เอเอฟพี - ชาติสมาชิกองค์การการประชุมอิสลาม หรือโอไอซี ชี้ความรู้สึกเกลียดกลัวอิสลามที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างน่าตกใจในโลกตะวันตก กำลังกลายเป็นภัยคุกคามต่อสันติภาพและเสถียรภาพความมั่นคงระหว่างประเทศ และเป็นอุปสรรคต่อสงครามต่อต้านการก่อการร้าย
ชาติมุสลิม 57 ประเทศเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำโอไอซีเมื่อวานนี้(13) และวันนี้(14) โดยคณะทำงานพิเศษของโอไอซี ซึ่งทำหน้าที่ตรวจตรา ได้จัดทำรายงานประกอบการประชุมซัมมิตครั้งนี้ ระบุว่าโอไอซีพยายามอย่างยิ่งที่จะทำให้โลกตะวันตกตระหนักว่า ความรู้สึกเกลียดกลัวอิสลาม (Islamophobia) มีนัยอันตรายยิ่งต่อสันติภาพและความมั่นคงของโลก
ที่ผ่านมานั้น ผู้นำชาติมุสลิมเตือนมานานแล้วว่า ความรับรู้ความเข้าใจของคนภายนอก ที่เชื่อมโยงชาวมุสลิมเข้ากับลัทธิก่อการร้าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งนับตั้งแต่เกิดเหตุวินาศกรรมโจมตีสหรัฐฯ 11 กันยายน จะยิ่งทำให้ชาวมุสลิมกลายเป็นพวกหัวรุนแรงมากขึ้น
"ชาติตะวันตกต้องเข้าใจว่า สงครามต่อต้านการก่อการร้ายจะไม่ประสบผลสำเร็จเลย หากไม่ได้รับการสนับสนุนจากชาติมุสลิม" รายงานของโอไอซี กล่าว
ผู้นำโอไอซีได้แสดงความวิตกกังวลหลังเกิดเหตุการณ์ เช่น การเผยแพร่ภาพการ์ตูนล้อเลียนศาสดามุฮัมหมัด ในหนังสือพิมพ์เดนมาร์ก และแผนการที่เกิร์ต วิลเดอร์ส ส.ส.หัวขวาจัดชาวดัตช์ จะเผยแพร่ภาพยนตร์ที่เรียกคัมภีร์อัลกุรอานว่าเป็น"ฟาสซิสต์"
คณะทำงานพิเศษของโอไอซีเรียกร้องให้ชาติในยุโรปและอเมริกาเหนือดำเนินการให้มากกว่านี้โดยใช้กฎหมายและมาตรการทางสังคม ปกป้องชาวมุสลิมจากภัยคุกคามและการดูถูกเหยียดหยาม และป้องกันไม่ให้มีการดูหมิ่นสัญลักษณ์ทางศาสนาของอิสลาม
รายงานของโอไอซีกล่าวว่า สัญลักษณ์ที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในศาสนาอิสลาม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ภาพลักษณ์อันศักดิ์สิทธิ์ของศาสดามุฮัมมัด ถูกทำให้เสื่อมเสียและมีมลทิน ในลักษณะที่ดูหมิ่นและก้าวร้าวที่สุด เพื่อกระตุ้นให้เกิดความเกลียดชังและความไม่สงบในสังคม
โอไอซีได้กล่าวถึงภาพการ์ตูนในหนังสือพิมพ์เดนมาร์กและภาพยนตร์ของส.ส.ดัตช์ ในทางอ้อมว่า พวกที่เกลียดกลัวอิสลามยังคงมีอิสระที่จะโจมตีและทำลายศาสนา เนื่องจากยังไม่มีมาตรการทางกฎหมายที่จำเป็นเพื่อป้องกันการใช้สิทธิเสรีภาพในการแสดงออก ไปในทางที่ผิด
รายงานฉบับนี้ยังกล่าวเสริมว่า ชาวมุสลิมในหลายพื้นที่ทั่วโลก โดยเฉพาะในชาติตะวันตก กำลังถูกตั้งอคติแบบเหมารวม ถูกวาดภาพและตกเป็นเหยื่อของปฏิบัติที่แบ่งแยกดูถูกเหยียดหยามในหลายรูปแบบ
โอไอซีเรียกร้องให้ชาติสมาชิกเพิ่มมาตรการต่อต้านความรู้สึกเกลียดกลัวอิสลาม โดยพยายามกดดันประชาคมระหว่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ในเวทีการประชุมทั้งแบบทวิภาคีและพหุภาคี นอกจากนี้ โอไอซียังเรียกร้องให้โลกมุสลิมเริ่มรณรงค์ให้ชาวโลกเห็นว่า ศาสนาอิสลามเป็นศาสนาสายกลาง มีสันติและขันติธรรม อีกทั้งควรเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดต่อเหตุการณ์ต่อต้านอิสลาม รวมทั้งควรจะจัดให้มีการริเริ่มสร้างความร่วมมือระหว่างศาสนาต่างๆให้มากกว่านี้
