิดที่สิงคโปร์ แค่นี้มาร์คได้หยุดยิ้มพักหนึ่ง ก่อนที่จะตบท้ายด้วยการเล่าถึงครอบครัวต่อ ยังเหลือ สุนัขที่ติดตามเค้าไปตลอด เป็นสัญชาติญี่ปุ่น พอเล่าจบก็หันมาถามนักข่าวว่า เค้าควรเรียกตัวเองว่าเป็นคนที่ไหน
ฟังดูแล้วน่าสงสัยแทนทำไมถึงได้เป็นครอบครัวนานาชาติอย่างนี้ แต่พอได้อ่านประวัติแล้ว คงจะร้องอ้อ เพราะเป็นบุคคลที่มีความรู้ ความสามารถมาก มีความเชียวชาญด้านธุรกิจการเงินตลอด เข้ามาอยู่ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดในปี 2528 และมีความก้าวหน้าตลอด ผ่านงานในประเทศ เช่น ลอนดอน อังกฤษ ออสเตเลีย ฮ่องกง สิงคโปร์ และก่อนที่จะมาประจำที่ประเทศไทย ได้ดำรงตำแหน่ง CEO ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดญี่ปุ่น
แหมคุณมาร์คค่ะ ถ้าจะให้ดี ลูกคนที่ 3 ขอให้เกิดที่ประเทศไทยนะค่ะ จะได้มีสัญชาติไทยติดเข้าไปในครอบครัวด้วยค่ะ
ก่อนที่จะมีการพูดถึงแผนธุรกิจ เข้ามารับตำแหน่งใหญ่ในประเทศไทย ก็ได้เล่าถึงประวัติส่วนตัวเพื่อแนะนำให้นักข่าวได้รับทราบกัน เริ่มต้นก็อธิบายถึงครอบครัวเป็นนานาชาติโดยแท้จริง เริ่มจาก คุณแม่เป็นคนอังกฤษ คุณพ่อ เป็นชาวศรีลังกา ภรรยาสัญชาติ ออสเตเลีย ทำอาชีพทนาย อ้อลืมไป ก่อนมีภรรยาต้องเกิดก่อน มาร์คเกิดที่อังกฤษ แต่หน้าเหมือนแขก
ส่วนลูกๆ 2 คนนั้น ก็แยกย้ายกันไปเกิดในแต่ละประเทศที่ มาร์คและภรรยา เดินทางไปทำงาน โดยลูกคนแรกเกิดที่ ฟิลิปปินส์ คนที่สอง เกิดที่สิงคโปร์ แค่นี้มาร์คได้หยุดยิ้มพักหนึ่ง ก่อนที่จะตบท้ายด้วยการเล่าถึงครอบครัวต่อ ยังเหลือ สุนัขที่ติดตามเค้าไปตลอด เป็นสัญชาติญี่ปุ่น พอเล่าจบก็หันมาถามนักข่าวว่า เค้าควรเรียกตัวเองว่าเป็นคนที่ไหน
ฟังดูแล้วน่าสงสัยแทนทำไมถึงได้เป็นครอบครัวนานาชาติอย่างนี้ แต่พอได้อ่านประวัติแล้ว คงจะร้องอ้อ เพราะเป็นบุคคลที่มีความรู้ ความสามารถมาก มีความเชียวชาญด้านธุรกิจการเงินตลอด เข้ามาอยู่ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดในปี 2528 และมีความก้าวหน้าตลอด ผ่านงานในประเทศ เช่น ลอนดอน อังกฤษ ออสเตเลีย ฮ่องกง สิงคโปร์ และก่อนที่จะมาประจำที่ประเทศไทย ได้ดำรงตำแหน่ง CEO ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดญี่ปุ่น
แหมคุณมาร์คค่ะ ถ้าจะให้ดี ลูกคนที่ 3 ขอให้เกิดที่ประเทศไทยนะค่ะ จะได้มีสัญชาติไทยติดเข้าไปในครอบครัวด้วยค่ะ