พ.ต.ท.แจ้งจับ "จักรภพ เพ็ญแข" หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ด้าน "เพ็ญ" แฉเป็นลูกน้องตำรวจหน้าบ้านสี่เสาร์เทเวศร์สมัย นปก.บุก พร้อมปฏิเสธไม่จงใจและไม่เจตนา อ้างวิจารณ์ระบอบอำมาตยาธิปไตยไม่เกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์ โยงฝ่ายตรงข้ามเปิดเกมรุก หวังโปรโมตการชุมนุม 28 มี.ค.
วานนี้ (24 มี.ค.) เวลา 10.30 น.ที่กองปราบปราม พ.ต.ท.วัฒนศักดิ์ มุ่งกิจการดี พนักงานสอบสวน (สบ2) สน.บางมด ช่วยราชการ สน.พหลโยธิน เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.จตุพร งามสุวิชชากุล พนักงานสอบสวน (สบ2) กลุ่มงานสอบสวนกองปราบปราม เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีกับนายจักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112
กรณีที่นายจักรภพ แถลงข่าวที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งประเทศไทย (เอฟทีทีซี.) เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2550 โดยมีเนื้อหาเข้าข่ายหมิ่นเบื้องสูง มีการกล่าวถึงระบบราชาธิปไตยเปรียบเทียบกับประชาธิปไตย ระบบอุปถัมภ์กับสังคมไทยโดยนำแผ่นดีวีดีบันทึกการแถลงข่าวพร้อมกับเอกสารคำแปลภาษาจากอังกฤษเป็นภาษาไทยตามเนื้อหาในแผ่นดีวีดีดังกล่าว มอบให้กับพนักงานสอบสวนไว้เป็นหลักฐานด้วย
ขณะที่ พ.ต.ท.จตุพร กล่าวว่า ได้รับเรื่องไว้ ก่อนจะเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป
ด้าน นายจักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า ได้รับทราบข่าวแล้วว่าได้มีผู้แจ้งความที่ สน.พหลโยธิน ซึ่งเป็นตำรวจ สน.บางมด มาช่วยราชการที่ สน.พหลโยธิน ก็ไม่น่าแปลกใจ เพราะผู้กำกับ สน.พหลโยธิน คือ พ.ต.อ.อาคม จันทราช ซึ่งเมื่อปีที่แล้วยังเป็น พ.ต.ท.อยู่ เป็นพนักงานสอบคดี นปก.บุกรุกบ้านสี่เสาเทเวศร์ ตอนนี้ได้ขึ้นเป็น พ.ต.อ.เป็นผู้กำกับ สน.พหลโยธิน และตำรวจท่านนี้มาช่วยราชการที่ สน.พหลโยธิน ชื่อ พ.ต.ท.วัฒนศักดิ์ มุ่งกิจการดี ก็ไม่แปลกใจที่ไปรวมกันที่นั้น
นายจักรภพ กล่าวอีกว่า มีการกล่าวหาเรื่องที่สำคัญอย่างนี้ ตนเองก็ต้องให้ความสำคัญ ตอนนี้กำลังเอาสิ่งที่พูดกับสิ่งที่เขาถอดความไว้มาศึกษาดู ครั้งนั้นเป็นการไปบรรยายให้ผู้สื่อข่าวต่างประเทศที่สโมสรผู้สื่อข่าวต่างประเทศ เมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว ตามที่ได้รับมอบหมาย ตนตอบได้ทุกคำถาม การไปพูดที่สาธารณะอย่างนั้น เราไม่มีทางที่จะไปพูดถึงเรื่องที่เสียหาย โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวกับสถาบันอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นการจะกล่าวหาก็เป็นเรื่องที่ของคนที่จะกล่าวหา ส่วนหน้าที่ของตนเองคือตอบให้ดีที่สุด
