ผู้จัดการรายวัน – “วีระศักดิ์” ฟื้นโครงการพืชสวนโลก สั่ง ททท.ทยอยอัดกิจกรรมเดือนละ 2 ครั้ง ดึงนักท่องเที่ยวไทย-ต่างชาติลงพื้นที่พร้อมแผนโปรโมต ด้านกระทรวงเกษตรฯชงเรื่องเข้าครม.ขอใช้งบ 105 ล้านบาท ปรับพื้นที่ ก่อนตั้งเป็นองค์การมหาชน
นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ได้เตรียมให้ ททท. ไปจัดกิจกรรมในพื้นที่สวนเฉลิมพระเกียรติฯราชพฤกษ์ 2549 ซึ่งเคยใช้จัดงานพืชสวนโลก ในปี 2549 พร้อมกับทำการประชาสัมพันธ์ทั้งตลาดต่างประเทศและตลาดในประเทศ เพื่อฟื้นพื้นที่ดังกล่าวให้เป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวของภาคเหนือตอนบนและลุ่มแม่น้ำโขงตอนบน รองรับนักท่องเที่ยวจากจีนและประเทศอื่นๆรวมถึงตลาดคนไทย
เบื้องต้นได้หารือร่วมกับกระทรวงเกษตรฯซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ดังกล่าว พร้อมกับแบ่งหน้าที่การทำงาน โดยกระทรวงเกษตรฯจะดูแลและบริหารจัดการพื้นที่ ส่วนกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จะรับหน้าที่เรื่องการจัดกิจกรรมและการประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ เบื้องต้น ตั้งเป้าหมายจัดกิจกรรมอย่างน้อยเดือนละ 2 งาน
“ปัจจุบันสถานที่ดังกล่าว กรมวิชาการเกษตรได้จัดสรรงบประมาณประจำปีดูแลรักษาสถานที่ ต้นไม้ และสาธารณูปโภคต่างๆ เฉลี่ยเดือนละ 5 ล้านบาท แต่จากการกลับมาใช้ประโยชน์ในพื้นที่นี้ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวอีกครั้งจะสามารถสร้างรายได้เลี้ยงตัวเองได้ และก่อเกิดรายได้ลงสู่ชุมชนท้องถิ่นอีกด้วย โดยการจัดกิจกรรมในแต่ละครั้งของ ททท. ก็จะเปิดให้ภาคเอกชนมาเช่าบูธเปิดร้านขายสินค้า และ ในอนาคตอาจมีการเก็บค่าผ่านประตูแก่ผู้เข้าชมบ้าง ประเดิมงานแรก ที่จะเข้าไปจัดกิจกรรม คือ เทศกาลมหาสงกรานต์
นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ขณะนี้ กระทรวงฯอยู่ระหว่างการขอเพิกถอนพื้นที่สวนราชพฤกษ์ 2549 ซึ่งมีประมาณ 470 ไร่ ออกจากเขตอุทยานฯ มาเป็นป่าสงวนแห่งชาติ ขึ้นกับกรมป่าไม้ โดยกรมวิชาการเกษตร จะต้องนำเรื่องเสนอต่อคณะรัฐมนตรี(ครม.)เพื่อเห็นชอบการเพิกถอนดังกล่าว และทำเรื่องขอใช้พื้นที่จากกรมป่าไม้ต่อไป
ส่วนงบประมาณได้เตรียมนำเสนอต่อครม.ขออนุมัติเงิน 105 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินรายได้จากงานพืชสวนโลก ซึ่งมีอยู่จำนวน 174.69 ล้านบาท มาเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานฟื้นฟู แบ่งเป็น 45 ล้านบาท สำหรับค่าปรับปรุงสวนจัดภูมิสถาปัตย์ อีก 60 ล้านบาทเป็นค่าใช้จ่ายด้านการดูแลและบริหารจัดการในปีแรกของการเปิดดำเนินการ โดยกระทรวงเกษตรฯจะเสนอให้พื้นที่ดังกล่าวมีการบริการจัดการในรูปแบบองค์การมหาชนหารายได้เลี้ยงดูตัวเอง ปัจจุบัน พื้นที่ดังกล่าว ในวันธรรมดามีนักท่องเที่ยวเข้าชมประมาณ 800 คน ส่วนวันหยุดมีประมาณ 1,200 คน เมื่อ ททท.เข้าไปจัดกิจกรรมเชื่อว่าจะเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวได้มากขึ้น
นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ได้เตรียมให้ ททท. ไปจัดกิจกรรมในพื้นที่สวนเฉลิมพระเกียรติฯราชพฤกษ์ 2549 ซึ่งเคยใช้จัดงานพืชสวนโลก ในปี 2549 พร้อมกับทำการประชาสัมพันธ์ทั้งตลาดต่างประเทศและตลาดในประเทศ เพื่อฟื้นพื้นที่ดังกล่าวให้เป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวของภาคเหนือตอนบนและลุ่มแม่น้ำโขงตอนบน รองรับนักท่องเที่ยวจากจีนและประเทศอื่นๆรวมถึงตลาดคนไทย
เบื้องต้นได้หารือร่วมกับกระทรวงเกษตรฯซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ดังกล่าว พร้อมกับแบ่งหน้าที่การทำงาน โดยกระทรวงเกษตรฯจะดูแลและบริหารจัดการพื้นที่ ส่วนกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จะรับหน้าที่เรื่องการจัดกิจกรรมและการประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ เบื้องต้น ตั้งเป้าหมายจัดกิจกรรมอย่างน้อยเดือนละ 2 งาน
“ปัจจุบันสถานที่ดังกล่าว กรมวิชาการเกษตรได้จัดสรรงบประมาณประจำปีดูแลรักษาสถานที่ ต้นไม้ และสาธารณูปโภคต่างๆ เฉลี่ยเดือนละ 5 ล้านบาท แต่จากการกลับมาใช้ประโยชน์ในพื้นที่นี้ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวอีกครั้งจะสามารถสร้างรายได้เลี้ยงตัวเองได้ และก่อเกิดรายได้ลงสู่ชุมชนท้องถิ่นอีกด้วย โดยการจัดกิจกรรมในแต่ละครั้งของ ททท. ก็จะเปิดให้ภาคเอกชนมาเช่าบูธเปิดร้านขายสินค้า และ ในอนาคตอาจมีการเก็บค่าผ่านประตูแก่ผู้เข้าชมบ้าง ประเดิมงานแรก ที่จะเข้าไปจัดกิจกรรม คือ เทศกาลมหาสงกรานต์
นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ขณะนี้ กระทรวงฯอยู่ระหว่างการขอเพิกถอนพื้นที่สวนราชพฤกษ์ 2549 ซึ่งมีประมาณ 470 ไร่ ออกจากเขตอุทยานฯ มาเป็นป่าสงวนแห่งชาติ ขึ้นกับกรมป่าไม้ โดยกรมวิชาการเกษตร จะต้องนำเรื่องเสนอต่อคณะรัฐมนตรี(ครม.)เพื่อเห็นชอบการเพิกถอนดังกล่าว และทำเรื่องขอใช้พื้นที่จากกรมป่าไม้ต่อไป
ส่วนงบประมาณได้เตรียมนำเสนอต่อครม.ขออนุมัติเงิน 105 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินรายได้จากงานพืชสวนโลก ซึ่งมีอยู่จำนวน 174.69 ล้านบาท มาเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานฟื้นฟู แบ่งเป็น 45 ล้านบาท สำหรับค่าปรับปรุงสวนจัดภูมิสถาปัตย์ อีก 60 ล้านบาทเป็นค่าใช้จ่ายด้านการดูแลและบริหารจัดการในปีแรกของการเปิดดำเนินการ โดยกระทรวงเกษตรฯจะเสนอให้พื้นที่ดังกล่าวมีการบริการจัดการในรูปแบบองค์การมหาชนหารายได้เลี้ยงดูตัวเอง ปัจจุบัน พื้นที่ดังกล่าว ในวันธรรมดามีนักท่องเที่ยวเข้าชมประมาณ 800 คน ส่วนวันหยุดมีประมาณ 1,200 คน เมื่อ ททท.เข้าไปจัดกิจกรรมเชื่อว่าจะเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวได้มากขึ้น