เอเอฟพี/รอยเตอร์ - ผู้ว่าการมลรัฐนิวยอร์ก เอเลียต สปิตเซอร์ ซึ่งเคยได้รับสมญานามว่า "นายอำเภอมือปราบแห่งวอลล์สตรีท" อีกทั้งเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงคนหนึ่งของพรรคเดโมแครต กำลังเผชิญแรงกดดันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ให้ลาออกจากตำแหน่ง ภายหลังถูกแฉแอบใช้บริการโสเภณีชั้นสูง โดยที่ฝ่ายพรรครีพับลิกันในสภามลรัฐข่มขู่ว่า จะดำเนินการฟ้องร้องถอดถอน หากเขาไม่ยอมก้าวลงเก้าอี้ภายใน 48 ชั่วโมง
ผู้ช่วยหลายคนของบุรุษผู้สร้างชื่อด้วยการรณรงค์ต่อต้านการทุจริตประพฤติมิชอบมานานปีผู้นี้ แจ้งต่อหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ว่า พวกเขาคาดหมายว่าสปิตเซอร์จะประกาศลาออกในวันพุธ(12) ขณะเดียวกันก็มีรายละเอียดใหม่ๆ ถูกเปิดโปงออกมา เกี่ยวกับการไปใช้บริการหญิงโสเภณีชั้นสูงราคาแพงลิ่วของเขา
ทางฝ่ายพรรครีพับลิกันในสภานิติบัญญัติของมลรัฐ ประกาศในวันอังคารว่า ให้เวลาสปิตเซอร์ยื่นใบลาออกภายในเวลา 48 ชั่วโมง มิฉะนั้นพวกเขาก็จะยื่นเรื่องเดินหน้ากระบวนการถอดถอนเขาออกจากตำแหน่ง โดยที่ยืนกรานว่า ผู้ว่าการผู้นี้ซึ่งอาจถูกตั้งข้อหาความผิดทางอาญาจากทางการรัฐบาลกลางสหรัฐฯด้วย ไม่มีความเหมาะสมที่จะอยู่ในตำแหน่งอีกต่อไปแล้ว
ทางพรรคเดโมแครตยังเป็นฝ่ายคุมเสียงข้างมากในสภามลรัฐอยู่ ดังนั้น การเดินหน้าถอดถอนสปิตเซอร์จะเกิดขึ้นได้ ก็จะต้องมีสมาชิกบางส่วนของฝ่ายเดโมแครตแปรพักตร์ไปเข้าร่วมกับฝ่ายค้าน
สำหรับตัวสปิตเซอร์เอง ซึ่งแต่งงานแล้วและมีบุตรสาว 3 คน ใช้เวลาเมื่อวันอังคารอยู่แต่ในอพาร์ตเมนต์ที่พักของเขา พร้อมกับพวกที่ปรึกษาหลายต่อหลายคน
หนังสือพิมพ์นิวสเดย์ รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวที่เป็นบุคคลผู้คุ้นเคยกับสถานการณ์บอกว่า ภรรยาของสปิตเซอร์ คือ ซิลดา วอลล์ สปิตเซอร์ เป็นหนึ่งในผู้คนซึ่งรบเร้าให้เขาอยู่ในตำแหน่งต่อไป
สปิตเซอร์ซึ่งปัจจุบันอายุ 48 ปี และสร้างชื่อเสียงระบือในตอนนั่งตำแหน่งอัยการมลรัฐนิวยอร์ก ด้วยการกล่าวโทษฟ้องร้องพวกทุจริตประพฤติมิชอบในแวดวงบริษัทต่างๆ โดยเฉพาะเหล่าบริษัทการเงินในวอลล์สตรีท ได้ออกมาแสดงท่าทีในวันจันทร์ว่า เขาไม่คิดที่จะลงจากเก้าอี้ อย่างน้อยก็ไม่ใช่ในขณะนี้ โดยได้พูดถึงเรื่องอื้อฉาวที่เกิดขึ้นว่าเป็น "เรื่องส่วนตัว"
ทว่าตามรายงานของนิวสเดย์ พวกทนายความของสปิตเซอร์กำลังเจรจาต่อรองกับฝ่ายอัยการสหรัฐฯ โดยที่เขาจะยอมลาออกแลกกับการไม่ถูกฝ่ายอัยการดำเนินคดีอาญาในความผิดอุกฉกรรจ์ อย่างเช่น ฟอกเงิน, ละเมิดกฎหมายด้านเงินตราของทางการสหรัฐฯ
