ศูนย์ข่าวภูเก็ต -ทอท.เตรียมเพิ่มขีดความสามารถท่าอากาศยานภูเก็ตรองรับผู้โดยสารเพิ่มอีกปีละ 5 ล้านคน จากปัจจุบันใกล้เต็มขีดความสามารถ 6.5 ล้านคน เมษายนนี้มีความชัดเจนขยายการลงทุนเพิ่ม คาดต้องใช้เงินลงทุนหลายพันล้านบาท แต่ในระยะสั้นๆ เร่งแก้ปัญหาเฉพาะหน้าทั้งขยายลานจอดรถยนต์ เพิ่มหลุมจอดและแก้ปัญหาห้องน้ำ รองรับผู้โดยสารในปีนี้ที่คาดว่าทะลุ 6 ล้านคนอย่างแน่นอน
นาวาอากาศโทวิชา เนินลพ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานภูเก็ต เปิดเผยถึงแผนพัฒนาท่าอากาศยานภูเก็ตรองรับผู้โดยสารที่เพิ่มสูงขึ้นทุกๆปี ว่า ปัจจุบันท่าอากาศยานภูเก็ตได้ถูกออกแบบให้สามารถรองรับผู้โดยสารทั้งภายในและต่างประเทศได้ปีละ 6.5 ล้านคน ซึ่งใกล้จะเต็มขีดความสามารถที่ท่าอากาศยานภูเก็ตจะรองรับได้ เนื่องจากขณะนี้มีผู้โดยสารผ่านท่าฯในปี 2550 สูงถึง 5.5 ล้านคน และตั้งแต่เดือนตุลาคม 2550 -กุมภาพันธ์ 2551 มีผู้โดยสารผ่านท่าอากาศยานภูเก็ตแล้ว 2.84 ล้านคน เพิ่มสูงขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วถึง 15.82% จากเที่ยวบินที่ใช้บริการสูงถึงเดือนละ 3,990 เที่ยวบิน
“ตัวเลขผู้โดยสารที่ผ่านท่าฯในช่วงเดือนตุลาคม-กุมภาพันธ์ เพิ่มสูงขึ้นมาก คาดการณ์ว่าตลอดทั้งปี 2551 จะมีผู้โดยสารผ่านท่าฯภูเก็ตไม่ต่ำกว่า 6 ล้านคนอย่างแน่นอน”นาวาอากาศโทวิชา กล่าวและว่า
จากตัวเลขผู้โดยสารในปีนี้ที่คาดว่าจะทะลุ 6 ล้านคน ทำให้ท่าอากาศยานภูเก็ตค่อนข้างที่จะแออัดมากในช่วงที่มีเที่ยวบินลงพร้อมๆกันหลายเที่ยวบิน เนื่องจากท่าอากาศยานภูเก็ตได้ถูกออกแบบให้รองรับผู้โดยสารได้ปีละ 6.5 ล้านคนเท่านั้น ซึ่งขณะนี้ถือว่าเต็มขีดความสามารถแล้ว คณะกรรมการบริหารบริษัทท่าอากาศยานไทย หรือบอร์ดได้ให้ความสำคัญ ในการพัฒนาท่าอากาศยานภูเก็ตให้เหมาะสมต่อศักยภาพของเกาะภูเก็ต เพราะคาดการณ์กันว่าในอนาคตอันใกล้ นักท่องเที่ยวจะเดินทางเข้ามาภูเก็ตเป็นจำนวนมาก ท่าอากาศยานจะต้องมีความพร้อมในการรองรับการเติบโตทางการท่องเที่ยวของภูเก็ต
ในเบื้องต้นได้เตรียมความพร้อมในการแก้ปัญหาระยะสั้นที่เป็นปัญหาเฉพาะหน้าไปก่อน โดยการขยายลานจอดรถยนต์เพิ่มขึ้นอีก เนื่องจากลานจอดรถยนต์ของท่าฯในปัจจุบันสามารถรองรับรถยนต์ได้ 366 คันและรถทัวร์อีก 77 คัน ไม่สามารถรองรับรถยนต์ได้เพียงพอ ท่าอากาศยานภูเก็ตจึงมีโครงการที่จะขยายลานจอดรถเพิ่มอีก 20,000 ตารางเมตร ที่บริเวณด้านหลังอาคารสำนักงานการท่าฯ รองรับรถยนต์ได้เพิ่มอีก 328 คัน รถจักรยานยนต์ 200 คัน ใช้เงินลงทุนอีก 20 ล้านบาท ซึ่งประมาณการว่าจะใช้ได้ในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวปี 2552
