xs
xsm
sm
md
lg

บ่อนถูกกฎหมาย : “ฝันไปเถอะ!”

เผยแพร่:   โดย: แสงแดด

กรณี “บ่อน-กาสิโน” ที่เกิดเป็น “ประเด็นร้อน-ประเด็นฮอต!” ขึ้นอีกครั้งเมื่อนายกรัฐมนตรี สมัคร สุนทรเวช เอ่ยเอื้อนวาจาออกมาเมื่อประมาณหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันแทบทุกวันตั้งแต่นั้นมา ซึ่งท่านนายกฯ สมัคร ก็บอกว่าประเด็นนี้เกิดจากคำถามของผู้สื่อข่าวที่ถามขึ้นมาก่อน และก็เป็นเพียง “ความคิดเห็น” ของคุณสมัคร เพียงลำพัง มิใช่นโยบายรัฐบาลและของพรรคพลังประชาชน พูดง่ายๆ คือ “สื่อฯ โดนอีกแล้ว!”

เท่าที่จำความได้ ก็ต้องบอก และ/หรือ ตะโกนดังๆ ว่า “การเปิดบ่อนถูกกฎหมาย” แทบจะเป็น “หมัดเด็ด!” ของทุกๆ รัฐบาล โดยเฉพาะรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง “แสงแดด” ได้ยินมาทุกยุคทุกสมัย และไม่เคยเห็นรัฐบาลไหนประสบความสำเร็จเลย ยกเว้นแต่รัฐบาลของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เท่านั้นที่สามารถดำเนินการออก “หวยบนดิน” ได้สำเร็จกับเลขท้าย 2 ตัว 3 ตัว

ทุกรัฐบาลนับถอยหลังไปประมาณ 10 กว่ารัฐบาล ก็ต้อง “โยน” แนวคิด “บ่อน” ออกมาทุกครั้ง และครั้งนี้ก็เช่นเดียวกันที่ “โยนก้อนหินถามทาง!” เพื่อที่จะ “ทดสอบกระแสสังคม!” ว่าจะ “เยส-โน” อย่างไร จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ “เมาท์” กันสนุก แม้กระทั่ง “แสงแดด” ก็ร่วมแจมกับเขาด้วยทั้งในหนังสือพิมพ์และสื่อวิทยุ

“แสงแดด” ยังฉุกคิดเล่นๆ เลยว่า “เอ! เราถูกหลอกหรือไม่ หรือโดนหลอกอีกแล้ว!” กับแนวคิดบ่อนกาสิโนอีก เพื่อต้องการจะ “เบี่ยงเบน” หรือ “กลบข่าว” อื่นๆ หรือปล่าว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “ข่าวการเด้งข้าราชการ” หรืออาจต้องการทดสอบกระแสสังคมว่า ควรให้มีการเปิดบ่อนอย่างถูกต้องตามกฎหมายที่กลายเป็น “ศูนย์บันเทิงเริงรมย์ (Entertainment Complex)” เหมือนในต่างประเทศ ซึ่งน่าเชื่อว่า “เกิดยาก!” แต่ก็เป็นเพียงการเปรยไอเดียเท่านั้น แต่ “เป้าหมาย” ที่แท้จริงก็คือ “ฟื้นคืนชีพหวยบนดิน!” อีกครั้งหนึ่ง

ข้อสมมติฐานและข้อสงสัยข้างต้นคงไม่มีใครตอบได้ แต่ที่แน่ๆ ก็คือว่า “หวยบนดินคืนชีพ” เรียบร้อยอย่างแน่นอนในอีกไม่กี่สัปดาห์ต่อจากนี้ อย่างนานที่สุดก็ไม่เกิน 2-3 เดือน เพราะมีร่างพระราชบัญญัติสลากกินแบ่งรัฐบาล พ.ศ. 2550 ดักรอไว้ล่วงหน้าเรียบร้อย ตั้งแต่สมัยของรัฐบาลชุดที่ผ่านมา

ทุกครั้งที่มีการโยนแนวคิด “บ่อน-กาสิโน” ออกมาก็จะมีการโจษจันวิพากษ์วิจารณ์กันยาวนานติดต่อกันนานถึง 1-2 สัปดาห์ และในที่สุดก็จะกลายเป็น “คลื่นกระทบฝั่ง” จนค่อยๆ คลายจางหายไปในที่สุด ทั้งนี้อาจจะเกิดจากการไปศึกษาเพิ่มเติมถึงรายละเอียดต่างๆ โดยเฉพาะกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หรืออาจได้รับ “กระแสต่อต้าน” จากสังคม จึงล้มเลิกโครงการไปเนื่องด้วย “ได้-ไม่คุ้มเสีย” แต่ที่มักเกิดขึ้นทุกครั้งเป็น “การปรับเปลี่ยนรัฐบาล” ไม่ด้วยวิธีการ “ปรับคณะรัฐมนตรี” หรือไม่ก็ “ยุบสภา”