หลายมลรัฐในสหรัฐฯถือว่าการซื้อบริการค้าประเวณีเป็นความผิดด้วย แต่ปกติแล้วทางอัยการมักมุ่งฟ้องร้องพวกดำเนินการค้าประเวณีโดยไม่แตะต้องลูกค้า อย่างไรก็ดี กรณีของสปิตเซอร์ ได้นัดหมายหญิงคู่ขาจากนิวยอร์กมาที่กรุงวอชิงตัน ซึ่งเป็นการข้ามมลรัฐ จึงกลายเป็นคดีในความดูแลของฝ่ายรัฐบาลกลาง
ขณะที่ ในการจ่ายเงินให้แก่ทางซ่องโสเภณี สปิตเซอร์ใช้วิธีทยอยจ่ายเป็นเงินก้อนเล็กๆ เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้จำนวนถึง 10,000 ดอลลาร์ ซึ่งจะต้องกรอกแบบฟอร์มแจ้งต่อทางการ ทว่าวิธีนี้ก็เท่ากับจงใจละเมิดกฎหมายการฟอกเงิน แถมยังกลับทำให้พนักงานแบงก์สงสัยว่าจะมีการทุจริต จึงแจ้งทางการให้ตรวจสอบและเรื่องก็ถูกเปิดโปงออกมาในที่สุด
ในเมืองออบานี เมืองหลวงของมลรัฐนิวยอร์ก กำลังมีการพูดจากันหนาหูเกี่ยวกับการถ่ายโอนตำแหน่งไปให้แก่รองผู้ว่าการ เดวิด แพตเทอร์สัน ผู้ซึ่งจะกลายเป็นผู้ว่าการผิวดำคนแรกของมลรัฐนิวยอร์ก อีกทั้งจะเป็นผู้ว่าการมลรัฐในสหรัฐฯคนแรกที่เป็นคนตาบอด
สำหรับความคิดเห็นของประชาชนในมลรัฐนั้น ตามโพลล่าสุดของ ดับเบิลยูเอ็นบีซี/มาริสต์ ผู้จดทะเบียนว่าไปใช้สิทธิออกเสียงในนิวยอร์กถึง 70% ต้องการให้สปิตเซอร์ลาออกไป และถ้าเขาไม่ยอมลงจากเก้าอี้ 66%ก็บอกว่าทางสภามลรัฐควรถอดถอนเขา
แต่ชาวนิวยอร์กเหล่านี้แตกความคิดเห็นกันในเรื่องควรจะจัดการกับสปิตเซอร์อย่างไรต่อไป โดยราวๆ ครึ่งหนึ่งเห็นว่า ควรต้องตั้งข้อหาคดีอาญากับเขา ขณะที่อีกครึ่งหนึ่งบอกว่าไม่ควร
ผู้ช่วยหลายคนของบุรุษผู้สร้างชื่อด้วยการรณรงค์ต่อต้านการทุจริตประพฤติมิชอบมานานปีผู้นี้ แจ้งต่อหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ว่า พวกเขาคาดหมายว่าสปิตเซอร์จะประกาศลาออกในวันพุธ(12) ขณะเดียวกันก็มีรายละเอียดใหม่ๆ ถูกเปิดโปงออกมา เกี่ยวกับการไปใช้บริการหญิงโสเภณีชั้นสูงราคาแพงลิ่วของเขา
ทางฝ่ายพรรครีพับลิกันในสภานิติบัญญัติของมลรัฐ ประกาศในวันอังคารว่า ให้เวลาสปิตเซอร์ยื่นใบลาออกภายในเวลา 48 ชั่วโมง มิฉะนั้นพวกเขาก็จะยื่นเรื่องเดินหน้ากระบวนการถอดถอนเขาออกจากตำแหน่ง โดยที่ยืนกรานว่า ผู้ว่าการผู้นี้ซึ่งอาจถูกตั้งข้อหาความผิดทางอาญาจากทางการรัฐบาลกลางสหรัฐฯด้วย ไม่มีความเหมาะสมที่จะอยู่ในตำแหน่งอีกต่อไปแล้ว
ทางพรรคเดโมแครตยังเป็นฝ่ายคุมเสียงข้างมากในสภามลรัฐอยู่ ดังนั้น การเดินหน้าถอดถอนสปิตเซอร์จะเกิดขึ้นได้ ก็จะต้องมีสมาชิกบางส่วนของฝ่ายเดโมแครตแปรพักตร์ไปเข้าร่วมกับฝ่ายค้าน
