00 ต้องยอมรับว่าสมราคา “เขี้ยว” หรือจะเรียกอะไรก็สุดจะบรรยายจริงๆ สำหรับ “นอมินีหมัก”และคณะ หลังจากต้องเสียรังวัดจนต่อม “สปิริต”หวิดพัง หลังจาก “หล่อเล็ก” อภิรักษ์ โกษะโยธิน ชิงประกาศยุติการทำหน้าที่ในตำแหน่งผู้ว่าฯกรุงเทพมหานคร เป็นการชั่วคราว หลังจากคตส.ได้กล่าวหาว่ามีความผิดกรณีซื้อเรือและรถดับเพลิงของกทม.ไม่ทันข้ามวัน เรียกได้ว่าทำเอางง และหัวเสียกันไปทั้งบาง
00 ก็จะไม่ให้หัวเสียกันได้ละทั่นผู้ชม ในเมื่อคดีเดียวกันนี้ มี“ลุงหมัก”นั่งอยู่หัวโต๊ะนั่นแหละ แถมยังตะแบงวันละ 3 เวลาหลังอาหาร ทำนอง“ไม่ผิด-เขาหาว่า” เหมือนกับผู้ต้องหาและจำเลยส่วนใหญ่ ส่วนเรื่องหยุดพักทำหน้าที่ หรือลาออกไม่ต้องพูดถึงให้เสียน้ำลาย เพราะเพิ่งถึงฝั่งฝันโชคช่วยได้เป็นนายกฯแบบไม่ต้องลงทุนสักบาทมาได้แค่เดือนเศษแบบนี้ ขืนถามเซ้าซี้มากเดี๋ยวก็ด่าเปิงเสียนี่
00 ว่าไปทำไมมี ถ้าลองรับรู้อุณภูมิภายในพรรค “พลังแม้ว” รับรองว่า พุ่งสูงขึ้นผิดปกติ เพราะเพิ่งจะยกเหตุผลอ้างแม่น้ำทั้งห้ามาแก้ตัว ไม่ให้ 3 รัฐมนตรีที่ถูกหวยบนดินเข้าจังเบอร์ ไม่ต้องไขก๊อกมาหมาดๆ ดันต้องมาเจอกับต่อมสปิริตของเจ้าหล่อเล็ก ที่อยู่ตื้นผิดปกติ ไม่เหมือนนักการเมืองส่วนใหญ่เสียอีก นำไปสู่ข้อเปรียบเทียบในสังคมเมืองหลวงกันเป็นที่สนุกปาก
00 ที่สำคัญในคดีรถดับเพลิงเดียวกันนี่แหละ คนที่โดนไปก่อนคนแรกๆ ก็คือตัว “ลุงหมัก” นั่นแหละแต่ยังเกาะเก้าอี้แน่น เลยโดนกระทบชิ่งเข้าไปเต็มๆ
00 แต่ไหนๆในเมื่อเลือกหนทางเดินหน้าประเภท “ด้านได้ อายอด” กันแล้วมันก็ต้องหาทางเอาคืน ถองให้หายแค้น ปล่อยให้ถูกชาวบ้านด่าฟรีเค้นถามเรื่องต่อมสปิริตข้างเดียวอยู่ได้อย่างไร มันก็ต้องหาทาง “ขัดขาพระเอก” เอาไว้บ้าง
00 แต่อะไรไม่ว่า อย่าเล่นกันจนเลยเถิดให้คิดถึงอารมณ์ความรู้สึกของคนกรุงเทพฯ ที่อยู่ใกล้ชิดข้อมูลข่าวสาร รู้ดีว่าใครเป็นใคร จะออกมาสั่งสอนกันให้น้ำตาตกเหมือนกับสมัยเมื่อหลายปีก่อน ที่“จุ้งเว้ง” เชาวริน สมัยที่ยังไม่เป็น“โกโบริน” เป็นแค่เลขาฯปู่มาณ ที่นั่งเก้าอี้ มท.1 ที่คลองหลอด เล่นกับกระแสท้าทายชาวบ้านในยุค"มหาฟีเวอร์" ลงสมัครผู้ว่าฯกทม. ประกาศถ้าแพ้ “จำลอง”หลุดลุ่ย “จะยอมให้เตะตูด” ผลก็เป็นไปตามคาด ถูกสั่งสอนจนหายซ่าส์ไปพักใหญ่
