“อุดม” แจงเหตุเชิญ “สุรยุทธ์” ให้ปากคำเพราะให้สัมภาษณ์ว่า ต่างชาติสงสัย “ทักษิณ” ทำอาชีพอะไรจึงมีเงินซื้อทีมฟุตบอลแมนฯซิตี้ ระบุขนาดต่างชาติยังสนใจเอาเงินมาจากไหน คตส.คงเฉยไม่ได้ ส่วนขอคำร้อง “แม้ว” จากศาลการเมือง ที่ขอเดินทางไปดูแลแมนฯซิตี้ ก็เพื่ออยากรู้ว่าเป็นเจ้าของจริงไหม บอกไม่หนักใจอัยการฯจะเป็นพยานให้ 3 รมต.คดีหวยบนดิน แต่ควรรู้ว่าอะไรควรทำ ด้าน โทรโข่ง “แม้ว” ข้องใจ คตส.ดึง “บิ๊กแอ้ด” เป็นพยาน ยันลูกพี่รวยก่อนเล่นการเมือง เหน็บ คตส.ไม่ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน เล่นงานแต่ลูกพี่
นายอุดม เฟื่องฟุ้ง คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความ เสียหายแก่รัฐ (คตส.) กล่าวว่า เหตุผลสำคัญที่ คตส.ต้องทำหนังสือเชิญ พล.อ. สุรยุทธ์ จุลานนท์ อดีตนายกรัฐมนตรี มาให้ปากคำ เกี่ยวกับเรื่องการซื้อทีมสโมสรฟุตบอล แมนเชสเตอร์ ซิตี้ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นเพราะต้องการ สอบถามข้อเท็จจริงที่ พล.อ.สุรยุทธ์ เคยให้สัมภาษณ์นักข่าว ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ภายหลังกลับจากการประชุมในต่างประเทศ ที่มีนักข่าวไทย ไปสอบถามว่า ต่างชาติ สอบถาม พล.อ.สุรยุทธ์ เรื่องการเลือกตั้งหรือไม่ พล.อ.สุรยุทธ์ ก็ตอบว่า ไม่ได้มีการสอบถามเรื่องนี้ แต่ได้สอบถามกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ซื้อทีมฟุตบอลแมนซิตี้ ซึ่งต่างชาติสนใจว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ประกอบอาชีพอะไรถึงมีเงินจำนวนมาก ไปซื้อทีมสโมสรฟุตบอลได้
ทั้งนี้ คตส.ต้องการทราบว่า พล.อ.สุรยุทธ์ ให้สัมภาษณ์เช่นนั้นจริงหรือไม่ เพราะถ้าเป็นความจริงก็ชี้ให้เห็นว่าขนาดต่างชาติเขายังสนใจข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้ ทำไม คตส. มีหน้าที่ตรวจสอบเรื่องนี้ ถึงจะไม่ตรวจสอบ ดังนั้น เราจึงต้องเข้าไปดูว่า เรื่องนี้มีรายละเอียดเป็นอย่างไร
นายอุดม กล่าวว่า ส่วนที่ คตส.ต้องทำหนังสือไปยังศาลฎีกาแผนกคดีอาญา ของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพื่อขอคำร้องของ พ.ต.ท.ทักษิณ ในการเดินทางออก นอกประเทศ ที่อ้างว่า ต้องไปดูแลทีมสโมสรฟุตบอล ที่ประเทศอังกฤษ ก็เป็นเพราะต้องการทราบว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นเจ้าของจริงหรือไม่
นายอุดม ยังกล่าวถึงกรณีที่นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ออกมาระบุว่า รัฐมนตรี 3 คนที่ถูก คตส.ฟ้องร้องคดีหวยบนดิน สามารถให้อัยการเป็นทนายความแก้ต่างคดีได้นั้น ไม่ขอออกความคิดเห็น เพราะเป็นเรื่องของนักการเมืองกับข้าราชการเพียงบางส่วน ซึ่งการทำงานของเราไม่เกี่ยวข้องกับนักการเมืองไม่อยากเข้าไปเกี่ยวเนื่องกับความพูดของนักการเมืองบางกลุ่มที่เราไม่ค่อยศรัทธา
ผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้าอัยการรับเป็นทนายแก้ต่างให้ รัฐมนตรี ทั้ง 3 ราย คตส.จะหนักใจหรือไม่ เพราะอัยการเห็นสำนวน คตส.หมดแล้ว นายอุดม กล่าวว่า ไม่รู้สึกหนักใจ และใครจะเป็นไปทนายความให้ใครก็ได้ ก็แล้วแต่ เพราะเราได้ทำตามกระบวนการที่ควรจะเป็นแล้ว อีกทั้ง มันมีระเบียบแบบแผนของทางราชการกำหนดตายตัวว่าอะไรควรทำอย่างไร เพราะบ้านเมืองมีขื่อมีแป
นายอุดม กล่าวว่า กรณีที่อัยการออกมาระบุ ว่า ขณะนี้ อัยการได้ทำหน้าที่ฟ้อง คดีให้กับ คตส.หลายคดีแล้ว นั้น โดยส่วนตัวมองว่า ก็เป็นหน้าที่ที่อัยการต้องปฎิบัติตามกฎหมายกำหนด
นายพงษ์เทพ เทพกาญจนา โฆษกส่วนตัวของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ คตส.จะเชิญ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นพยานกรณีพ.ต.ท.ทักษิณมีทรัพย์สินร่ำรวยผิดปกติ โดยเฉพาะการซื้อสโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ว่า ต้องไปถามคตส.ว่าเหตุใดจึงเรียกพล.อ.สุรยุทธ์ เป็นพยาน เนื่องจากไม่สามารถมองเห็นความเชื่อมโยงในประเด็นดังกล่าวได้
นอกจากนี้ ขอตั้งข้อสังเกตว่า เหตุใด คตส.จึงตั้งประเด็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ร่ำรวยผิดปกติในช่วงนี้ คตส.ควรกลับไปย้อนดูว่าตั้งแต่ก่อนที่จะมาก่อตั้งพรรคไทยรักไทยหรือเข้ามาในวงการเมือง พ.ต.ท.ทักษิณก็ร่ำรวยในการทำธุรกิจมาก่อน ซึ่งรู้กันทั้งประเทศ และเมื่อเข้ามาสังกัดพรรคพลังธรรมก็ได้แสดงบัญชีทรัพย์สินไปแล้ว และในขณะนั้นรัฐธรรมนูญยังไม่ได้กำหนดด้วยซ้ำว่าให้รัฐมนตรีและส.ส.แสดงบัญชีทรัพย์สิน ถ้าคตส.กล่าวหาเช่นนี้คตส.คงต้องฟ้องคนที่ร่ำรวยผิดปกติหลายคนที่ไม่ได้ประกอบอาชีพอะไร และคงมีจำนวนมาก
“ไม่เข้าใจว่าทำไม คตส.จึงจุดประเด็นในช่วงที่จะครบวาระ แต่ก็ไม่แปลกใจกับข้อกล่าวหาแปลกๆ เพราะเข้าใจดีว่า คตส.ทำงานอย่างไร เพราะที่ผ่านมาเมื่อ คปค.ปฏิรูปการเมืองเสร็จก็ตั้ง คตส.ขึ้นมา ซึ่งชัดเจนว่ามีเจตนาและภารกิจที่จะเน้นแจ้ง ข้อกล่าวหากับอดีตรัฐบาลทักษิณ ทั้งๆ ที่มีหน่วยงานที่ดูแลอยู่แล้วคือป.ป.ช. แต่คปค.ก็อุตส่าห์ตั้งคตส.ขึ้นมาอีก”
นายพงษ์เทพ กล่าวว่า ที่ผ่านมาไม่เห็นคตส.ทำงานอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน โดยเฉพาะการกล่าวหา พ.ต.ท.ทักษิณในประเด็นต่างๆ ที่ไม่มีหลักฐานชัดเจน อย่างไรก็ตาม พ.ต.ท.ทักษิณยังไม่ทราบว่าจะมีการเชิญพล.อ.สุรยุทธ์มาเป็นพยาน ในประเด็นร่ำรวยผิดปกติ แต่พ.ต.ท.ทักษิณก็พร้อมชี้แจง เพราะเงินที่นำไปซื้อ สโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้มีเอกสารชัดเจน และรู้กันทั่วโลกเพราะทำอย่างเปิดเผย ซึ่งขณะนี้พ.ต.ท.ทักษิณอยู่ที่ประเทศอังกฤษดูแลสโมสร เป็นหลัก รวมทั้งกำลังเตรียม พร้อมเพื่อรับปริญญาโทของ น.ส.พิณทองทา และยังไม่มีกำหนดที่จะเดินทางไปประเทศไหน แต่ยืนยันว่าจะกลับประเทศไทยประมาณวันที่ 10 เม.ย.แน่นอน