สำหรับตัวสปิตเซอร์เอง ซึ่งแต่งงานแล้วและมีบุตรสาว 3 คน ใช้เวลาเมื่อวันอังคารอยู่แต่ในอพาร์ตเมนต์ที่พักของเขา พร้อมกับพวกที่ปรึกษาหลายต่อหลายคน
หนังสือพิมพ์นิวสเดย์ รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวที่เป็นบุคคลผู้คุ้นเคยกับสถานการณ์บอกว่า ภรรยาของสปิตเซอร์ คือ ซิลดา วอลล์ สปิตเซอร์ เป็นหนึ่งในผู้คนซึ่งรบเร้าให้เขาอยู่ในตำแหน่งต่อไป
สปิตเซอร์ซึ่งปัจจุบันอายุ 48 ปี และสร้างชื่อเสียงระบือในตอนนั่งตำแหน่งอัยการมลรัฐนิวยอร์ก ด้วยการกล่าวโทษฟ้องร้องพวกทุจริตประพฤติมิชอบในแวดวงบริษัทต่างๆ โดยเฉพาะเหล่าบริษัทการเงินในวอลล์สตรีท ได้ออกมาแสดงท่าทีในวันจันทร์ว่า เขาไม่คิดที่จะลงจากเก้าอี้ อย่างน้อยก็ไม่ใช่ในขณะนี้ โดยได้พูดถึงเรื่องอื้อฉาวที่เกิดขึ้นว่าเป็น "เรื่องส่วนตัว"
ทว่าตามรายงานของนิวสเดย์ พวกทนายความของสปิตเซอร์กำลังเจรจาต่อรองกับฝ่ายอัยการสหรัฐฯ โดยที่เขาจะยอมลาออกแลกกับการไม่ถูกฝ่ายอัยการดำเนินคดีอาญาในความผิดอุกฉกรรจ์ อย่างเช่น ฟอกเงิน, ละเมิดกฎหมายด้านเงินตราของทางการสหรัฐฯ
หลายมลรัฐในสหรัฐฯถือว่าการซื้อบริการค้าประเวณีเป็นความผิดด้วย แต่ปกติแล้วทางอัยการมักมุ่งฟ้องร้องพวกดำเนินการค้าประเวณีโดยไม่แตะต้องลูกค้า อย่างไรก็ดี กรณีของสปิตเซอร์ ได้นัดหมายหญิงคู่ขาจากนิวยอร์กมาที่กรุงวอชิงตัน ซึ่งเป็นการข้ามมลรัฐ จึงกลายเป็นคดีในความดูแลของฝ่ายรัฐบาลกลาง
ขณะที่ ในการจ่ายเงินให้แก่ทางซ่องโสเภณี สปิตเซอร์ใช้วิธีทยอยจ่ายเป็นเงินก้อนเล็กๆ เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้จำนวนถึง 10,000 ดอลลาร์ ซึ่งจะต้องกรอกแบบฟอร์มแจ้งต่อทางการ ทว่าวิธีนี้ก็เท่ากับจงใจละเมิดกฎหมายการฟอกเงิน แถมยังกลับทำให้พนักงานแบงก์สงสัยว่าจะมีการทุจริต จึงแจ้งทางการให้ตรวจสอบและเรื่องก็ถูกเปิดโปงออกมาในที่สุด
ในเมืองออบานี เมืองหลวงของมลรัฐนิวยอร์ก กำลังมีการพูดจากันหนาหูเกี่ยวกับการถ่ายโอนตำแหน่งไปให้แก่รองผู้ว่าการ เดวิด แพตเทอร์สัน ผู้ซึ่งจะกลายเป็นผู้ว่าการผิวดำคนแรกของมลรัฐนิวยอร์ก อีกทั้งจะเป็นผู้ว่าการมลรัฐในสหรัฐฯคนแรกที่เป็นคนตาบอด
สำหรับความคิดเห็นของประชาชนในมลรัฐนั้น ตามโพลล่าสุดของ ดับเบิลยูเอ็นบีซี/มาริสต์ ผู้จดทะเบียนว่าไปใช้สิทธิออกเสียงในนิวยอร์กถึง 70% ต้องการให้สปิตเซอร์ลาออกไป และถ้าเขาไม่ยอมลงจากเก้าอี้ 66%ก็บอกว่าทางสภามลรัฐควรถอดถอนเขา
แต่ชาวนิวยอร์กเหล่านี้แตกความคิดเห็นกันในเรื่องควรจะจัดการกับสปิตเซอร์อย่างไรต่อไป โดยราวๆ ครึ่งหนึ่งเห็นว่า ควรต้องตั้งข้อหาคดีอาญากับเขา ขณะที่อีกครึ่งหนึ่งบอกว่าไม่ควร