“ขอตั้งข้อสังเกตแล้วกันว่า มันดูเหมือนจะมีการเปิดเกมรุก มีหลายด่านอยู่เหมือนกันตอนนี้ ไม่รู้จะเป็นการโปรโมตวันที่ 28 มีนาคม หรือเปล่าก็ไม่รู้ หรือจะเป็นการเล่นเกมยาว ส่วนจะเป็นเกมยาวหรือเกมสั้น ผมก็พร้อมอยู่ เพียงแต่ฝากบอกบอกว่า สถาบันพระมหากษัตริย์เป็นที่เคารพนับถือ เป็นที่สักการะของคนทั้งประเทศ ใครอย่านำมาใช้อ้างเป็นเครื่องมือทางการเมืองเป็นอันขาด เรื่องนี้ผมจะไม่สู้เพื่อตัวเองเท่านั้น จะต่อสู้เพื่อสถาบันด้วย เพราะสถาบันนั้นไม่ควรอยู่ในสารบบในการต่อสู้กันในทางการเมือง ที่มีข้าราชการประจำลุกขึ้นมาแจ้งความกันในเรื่องแบบนี้ สื่อมวลชน และสังคมก็คงจะเห็นกันแล้วว่าเป็นเรื่องผิดปกติ เป็นเรื่องที่ต้องได้รับสัญญาณมา แต่ก็นั้นแหละผมก็จะว่าไปตามเนื้อผ้า เพื่อสถาบัน และเพื่อเกียรติของพลเมืองไทยคนหนึ่งที่เป็นข้าของแผ่นดิน” นายจักรภพ กล่าว
นายจักรภพ กล่าวต่อว่า ประเด็นที่สำคัญคือ ตนเองพูดเป็นภาษาอังกฤษ เพราะฉะนั้นต้องดูการแปลความด้วย ว่าแปลได้ตรงหรือบิดเบี้ยว แต่ยืนยันว่า ได้พูดเป็นภาษาอังกฤษ เพื่อจะให้ฝรั่งที่เป็นสื่อต่างประเทศได้ฟัง เพราะฉะนั้นจะนำเรื่องนี้มาชี้แจงอีกครั้ง เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ เพราะฉะนั้นขอดูก่อนอาจจะต้องมีการแถลงข่าวเป็นเรื่องเป็นราว เพื่อให้ประชาชนได้สบายใจว่า คนที่อยู่ในคณะรัฐมนตรีของบ้านเมืองไม่ไปทำอะไรแบบนี้ และอยากฝากไว้ว่า ได้ศึกษาคดีของอดีตรัฐมนตรีนายวีระ มุสิกพงษ์ ไปด้วยพร้อมกัน ถ้าหากมีคนคิดว่าจะต้อนไปอยู่มุมเดียวกัน ขอให้ทราบว่า เราศึกษาคดีนี้ด้วย
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ กล่าวต่อว่า ไม่อยากให้ใครมาใช้เทคนิคในการแย่งพื้นที่ข่าว ซึ่งตอนนี้มีการแย่งพื้นที่ข่าวกันอยู่ สำหรับเรื่องของตนเองคอยได้ ถ้าเทียบกับการแก้ไขเรื่องรัฐธรรมนูญ เรื่องนี้ต้องศึกษาข้อเท็จจริงให้ดีก่อน เพราะพูดไปเร็วก็ไม่ดี แต่ว่าขณะเดียวกันก็ขอให้มองในมุมกว้างก็แล้วกันสังคมกำลังเดินไปสู่จุดไหน