รวมทั้งจะมีการเพิ่มหลุมจอดเครื่องบินขนาดใหญ่เพิ่มอีก 3 หลุม รองรับเครื่องบินโบอิ้ง 747-300 จากปัจจุบันที่มีหลุมจอดอยู่แล้วทั้งสิ้น 23 หลุม เสร็จภายในปี 2551 และอีกสิ่งหนึ่งที่การท่าฯต้องเร่งแก้ปัญหาเฉพาะหน้าที่มีการร้องเรียนเข้ามามาก คือ เรื่องของห้องน้ำที่มีปัญหาไม่เพียงพอและชำรุดบ่อย จะปรับปรุงห้องน้ำห้องวีไอพี ห้องอาคารผู้โดยสารทั้งขาเข้า-ขาออก ให้เสร็จภายในปีนี้เช่นกัน โดยใช้งบประมาณ 3 ล้านบาท
นาวาอากาศโทวิชา กล่าวอีกว่า สำหรับแผนการพัฒนาท่าอากาศยานภูเก็ตรองรับผู้โดยสารในระยะยาว ทอท.ได้วางแผนที่จะพัฒนาท่าฯภูเก็ตให้สามารถรองรับผู้โดยสารได้สูงสุดถึงปีละ 15 ล้านคน เพื่อให้เหมาะสมกับศักยภาพของจังหวัดภูเก็ต โดยได้แบ่งการพัฒนาต่อจากของเดิมที่มีอยู่แล้ว อีก 2 เฟส เฟสแรกจะพัฒนาให้มีขีดความสามารถรองรับผู้โดยสารได้เพิ่มขึ้นอีก 5 ล้านคนต่อปี (ปัจจุบันรองรับได้ 6.5 ล้านคน)
ในเฟสแรกนี้ได้มีการลงมาสำรวจข้อมูลแล้วเมื่อ 6 เดือนที่ผ่านมา และในเดือนเมษายนจะมีการลงมารับฟังความคิดเห็นจากผู้ประกอบการท่องเที่ยวและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ภูเก็ต ถึงความต้องการในการพัฒนาขีดความสามารถของท่าฯภูเก็ตจากทุกภาคส่วน พร้อมทั้งนำเสนอรายละเอียดการออกแบบขยายขีดความสามารถในเบื้องต้น ซึ่งคาดว่าจะมีการลงทุนเพิ่มอาคารพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก ขณะนี้คณะทำงานปรับปรุงท่าอากาศยาน ได้เสนอขอความคิดเห็นครั้งแรกต่อบอร์ดการท่าฯไปแล้วครั้งหนึ่ง
“ประมาณเดือนเมษายนนี้ คาดว่ารายละเอียดการขยายการลงทุนในเฟสแรกจะมีความชัดเจนในทุกเรื่อง รวมถึงเรื่องของงบประมาณที่จะใช้ในการลงทุน ที่คาดว่าไม่น่าจะต่ำกว่า 3,000 ล้านบาท”
นาวาอากาศโทวิชา ยังกล่าวถึงผลประกอบการของท่าอากาศยานภูเก็ต ว่า ในปีงบประมาณ 2550 ท่าอากาศยานภูเก็ตมีรายได้ทั้งสิ้น 1,412.25 ล้านบาท เพิ่มสูงขึ้นจากปี 2549 ถึง 37% โดยปี 2549 1,027.69 ล้าบาท ทำให้ปีงบประมาณ 2550 ท่าฯภูเก็ตมีกำไรสุทธิ 1,030.51 ล้านบาท เพิ่มสูงขึ้น 57% ซึ่งในปี 2551 นี้ ได้ตั้งงบลงทุนไว้ที่ 166 ล้านบาท
สำหรับท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต ตั้งอยู่บนเนื้อที่เกือบ 1,300 ไร่ มีอาคารผู้โดยสารทั้งภายในและต่างประเทศรองรับได้ปีละ 6.5 ล้านคน หลุมจอดอากาศยาน 23 หลุม จอดรถยนต์-ทัวร์ได้ 400 คัน ในช่วงที่มีสายการบินลงพร้อมกันหลายเที่ยวบินในฤดูกาลท่องเที่ยว ซึ่งที่ผ่านมาเคยมีเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติลงเครื่องมาถึง 2,000 คน พร้อมกันถึง 2 ครั้งแล้ว ทำให้เกิดปัญหาในเรื่องของห้องน้ำไม่เพียงพอ ตรวจคนเข้าเมืองไม่พอ การจราจรภายในท่าฯติดขัด เป็นต้น