และทั้งนี้ก็ “ซ้ำรอยเดิม-อีหรอบเดิม” เพราะนายกฯ สมัคร ก็ได้ตีปลาหน้าไซไปเรียบร้อยแล้วว่า “เอกชนน่าจะเริ่มต้นได้เอง!” ทั้งนี้มิใช่ความคิดของนายกฯ สมัคร และของรัฐบาลแต่ประการใด

นายกรัฐมนตรีสมัคร สุนทรเวช ได้กล่าวไว้ว่า “ถ้าอยู่ครบ 4 ปี ในช่วงรัฐบาลคุณ บ่อนกาสิโนเกิดขึ้นอย่างแน่นอน!” ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้น โอกาสในการเกิด “บ่อนกาสิโนถูกกฎหมาย” มีทิศทางสูงเป็นไปได้อย่างมาก เพียงแต่คำถามสำคัญต้องถามว่า “ท่านนายกฯ สมัคร จะอยู่นานถึงขนาดนั้นรึปล่าว?”

อย่างไรก็ตาม “แนวคิดในการเปิดบ่อน” ทุกครั้งก็จะมีทั้งการวิพากษ์วิจารณ์เชิงลบเชิงบวกตลอดเวลา ซึ่งความจริงที่เราต้องยอมรับว่า ทั้งสองฝ่ายต่างมีข้อเสนอ “ผลดี-ผลเสีย” ที่มีน้ำหนักไม่แตกต่างกันเท่าใด

ความจริงของคนไทยนั้น เราต้องยอมรับว่า “การพนันขันต่อ” กระจัดกระจายไปทุกหย่อมหญ้า ตั้งแต่การพนันระดับกระจอก เล่นพนันกันเพียงแค่หลักบาท หลักสิบบาทและหลักร้อยบาท จนเลยไปจนถึงหลักพัน หลักหมื่น หลักแสน หลักล้านและหลายร้อยล้านบาท

คนไทยเล่นพนันทุกชนิด เรียกว่า “ผีพนัน” เข้าสิงสู่ในจิตวิญญาณของคนไทยส่วนใหญ่ มิใช่ผีอยู่ในเลือดหรือในกระดูกหรอก แต่ “ผีพนัน” ส่วนใหญ่ โปรดปรานการพนันเป็นชีวิตจิตใจ

เริ่มตั้งแต่ “โยนหัวก้อย-ปั่นแปะ-ลูกเต๋า-ป๊อกเด้ง ฯลฯ” ไปจนถึงทายเบอร์แบงก์ และแน่นอนที่สุด “พนันบอล” ข้ามประเทศข้ามทวีปกันเลยทีเดียว!

ถามว่า ทุกวันนี้ “การพนัน” แพร่ระบาดไปทุกหย่อมหญ้าทั่วหัวระแหงและ “ผิดกฎหมาย” ทั้งสิ้น แม้แต่ข้าราชการระดับล่างจนไปถึงระดับรัฐมนตรี ต่างก็เล่นการพนันกันเสียเป็นส่วนใหญ่ และที่สำคัญที่สุดเป็นการ “เล่นพนันกันแบบเล่นๆ!” จนถึงขนาด “เข้าบ่อนพนัน” ที่กระจัดกระจายอยู่ ถ้าไปโดยมีตำรวจและเจ้าหน้าที่ของรัฐ “รู้เห็นเป็นใจ”

นักธุรกิจระดับชาติบวกกับนักการเมืองต่างเดินจูงมือกันไปเล่นการพนันยังต่างประเทศ เริ่มตั้งแต่แนวตะเข็บชายแดนระหว่างไทยกับประเทศเพื่อนบ้านไปจนถึงมาเก๊า ออสเตรเลีย สหรัฐอเมริกา ยุโรป พูดง่ายๆ ก็หมายความว่า “นักเลงการพนัน” ที่เป็นคนไทย “ขนเงิน” ออกไปเล่นการพนันยังต่างประเทศเป็นว่าเล่น!

“บ่อนการพนันเถื่อน” มีกระจัดกระจายอยู่ทั่วไป ทั้งในกรุงเทพฯ ตามหัวเมืองใหญ่และตามต่างจังหวัด ล้วนเป็นของ “ผู้ทรงอิทธิพล” ทั้งสิ้น เริ่มต้นจากตำแหน่งนักการเมืองท้องถิ่น นักการเมืองระดับชาติ ไปจนถึงทหาร ข้าราชการทั่วไป ที่ต่างมี “เอี่ยว” กับ “การรับรู้” และไม่สำคัญเท่ากับ “ผลประโยชน์” กับ “ส่วย” อย่างถ้วนหน้า

แม้กระทั่ง “งานบวช-งานแต่ง-งานศพ” ยังมี “บ่อนเคลื่อนที่” เอาไว้คอยบริการให้กับเจ้าของงานเลย ซึ่งมีการหมุนเวียนของเม็ดเงินเริ่มตั้งแต่หลักหมื่นไปจนถึงหลักแสนหรือแม้กระทั่งหลักล้านบาท

“การพนันใต้ดิน-การพนันนอกระบบ” ฝังอยู่กับระบบสังคมไทยมาช้านาน ยากแก่การทำลายล้าง ซึ่งมักเป็นกรณีที่มีการกล่าวถึงกันว่า “น่าจะจับมาอยู่บนดิน” ซึ่งสามารถ “เก็บภาษี” ได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย!