นายอุดม เฟื่องฟุ้ง คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความ เสียหายแก่รัฐ (คตส.) กล่าวว่า เหตุผลสำคัญที่ คตส.ต้องทำหนังสือเชิญ พล.อ. สุรยุทธ์ จุลานนท์ อดีตนายกรัฐมนตรี มาให้ปากคำ เกี่ยวกับเรื่องการซื้อทีมสโมสรฟุตบอล แมนเชสเตอร์ ซิตี้ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นเพราะต้องการ สอบถามข้อเท็จจริงที่ พล.อ.สุรยุทธ์ เคยให้สัมภาษณ์นักข่าว ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ภายหลังกลับจากการประชุมในต่างประเทศ ที่มีนักข่าวไทย ไปสอบถามว่า ต่างชาติ สอบถาม พล.อ.สุรยุทธ์ เรื่องการเลือกตั้งหรือไม่ พล.อ.สุรยุทธ์ ก็ตอบว่า ไม่ได้มีการสอบถามเรื่องนี้ แต่ได้สอบถามกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ซื้อทีมฟุตบอลแมนซิตี้ ซึ่งต่างชาติสนใจว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ประกอบอาชีพอะไรถึงมีเงินจำนวนมาก ไปซื้อทีมสโมสรฟุตบอลได้
ทั้งนี้ คตส.ต้องการทราบว่า พล.อ.สุรยุทธ์ ให้สัมภาษณ์เช่นนั้นจริงหรือไม่ เพราะถ้าเป็นความจริงก็ชี้ให้เห็นว่าขนาดต่างชาติเขายังสนใจข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้ ทำไม คตส. มีหน้าที่ตรวจสอบเรื่องนี้ ถึงจะไม่ตรวจสอบ ดังนั้น เราจึงต้องเข้าไปดูว่า เรื่องนี้มีรายละเอียดเป็นอย่างไร
นายอุดม กล่าวว่า ส่วนที่ คตส.ต้องทำหนังสือไปยังศาลฎีกาแผนกคดีอาญา ของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพื่อขอคำร้องของ พ.ต.ท.ทักษิณ ในการเดินทางออก นอกประเทศ ที่อ้างว่า ต้องไปดูแลทีมสโมสรฟุตบอล ที่ประเทศอังกฤษ ก็เป็นเพราะต้องการทราบว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นเจ้าของจริงหรือไม่
นายอุดม ยังกล่าวถึงกรณีที่นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ออกมาระบุว่า รัฐมนตรี 3 คนที่ถูก คตส.ฟ้องร้องคดีหวยบนดิน สามารถให้อัยการเป็นทนายความแก้ต่างคดีได้นั้น ไม่ขอออกความคิดเห็น เพราะเป็นเรื่องของนักการเมืองกับข้าราชการเพียงบางส่วน ซึ่งการทำงานของเราไม่เกี่ยวข้องกับนักการเมืองไม่อยากเข้าไปเกี่ยวเนื่องกับความพูดของนักการเมืองบางกลุ่มที่เราไม่ค่อยศรัทธา
ผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้าอัยการรับเป็นทนายแก้ต่างให้ รัฐมนตรี ทั้ง 3 ราย คตส.จะหนักใจหรือไม่ เพราะอัยการเห็นสำนวน คตส.หมดแล้ว นายอุดม กล่าวว่า ไม่รู้สึกหนักใจ และใครจะเป็นไปทนายความให้ใครก็ได้ ก็แล้วแต่ เพราะเราได้ทำตามกระบวนการที่ควรจะเป็นแล้ว อีกทั้ง มันมีระเบียบแบบแผนของทางราชการกำหนดตายตัวว่าอะไรควรทำอย่างไร เพราะบ้านเมืองมีขื่อมีแป
นายอุดม กล่าวว่า กรณีที่อัยการออกมาระบุ ว่า ขณะนี้ อัยการได้ทำหน้าที่ฟ้อง คดีให้กับ คตส.หลายคดีแล้ว นั้น โดยส่วนตัวมองว่า ก็เป็นหน้าที่ที่อัยการต้องปฎิบัติตามกฎหมายกำหนด
นายพงษ์เทพ เทพกาญจนา โฆษกส่วนตัวของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ คตส.จะเชิญ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นพยานกรณีพ.ต.ท.ทักษิณมีทรัพย์สินร่ำรวยผิดปกติ โดยเฉพาะการซื้อสโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ว่า ต้องไปถามคตส.ว่าเหตุใดจึงเรียกพล.อ.สุรยุทธ์ เป็นพยาน เนื่องจากไม่สามารถมองเห็นความเชื่อมโยงในประเด็นดังกล่าวได้
นอกจากนี้ ขอตั้งข้อสังเกตว่า เหตุใด คตส.จึงตั้งประเด็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ร่ำรวยผิดปกติในช่วงนี้ คตส.ควรกลับไปย้อนดูว่าตั้งแต่ก่อนที่จะมาก่อตั้งพรรคไทยรักไทยหรือเข้ามาในวงการเมือง พ.ต.ท.ทักษิณก็ร่ำรวยในการทำธุรกิจมาก่อน ซึ่งรู้กันทั้งประเทศ และเมื่อเข้ามาสังกัดพรรคพลังธรรมก็ได้แสดงบัญชีทรัพย์สินไปแล้ว และในขณะนั้นรัฐธรรมนูญยังไม่ได้กำหนดด้วยซ้ำว่าให้รัฐมนตรีและส.ส.แสดงบัญชีทรัพย์สิน ถ้าคตส.กล่าวหาเช่นนี้คตส.คงต้องฟ้องคนที่ร่ำรวยผิดปกติหลายคนที่ไม่ได้ประกอบอาชีพอะไร และคงมีจำนวนมาก
“ไม่เข้าใจว่าทำไม คตส.จึงจุดประเด็นในช่วงที่จะครบวาระ แต่ก็ไม่แปลกใจกับข้อกล่าวหาแปลกๆ เพราะเข้าใจดีว่า คตส.ทำงานอย่างไร เพราะที่ผ่านมาเมื่อ คปค.ปฏิรูปการเมืองเสร็จก็ตั้ง คตส.ขึ้นมา ซึ่งชัดเจนว่ามีเจตนาและภารกิจที่จะเน้นแจ้ง ข้อกล่าวหากับอดีตรัฐบาลทักษิณ ทั้งๆ ที่มีหน่วยงานที่ดูแลอยู่แล้วคือป.ป.ช. แต่คปค.ก็อุตส่าห์ตั้งคตส.ขึ้นมาอีก”
นายพงษ์เทพ กล่าวว่า ที่ผ่านมาไม่เห็นคตส.ทำงานอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน โดยเฉพาะการกล่าวหา พ.ต.ท.ทักษิณในประเด็นต่างๆ ที่ไม่มีหลักฐานชัดเจน อย่างไรก็ตาม พ.ต.ท.ทักษิณยังไม่ทราบว่าจะมีการเชิญพล.อ.สุรยุทธ์มาเป็นพยาน ในประเด็นร่ำรวยผิดปกติ แต่พ.ต.ท.ทักษิณก็พร้อมชี้แจง เพราะเงินที่นำไปซื้อ สโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้มีเอกสารชัดเจน และรู้กันทั่วโลกเพราะทำอย่างเปิดเผย ซึ่งขณะนี้พ.ต.ท.ทักษิณอยู่ที่ประเทศอังกฤษดูแลสโมสร เป็นหลัก รวมทั้งกำลังเตรียม พร้อมเพื่อรับปริญญาโทของ น.ส.พิณทองทา และยังไม่มีกำหนดที่จะเดินทางไปประเทศไหน แต่ยืนยันว่าจะกลับประเทศไทยประมาณวันที่ 10 เม.ย.แน่นอน