เมื่อถามว่า มองว่าเป็นเกมหรือไม่ นายจักรภพ กล่าวว่า ไม่หรอก ต้องดูเนื้อหาสาระของการพูดนี้ก่อนว่ามีตรงไหนที่ทำให้เกิดความเข้าใจผิดหรือไม่ การกระทำความผิดโดยตั้งใจหรือเจตนาไม่มีแน่ ยืนยันได้ในบัดนี้เลย แต่ว่าการก่อให้เกิดความเข้าใจผิดต้องมาดูว่ามีได้ไหม เป็นเรื่องการแปล การตีความผิดหรือเปล่า แล้วจากนั้นถึงจะสรุปว่าเป็นคดีความที่มีเนื้อหาตามกฎหมายจริง หรือเป็นการเล่นเกมการเมือง การที่ออกมาช่วงนี้ก็มีหลายคนที่มองว่าเป็นเกมการเมือง แต่อย่าเพิ่งรีบโยงไปถึงตรงนั้น เรื่องที่เกี่ยวกับเบื้องสูง หน้าที่ของพวกเราทุกคน โดยเฉพาะที่เป็นรัฐมนตรีของพระองค์ท่านจำเป็นต้องชี้แจงให้เกิดความเข้าใจ และไม่เกิดความเข้าใจผิด และถึงเป็นเกมการเมืองตนก็ถือเป็นหน้าที่ที่ต้องชี้แจง
ถามว่า วันนี้ปฏิเสธล่วงหน้าไว้ได้เลยหรือไม่ว่า ไม่ได้พูดหมิ่นสถาบัน นายจักรภพ กล่าวว่า ปฏิเสธไว้ล่วงหน้าได้เลยว่า ไม่มีความจงใจเจตนาในการกระทำความผิด และไม่เชื่อจะเกิดการกระทำความผิดนี้ขึ้นจริง ในขณะนี้เดียวกันก็ต้องกลับไปฟังว่ามีตรงไหนที่ทำให้เกิดความเข้าใจผิด
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า เป็นไปได้หรือไม่ว่า ช่วงนั้น นปก.ต่อสู้อย่างหนักเป็นไปได้หรือไม่ที่มีการหยิบโยงโจมตีระบอบอมาตยาธิปไตยแล้วไหลพาดพิงไป ทำให้การตีความพาดพิงได้ นายจักรภพ กล่าวว่า การวิจารณ์ระบอบอามาตยาธิปไตยไม่เกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นเรื่องของระบอบราชการที่มีผลประโยชน์กันเองเฉพาะตัว ไม่เกี่ยวกับเบื้องบนหรือเบื้องสูง เพราะฉะนั้นการไหลไปจึงเป็นเรื่องยาก แต่ก็นั้นก็รอให้กองปราบเรียกมา
วานนี้ (24 มี.ค.) เวลา 10.30 น.ที่กองปราบปราม พ.ต.ท.วัฒนศักดิ์ มุ่งกิจการดี พนักงานสอบสวน (สบ2) สน.บางมด ช่วยราชการ สน.พหลโยธิน เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.จตุพร งามสุวิชชากุล พนักงานสอบสวน (สบ2) กลุ่มงานสอบสวนกองปราบปราม เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีกับนายจักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112
กรณีที่นายจักรภพ แถลงข่าวที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งประเทศไทย (เอฟทีทีซี.) เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2550 โดยมีเนื้อหาเข้าข่ายหมิ่นเบื้องสูง มีการกล่าวถึงระบบราชาธิปไตยเปรียบเทียบกับประชาธิปไตย ระบบอุปถัมภ์กับสังคมไทยโดยนำแผ่นดีวีดีบันทึกการแถลงข่าวพร้อมกับเอกสารคำแปลภาษาจากอังกฤษเป็นภาษาไทยตามเนื้อหาในแผ่นดีวีดีดังกล่าว มอบให้กับพนักงานสอบสวนไว้เป็นหลักฐานด้วย
ขณะที่ พ.ต.ท.จตุพร กล่าวว่า ได้รับเรื่องไว้ ก่อนจะเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป
ด้าน นายจักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า ได้รับทราบข่าวแล้วว่าได้มีผู้แจ้งความที่ สน.พหลโยธิน ซึ่งเป็นตำรวจ สน.บางมด มาช่วยราชการที่ สน.พหลโยธิน ก็ไม่น่าแปลกใจ เพราะผู้กำกับ สน.พหลโยธิน คือ พ.ต.อ.อาคม จันทราช ซึ่งเมื่อปีที่แล้วยังเป็น พ.ต.ท.อยู่ เป็นพนักงานสอบคดี นปก.บุกรุกบ้านสี่เสาเทเวศร์ ตอนนี้ได้ขึ้นเป็น พ.ต.อ.เป็นผู้กำกับ สน.พหลโยธิน และตำรวจท่านนี้มาช่วยราชการที่ สน.พหลโยธิน ชื่อ พ.ต.ท.วัฒนศักดิ์ มุ่งกิจการดี ก็ไม่แปลกใจที่ไปรวมกันที่นั้น
นายจักรภพ กล่าวอีกว่า มีการกล่าวหาเรื่องที่สำคัญอย่างนี้ ตนเองก็ต้องให้ความสำคัญ ตอนนี้กำลังเอาสิ่งที่พูดกับสิ่งที่เขาถอดความไว้มาศึกษาดู ครั้งนั้นเป็นการไปบรรยายให้ผู้สื่อข่าวต่างประเทศที่สโมสรผู้สื่อข่าวต่างประเทศ เมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว ตามที่ได้รับมอบหมาย ตนตอบได้ทุกคำถาม การไปพูดที่สาธารณะอย่างนั้น เราไม่มีทางที่จะไปพูดถึงเรื่องที่เสียหาย โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวกับสถาบันอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นการจะกล่าวหาก็เป็นเรื่องที่ของคนที่จะกล่าวหา ส่วนหน้าที่ของตนเองคือตอบให้ดีที่สุด
“ขอตั้งข้อสังเกตแล้วกันว่า มันดูเหมือนจะมีการเปิดเกมรุก มีหลายด่านอยู่เหมือนกันตอนนี้ ไม่รู้จะเป็นการโปรโมตวันที่ 28 มีนาคม หรือเปล่าก็ไม่รู้ หรือจะเป็นการเล่นเกมยาว ส่วนจะเป็นเกมยาวหรือเกมสั้น ผมก็พร้อมอยู่ เพียงแต่ฝากบอกบอกว่า สถาบันพระมหากษัตริย์เป็นที่เคารพนับถือ เป็นที่สักการะของคนทั้งประเทศ ใครอย่านำมาใช้อ้างเป็นเครื่องมือทางการเมืองเป็นอันขาด เรื่องนี้ผมจะไม่สู้เพื่อตัวเองเท่านั้น จะต่อสู้เพื่อสถาบันด้วย เพราะสถาบันนั้นไม่ควรอยู่ในสารบบในการต่อสู้กันในทางการเมือง ที่มีข้าราชการประจำลุกขึ้นมาแจ้งความกันในเรื่องแบบนี้ สื่อมวลชน และสังคมก็คงจะเห็นกันแล้วว่าเป็นเรื่องผิดปกติ เป็นเรื่องที่ต้องได้รับสัญญาณมา แต่ก็นั้นแหละผมก็จะว่าไปตามเนื้อผ้า เพื่อสถาบัน และเพื่อเกียรติของพลเมืองไทยคนหนึ่งที่เป็นข้าของแผ่นดิน” นายจักรภพ กล่าว