เม็ดเงินที่ฝังอยู่กับ “ธุรกิจพนัน” นี้ นับค่าแล้วน่าจะไต่ระดับถึงหลักแสนล้านบาท ที่ถ้าภาครัฐเอาจริงเอาจังใน “การจัดระบบระเบียบ” และที่สำคัญที่สุดต้องดำเนินการอย่างโปร่งใส ก็น่าเชื่อได้ว่า จะจัดเก็บภาษีนำเม็ดเงินเข้ารัฐได้ปีละหลายหมื่นล้านบาท โดยนำไปใช้ประโยชน์ได้หลายทาง อาทิ เพื่อการแก้ไขปัญหาความยากจน การศึกษาและการพัฒนาประเทศเป็นต้น

ในกรณีแนวคิดข้างต้นนั้น “ถ้าสามารถดำเนินการได้!” ก็จะเกิดประโยชน์อเนกอนันต์แก่ประเทศชาติอย่างมากมาย แต่ถ้าคิดอย่างละเอียดถี่ถ้วนทุกชั้นแล้ว “การจัดการอย่างธรรมาภิบาล” และเพียงแค่ร้อยละ 80 ก็น่าจะเกิดขึ้นยาก เพราะฉะนั้น ในกรณีนี้คงจะต้องอภิปรายถกเถียงไปอีกนาน ซึ่งอาจทำให้แนวคิดบ่อน เป็นคลื่นกระทบฝั่ง ก็เป็นได้

ในกรณีของนักเล่นการพนันที่เดินทางไปเล่นการพนัน ตั้งแต่ตามแนวชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน ไปจนถึงแดนไกล ซึ่งต้องใช้เงินจำนวนหลักล้านบาทขึ้นไปถึงจะมีปัญญาเดินทางไกลไปจนถึง “ดินแดนสวรรค์ของนักพนัน-ลาสเวกัส” ที่สหรัฐอเมริกาได้

เท่าที่ได้สดับตรับฟังจากข้อมูลของการสำรวจและประมวลมาได้ ก็ปรากฏว่าน่าจะมีเม็ดเงิน “ทะลัก” ออกต่างประเทศปีละหลักหมื่นถึงหลักแสนล้านบาทเลยทีเดียว เท่ากับว่า “ขนเงินออกนอกประเทศ” และ “มักหายวับ!”

จากทั้งสองประเด็น กล่าวคือ “ผลประโยชน์ใต้ดิน-เม็ดเงินออกนอกประเทศ” จึงมักเป็น “เหตุผล” สำคัญของการนำเสนอแนวคิด “บ่อนถูกกฎหมาย” ปะทุขึ้นมาทุกครั้ง เมื่อมีรัฐบาลใหม่ โดยเฉพาะจากการเลือกตั้ง

เพียงแต่ประเด็นเรื่อง “เยาวชน” และ “ศาสนา” ก็ต้องถูกหยิบยกขึ้นมา “คัดค้าน” ทุกครั้ง เมื่อไอเดียบ่อนกระฉูดอีก! นอกเหนือจาก “ข้อสังเกต-ข้อสงสัย” ที่เกี่ยวกับ “การให้สัมปทาน” พร้อมทั้ง “การบริหารจัดการ” ที่ต้อง “โปร่งใส-เป็นธรรม” ซึ่งความจริงที่เราต้องยอมรับว่า ในที่สุด “ผู้ทรงอิทธิพล” ก็จะได้รับการจัดสรรอีกในเชิง “ทุจริตเชิงนโยบาย” และแน่นอน “ผลประโยชน์ทับซ้อน!”

“แสงแดด” มิได้คัดค้านหรือสนับสนุนแต่ประการใด เพียงแต่เสนอแนะแง่มุมต่างๆ หลากหลายมิติ เหมือนคนอื่นๆ และทุกครั้งก็เป็นเช่นนี้ มิได้แตกต่างไปจากเดิม ไม่ว่าจะเป็นในกรณีของ “รายได้-การจัดเก็บผลประโยชน์-การจัดสรรสัมปทาน-ความโปร่งใส” เป็นต้น

แต่ปัญหาที่ “ฝังรากลึก” แก้ไม่ได้ก็คือ “คนไทย-เป็นผีพนัน” ตลอดศก “เงินก็อยู่ใต้ดิน-ต่างแดน” และที่สำคัญ “บ่อนถูกกฎหมาย” เป็นเพียงไอเดียเท่านั้น!
กำลังโหลดความคิดเห็น