00 อย่างไรก็ดี นาทีนี้ถ้าพิจารณาอีกมุมหนึ่งของ“เหลิม” ที่สวมหัวโขนกำกับดูแลผู้ว่าฯกทม.อีกเก้าอี้หนึ่ง ต้องทำทุกทางเหยียบเรือสองแคมรักษาความพอใจทั้งหัวหน้านอมินี อย่างลุงหมัก และขณะเดียวกันยังต้องเร่งทำผลงานไต่อันดับให้ “เข้าตา” “นายใหญ่” เผื่อจับพลัดจับผลู เกิดฟลุ๊กส้มหล่นได้ขยับจากมท.1 มานั่ง สร.1 ก็ได้ใครจะไปรู้
00 เนื่องจากเวลานี้ คดีสำคัญหลายคดีกำลังงวดเข้ามา เริ่มจาก “พี่ยุทธ” โดนใบแดงเดี้ยงไปแล้ว และที่กำลังระทึกตามมาก็คดี“นอมินี” หรือแม้แต่คดีหวยบนดิน ที่ยังไงก็หนีไม่พ้นต้องไปถึงศาลฎีกาฯ 1 ใน 3 รัฐมนตรีคือ “หมอเลี้ยบ” เด็กในบ้านคนสำคัญเสียด้วย ถ้าเกิดป็อกขึ้นมา มันก็ยุ่ง แล้วเหลิมก็ย่อมมีสิทธิ์ฝันต่อไม่ใช่หรือ แม้จะเป็นฝันในหน้าแล้งก็ตามที
00 และประเด็นเรื่องการประกาศยุติบทบาทการทำหน้าที่ผู้ว่าฯกทม.ชั่วคราว ก็เช่นเดียวกัน ประเด็นไม่ได้อยู่ที่เงื่อนไขข้อกฎหมายอย่างที่พยายามอ้างให้คนหมั่นใส้ แต่อยู่ที่จิตสำนึกของนักการเมือง เมื่อถูกกล่าวหาว่าทุจริตก็ต้องแสดงสปิริตลาออก เพื่อให้การสอบสวนดำเนินไปต่างหาก ไม่ใช่อ้างโน่น อ้างนี่ ตะแบงไปเรื่อย !!
00 ก็จะไม่ให้หัวเสียกันได้ละทั่นผู้ชม ในเมื่อคดีเดียวกันนี้ มี“ลุงหมัก”นั่งอยู่หัวโต๊ะนั่นแหละ แถมยังตะแบงวันละ 3 เวลาหลังอาหาร ทำนอง“ไม่ผิด-เขาหาว่า” เหมือนกับผู้ต้องหาและจำเลยส่วนใหญ่ ส่วนเรื่องหยุดพักทำหน้าที่ หรือลาออกไม่ต้องพูดถึงให้เสียน้ำลาย เพราะเพิ่งถึงฝั่งฝันโชคช่วยได้เป็นนายกฯแบบไม่ต้องลงทุนสักบาทมาได้แค่เดือนเศษแบบนี้ ขืนถามเซ้าซี้มากเดี๋ยวก็ด่าเปิงเสียนี่
00 ว่าไปทำไมมี ถ้าลองรับรู้อุณภูมิภายในพรรค “พลังแม้ว” รับรองว่า พุ่งสูงขึ้นผิดปกติ เพราะเพิ่งจะยกเหตุผลอ้างแม่น้ำทั้งห้ามาแก้ตัว ไม่ให้ 3 รัฐมนตรีที่ถูกหวยบนดินเข้าจังเบอร์ ไม่ต้องไขก๊อกมาหมาดๆ ดันต้องมาเจอกับต่อมสปิริตของเจ้าหล่อเล็ก ที่อยู่ตื้นผิดปกติ ไม่เหมือนนักการเมืองส่วนใหญ่เสียอีก นำไปสู่ข้อเปรียบเทียบในสังคมเมืองหลวงกันเป็นที่สนุกปาก
