สมัคร - ป๋าเปรม และจ้อไปด่าไป...

ที่ใต้ต้นมะขามสนามหลวง เมื่อวานซืน (23 มี.ค. 51) “เดอะแจ๊ค” –วัชระ เพชรทอง อดีตผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขต 11 พรรคประชาธิปัตย์ ผู้พลาดพ่ายคู่แข่งชื่อ สุธา ชันแสง เพียง 500 กว่าคะแนนในการเลือกตั้ง 23 ธ.ค. 2550 ได้เปิดตัวพ็อกเกตบุ๊กชื่อ “สมัครจาบจ้วง “ป๋าเปรม” ถึง “นอมินี” ทักษิณ” ..เป็นที่สนใจของสื่อมวลชนมากพอสมควรทีเดียว..

ถึงแม้จะแค่ “เกือบได้” เป็น ส.ส.ติดต่อกันถึง 3 ครั้ง แต่คุณน้องนักสู้อย่าง “เดอะแจ๊ค”ของผมก็ไม่เคยถอดใจจากการเมือง ผมหวังว่าเที่ยวหน้าเขาคงจะ “เกือบตก” เป็นครั้งแรก...แต่ก็เอาเถอะจะเกือบตกหรือเกือบได้ ก็ต้องยอมรับว่าความพยายามบันทึกประวัติศาสตร์การเมืองผ่านพ็อกเก๊ตบุ๊คหนนี้ของ “เดอะแจ๊ค”ถือว่าเขาสอบผ่าน...

หนังสือราคาเล่มละ 199 บาท ช่วยกันอุดหนุนกันหน่อยก็แล้วกัน..!!

0 0 0 0 0 0 0

ที่ผมจะขอจ้อผ่าน “หน้ากระดานเรียงห้า” วันนี้ ก็คือเรื่องของคนชื่อ “สมัคร” เช่นเดียวกัน..

ฯพณฯ สมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี คนที่ 25 ของประเทศไทย หัวหน้าพรรคพลังประชาชน เจ้าของรายการ “สนทนาประสาสมัคร” ซึ่งแพร่ภาพออกอากาศทุกวันอาทิตย์ เวลา 08.00- 09.00 น.ทางสถานีโทรทัศน์ ช่อง 11

จะว่าไป...เส้นทางระหว่าง “ป๋าเปรม” พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ อดีตนายกรัฐมนตรี คนที่ 16 กับนายกฯ สมัครของผมนี่ แทบจะ เดินคู่ขนานกันมาตลอด
ปี 2519 หลังเหตุการณ์เลือด 6 ตุลา 19 สมัครถูกหวยคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน รับเชิญเป็น รมว.มหาดไทยในรัฐบาลธานินทร์หรือรัฐบาลหอย แต่ 20 ต.ค. 2520 ก็ตกกระป๋อง รัฐบาลหอยถูกคณะของพล.อ.เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ ปฏิวัติยึดอำนาจ จัดตั้งรัฐบาลซึ่งในเวลาต่อมาได้ดึงเอา พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ขณะเป็น ผช.ผบ.ทบ.มาเป็นรัฐมนตรีด้วย

ปลายปี 2521 พล.อ.เปรม ก้าวขึ้นเป็นผบ.ทบ. ปี 2522 มีการเลือกตั้งทั่วไป พรรคประชากรไทยของสมัครแจ้งเกิดในสนาม กทม.ได้อย่างถล่มทลาย

มี.ค. 2523 พล.อ.เปรมย่างสามขุมขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีและอยู่ยืนยาวต่อเนื่องถึงปี 2531 โดยมีพรรคประชาธิปัตย์เป็นแกนหลักสนับสนุนอย่างแนบแน่น

1 -3 เม.ย. 2524 นายทหารกลุ่มยังเติร์ก ที่มี จปร.7 เป็นแกนนำทำการรัฐประหารให้พล.อ.เปรมแต่พล.อ.เปรม “ไม่เล่นด้วย” ยังเติร์กกลายเป็นกบฏ (กลับเข้ารับราชการอีกครั้งในปี 2530)

ปี2529 -31 ช่วงสมัยสุดท้ายของพล.อ.เปรม โดยเฉพาะในช่วงปี 2529 -30 ดูเหมือนจะเป็นช่วงเดียวที่บทบาทของยังเติร์กกับสมัคร (รวมทั้งร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง มท.1 คนปัจจุบัน) ดำเนินไปอย่างสอดประสานโดยบังเอิญ...นั่นคือ การ “ล้ม” รัฐบาลเปรม 5...