ชาติมุสลิม 57 ประเทศเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำโอไอซีเมื่อวานนี้(13) และวันนี้(14) โดยคณะทำงานพิเศษของโอไอซี ซึ่งทำหน้าที่ตรวจตรา ได้จัดทำรายงานประกอบการประชุมซัมมิตครั้งนี้ ระบุว่าโอไอซีพยายามอย่างยิ่งที่จะทำให้โลกตะวันตกตระหนักว่า ความรู้สึกเกลียดกลัวอิสลาม (Islamophobia) มีนัยอันตรายยิ่งต่อสันติภาพและความมั่นคงของโลก
ที่ผ่านมานั้น ผู้นำชาติมุสลิมเตือนมานานแล้วว่า ความรับรู้ความเข้าใจของคนภายนอก ที่เชื่อมโยงชาวมุสลิมเข้ากับลัทธิก่อการร้าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งนับตั้งแต่เกิดเหตุวินาศกรรมโจมตีสหรัฐฯ 11 กันยายน จะยิ่งทำให้ชาวมุสลิมกลายเป็นพวกหัวรุนแรงมากขึ้น
"ชาติตะวันตกต้องเข้าใจว่า สงครามต่อต้านการก่อการร้ายจะไม่ประสบผลสำเร็จเลย หากไม่ได้รับการสนับสนุนจากชาติมุสลิม" รายงานของโอไอซี กล่าว
ผู้นำโอไอซีได้แสดงความวิตกกังวลหลังเกิดเหตุการณ์ เช่น การเผยแพร่ภาพการ์ตูนล้อเลียนศาสดามุฮัมหมัด ในหนังสือพิมพ์เดนมาร์ก และแผนการที่เกิร์ต วิลเดอร์ส ส.ส.หัวขวาจัดชาวดัตช์ จะเผยแพร่ภาพยนตร์ที่เรียกคัมภีร์อัลกุรอานว่าเป็น"ฟาสซิสต์"
คณะทำงานพิเศษของโอไอซีเรียกร้องให้ชาติในยุโรปและอเมริกาเหนือดำเนินการให้มากกว่านี้โดยใช้กฎหมายและมาตรการทางสังคม ปกป้องชาวมุสลิมจากภัยคุกคามและการดูถูกเหยียดหยาม และป้องกันไม่ให้มีการดูหมิ่นสัญลักษณ์ทางศาสนาของอิสลาม
รายงานของโอไอซีกล่าวว่า สัญลักษณ์ที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในศาสนาอิสลาม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ภาพลักษณ์อันศักดิ์สิทธิ์ของศาสดามุฮัมมัด ถูกทำให้เสื่อมเสียและมีมลทิน ในลักษณะที่ดูหมิ่นและก้าวร้าวที่สุด เพื่อกระตุ้นให้เกิดความเกลียดชังและความไม่สงบในสังคม
โอไอซีได้กล่าวถึงภาพการ์ตูนในหนังสือพิมพ์เดนมาร์กและภาพยนตร์ของส.ส.ดัตช์ ในทางอ้อมว่า พวกที่เกลียดกลัวอิสลามยังคงมีอิสระที่จะโจมตีและทำลายศาสนา เนื่องจากยังไม่มีมาตรการทางกฎหมายที่จำเป็นเพื่อป้องกันการใช้สิทธิเสรีภาพในการแสดงออก ไปในทางที่ผิด
รายงานฉบับนี้ยังกล่าวเสริมว่า ชาวมุสลิมในหลายพื้นที่ทั่วโลก โดยเฉพาะในชาติตะวันตก กำลังถูกตั้งอคติแบบเหมารวม ถูกวาดภาพและตกเป็นเหยื่อของปฏิบัติที่แบ่งแยกดูถูกเหยียดหยามในหลายรูปแบบ
โอไอซีเรียกร้องให้ชาติสมาชิกเพิ่มมาตรการต่อต้านความรู้สึกเกลียดกลัวอิสลาม โดยพยายามกดดันประชาคมระหว่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ในเวทีการประชุมทั้งแบบทวิภาคีและพหุภาคี นอกจากนี้ โอไอซียังเรียกร้องให้โลกมุสลิมเริ่มรณรงค์ให้ชาวโลกเห็นว่า ศาสนาอิสลามเป็นศาสนาสายกลาง มีสันติและขันติธรรม อีกทั้งควรเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดต่อเหตุการณ์ต่อต้านอิสลาม รวมทั้งควรจะจัดให้มีการริเริ่มสร้างความร่วมมือระหว่างศาสนาต่างๆให้มากกว่านี้