นายจักรภพ กล่าวต่อว่า ประเด็นที่สำคัญคือ ตนเองพูดเป็นภาษาอังกฤษ เพราะฉะนั้นต้องดูการแปลความด้วย ว่าแปลได้ตรงหรือบิดเบี้ยว แต่ยืนยันว่า ได้พูดเป็นภาษาอังกฤษ เพื่อจะให้ฝรั่งที่เป็นสื่อต่างประเทศได้ฟัง เพราะฉะนั้นจะนำเรื่องนี้มาชี้แจงอีกครั้ง เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ เพราะฉะนั้นขอดูก่อนอาจจะต้องมีการแถลงข่าวเป็นเรื่องเป็นราว เพื่อให้ประชาชนได้สบายใจว่า คนที่อยู่ในคณะรัฐมนตรีของบ้านเมืองไม่ไปทำอะไรแบบนี้ และอยากฝากไว้ว่า ได้ศึกษาคดีของอดีตรัฐมนตรีนายวีระ มุสิกพงษ์ ไปด้วยพร้อมกัน ถ้าหากมีคนคิดว่าจะต้อนไปอยู่มุมเดียวกัน ขอให้ทราบว่า เราศึกษาคดีนี้ด้วย
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ กล่าวต่อว่า ไม่อยากให้ใครมาใช้เทคนิคในการแย่งพื้นที่ข่าว ซึ่งตอนนี้มีการแย่งพื้นที่ข่าวกันอยู่ สำหรับเรื่องของตนเองคอยได้ ถ้าเทียบกับการแก้ไขเรื่องรัฐธรรมนูญ เรื่องนี้ต้องศึกษาข้อเท็จจริงให้ดีก่อน เพราะพูดไปเร็วก็ไม่ดี แต่ว่าขณะเดียวกันก็ขอให้มองในมุมกว้างก็แล้วกันสังคมกำลังเดินไปสู่จุดไหน
เมื่อถามว่า มองว่าเป็นเกมหรือไม่ นายจักรภพ กล่าวว่า ไม่หรอก ต้องดูเนื้อหาสาระของการพูดนี้ก่อนว่ามีตรงไหนที่ทำให้เกิดความเข้าใจผิดหรือไม่ การกระทำความผิดโดยตั้งใจหรือเจตนาไม่มีแน่ ยืนยันได้ในบัดนี้เลย แต่ว่าการก่อให้เกิดความเข้าใจผิดต้องมาดูว่ามีได้ไหม เป็นเรื่องการแปล การตีความผิดหรือเปล่า แล้วจากนั้นถึงจะสรุปว่าเป็นคดีความที่มีเนื้อหาตามกฎหมายจริง หรือเป็นการเล่นเกมการเมือง การที่ออกมาช่วงนี้ก็มีหลายคนที่มองว่าเป็นเกมการเมือง แต่อย่าเพิ่งรีบโยงไปถึงตรงนั้น เรื่องที่เกี่ยวกับเบื้องสูง หน้าที่ของพวกเราทุกคน โดยเฉพาะที่เป็นรัฐมนตรีของพระองค์ท่านจำเป็นต้องชี้แจงให้เกิดความเข้าใจ และไม่เกิดความเข้าใจผิด และถึงเป็นเกมการเมืองตนก็ถือเป็นหน้าที่ที่ต้องชี้แจง
ถามว่า วันนี้ปฏิเสธล่วงหน้าไว้ได้เลยหรือไม่ว่า ไม่ได้พูดหมิ่นสถาบัน นายจักรภพ กล่าวว่า ปฏิเสธไว้ล่วงหน้าได้เลยว่า ไม่มีความจงใจเจตนาในการกระทำความผิด และไม่เชื่อจะเกิดการกระทำความผิดนี้ขึ้นจริง ในขณะนี้เดียวกันก็ต้องกลับไปฟังว่ามีตรงไหนที่ทำให้เกิดความเข้าใจผิด
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า เป็นไปได้หรือไม่ว่า ช่วงนั้น นปก.ต่อสู้อย่างหนักเป็นไปได้หรือไม่ที่มีการหยิบโยงโจมตีระบอบอมาตยาธิปไตยแล้วไหลพาดพิงไป ทำให้การตีความพาดพิงได้ นายจักรภพ กล่าวว่า การวิจารณ์ระบอบอามาตยาธิปไตยไม่เกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นเรื่องของระบอบราชการที่มีผลประโยชน์กันเองเฉพาะตัว ไม่เกี่ยวกับเบื้องบนหรือเบื้องสูง เพราะฉะนั้นการไหลไปจึงเป็นเรื่องยาก แต่ก็นั้นก็รอให้กองปราบเรียกมา