หลังเลือกตั้งปี 2529 นั้นยังเติร์กปฏิบัติการกดดันให้ นายพิชัย รัตตกุล หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่เป็นแชมป์เลือกตั้ง 101 เสียงขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี ..ผมยืนยันว่าเสียงระเบิดใกล้พรรคประชาธิปัตย์ที่ได้ทำลายร่างทหารชั้นประทวน 1 นาย สัญญาบัตร 1 นาย คือหนึ่งในปฏิบัติการกดดันที่ว่า..แต่เกิดผิดพลาด เกิดอุบัติเหตุ..

ปลายปี 2531 หลังเลือกตั้ง พล.อ.เปรมบอกว่า “ผมพอแล้ว” ทำให้พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ หัวหน้าพรรคชาติไทย ในขณะนั้นก้าวขึ้นเป็นนายกฯ คนที่ 17..

หลังจากนั้นประเทศไทย ก็มีนายกรัฐมนตรี คนที่ 18 , 19, 20, 21, 22, 23 และ 24 ที่ชื่อ อานันท์ ปันยารชุน, พล.อ.สุจินดา คราประยูร, ชวน หลีกภัย, บรรหาร ศิลปอาชา, พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ, พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ เป็นลำดับ...

ปิดท้ายด้วยคนที่ 25 คนปัจจุบัน- สมัคร สุนทรเวช ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชาชน “ขุนพลกรุงเทพฯ” คนที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เลือกเฟ้นให้มาเป็นหัวหน้าพรรค “นอมินี” ถูกหวยรางวัลที่ 1 ได้เป็นนายกฯ ขณะที่คู่รักคู่แค้นของ “ทักษิณ” อย่าง ร.ต.อ.เฉลิม “ขุนศึกฝั่งธน” ก็ถูกหวยใบใหญ่ได้เป็น รมว.มหาดไทยหรือ มท.1..

ทั้ง “สมัคร” และ “เฉลิม” ล้วนแล้วแต่ถูกหวย โดยแทบไม่ต้องลงทุนอะไรเลย...

ดังนั้นแม้ด้านหนึ่งคนอย่างสมัคร- เฉลิม จะต้องรักษาความเป็นตัวของตัวเอง แต่อีกด้านหนึ่งก็ต้องบำเพ็ญตนในฐานะเป็น “นอมินี” ที่ดี...

และแม้จะว่ากันว่าคนอย่างนายสมัครจะมี “เลือดสีน้ำเงิน” มีความเข้มข้นในความจงรักภักดีเช่นเดียวกับ “ป๋าเปรม” แต่ก็เป็นความเข้มข้นคนละแบบ คนละทัศนะ จนกลายเป็นฝ่ายเดียวกันแต่คนละขั้ว..ซึ่งที่ชัดเจนประการหนึ่งก็คือสมัครเลือกที่จะยืนอยู่ขั้วทักษิณ ยืนอยู่ฝ่าย “จาบจ้วงป๋าเปรม”

0 0 0 0 0 0 0

พูดก็พูดเถอะ...หลังจากผ่านไป 4 สัปดาห์ของรายการ “สนทนาประสาสมัคร” ผมต้องพูดตรงๆ ด้วยความรัก ความเป็นห่วงท่านนายกฯ สมัครว่า รายการ “จ้อ” ของท่านนับวันจะยิ่งจาบจ้วงความรู้สึกของประชาชน เพราะท่านได้ใช้เวลาของสถานีโทรทัศน์ของรัฐ ซึ่งหมายถึงเงินภาษีของประชาชนกล่าวหา ดุด่าว่าร้ายชาวบ้านอยู่ฝ่ายเดียว...ทั้งด้วยรูปแบบภาษาแบบสมัครและเนื้อหาที่ไม่ครบถ้วน...

ถ้าคุณสมัครเป็นนายสมัครที่ยอมควักเงินส่วนตัวไปเช่าเวลาทำรายการก็พอจะทำใจได้ หรือฟังเอาเพลินได้อยู่หรอก แต่นี่คุณสมัครใช้ตำแหน่ง “นายกรัฐมนตรี” และใช้เวลาสถานีที่เป็นสมบัติชาติ ใช้เงินภาษีของประชาชน...

ผมคงไม่ต้องยกตัวอย่าง แต่อยากเสนอตรงนี้ว่า..ถ้าคุณสมัครจะลดเวลา “สนทนาประสาสมัคร” ให้เหลือแค่ 30 -45 นาที แล้วพูดจาชี้แจงการปฏิบัติราชการ ผลงานของรัฐบาลให้เป็นเรื่องเป็นราว ไม่ต้องแว้งปากไปถากถางกล่าวหาชาวบ้าน..น่าจะดูดีกว่าเดิม เข้ากับคำว่า “โมเดิร์น อีเลฟเว่น” อยู่บ้างหรอก..

แต่ถ้ายังดันทุรังแบบเดิม ก็พึงระวังว่า “โมเดิร์น อีเลฟเว่น” จะกลายเป็น “ซกมก อีเลฟเว่น” เอาได้ง่าย ๆ