00 ที่สำคัญในคดีรถดับเพลิงเดียวกันนี่แหละ คนที่โดนไปก่อนคนแรกๆ ก็คือตัว “ลุงหมัก” นั่นแหละแต่ยังเกาะเก้าอี้แน่น เลยโดนกระทบชิ่งเข้าไปเต็มๆ
00 แต่ไหนๆในเมื่อเลือกหนทางเดินหน้าประเภท “ด้านได้ อายอด” กันแล้วมันก็ต้องหาทางเอาคืน ถองให้หายแค้น ปล่อยให้ถูกชาวบ้านด่าฟรีเค้นถามเรื่องต่อมสปิริตข้างเดียวอยู่ได้อย่างไร มันก็ต้องหาทาง “ขัดขาพระเอก” เอาไว้บ้าง
00 แต่อะไรไม่ว่า อย่าเล่นกันจนเลยเถิดให้คิดถึงอารมณ์ความรู้สึกของคนกรุงเทพฯ ที่อยู่ใกล้ชิดข้อมูลข่าวสาร รู้ดีว่าใครเป็นใคร จะออกมาสั่งสอนกันให้น้ำตาตกเหมือนกับสมัยเมื่อหลายปีก่อน ที่“จุ้งเว้ง” เชาวริน สมัยที่ยังไม่เป็น“โกโบริน” เป็นแค่เลขาฯปู่มาณ ที่นั่งเก้าอี้ มท.1 ที่คลองหลอด เล่นกับกระแสท้าทายชาวบ้านในยุค"มหาฟีเวอร์" ลงสมัครผู้ว่าฯกทม. ประกาศถ้าแพ้ “จำลอง”หลุดลุ่ย “จะยอมให้เตะตูด” ผลก็เป็นไปตามคาด ถูกสั่งสอนจนหายซ่าส์ไปพักใหญ่
00 อย่างไรก็ดี นาทีนี้ถ้าพิจารณาอีกมุมหนึ่งของ“เหลิม” ที่สวมหัวโขนกำกับดูแลผู้ว่าฯกทม.อีกเก้าอี้หนึ่ง ต้องทำทุกทางเหยียบเรือสองแคมรักษาความพอใจทั้งหัวหน้านอมินี อย่างลุงหมัก และขณะเดียวกันยังต้องเร่งทำผลงานไต่อันดับให้ “เข้าตา” “นายใหญ่” เผื่อจับพลัดจับผลู เกิดฟลุ๊กส้มหล่นได้ขยับจากมท.1 มานั่ง สร.1 ก็ได้ใครจะไปรู้
00 เนื่องจากเวลานี้ คดีสำคัญหลายคดีกำลังงวดเข้ามา เริ่มจาก “พี่ยุทธ” โดนใบแดงเดี้ยงไปแล้ว และที่กำลังระทึกตามมาก็คดี“นอมินี” หรือแม้แต่คดีหวยบนดิน ที่ยังไงก็หนีไม่พ้นต้องไปถึงศาลฎีกาฯ 1 ใน 3 รัฐมนตรีคือ “หมอเลี้ยบ” เด็กในบ้านคนสำคัญเสียด้วย ถ้าเกิดป็อกขึ้นมา มันก็ยุ่ง แล้วเหลิมก็ย่อมมีสิทธิ์ฝันต่อไม่ใช่หรือ แม้จะเป็นฝันในหน้าแล้งก็ตามที
00 และประเด็นเรื่องการประกาศยุติบทบาทการทำหน้าที่ผู้ว่าฯกทม.ชั่วคราว ก็เช่นเดียวกัน ประเด็นไม่ได้อยู่ที่เงื่อนไขข้อกฎหมายอย่างที่พยายามอ้างให้คนหมั่นใส้ แต่อยู่ที่จิตสำนึกของนักการเมือง เมื่อถูกกล่าวหาว่าทุจริตก็ต้องแสดงสปิริตลาออก เพื่อให้การสอบสวนดำเนินไปต่างหาก ไม่ใช่อ้างโน่น อ้างนี่ ตะแบงไปเรื่อย !!
