ฉบับวนที่ 10-3-51
ผู้จัดการรายวัน – แนวโน้มเศรษฐกิจร่วงปีนี้มีสูง ธุรกิจเครื่องสำอาง โดยเฉพาะระดับบน คาดหั่นราคาสนองลูกค้าแน่นอน “เรฟลอน” ไม่หวั่น รายได้ปีนี้ตามเป้าแน่ เหตุมีฐานลูกค้ากว้าง นำเสนอสินค้าตรงใจผู้บริโภค ล่าสุดเตรียมนำเข้าสินค้าใหม่อีก 10%เอาใจสาวห่วงสวย
นางสาวศิรินทร์ มาลากุล ณ อยุธยา บริษัท อินเตอร์เนชั่นแนล บิวตี้ โปรดักส์ จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่าย เครื่องสำอางแบรนด์ Revlon (เรฟลอน), Untima II และ Borgsvese จากประเทศสหรัฐอเมริกา เปิดเผยกับ “ผู้จัดการรายวัน” ว่า โดยปกติไม่ว่าเศรษฐกิจจะดีหรือไม่ดี เครื่องสำอางถือเป็นกลุ่มสินค้าที่ไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างไร นั่นเพราะผู้หญิงยังคงให้ความสำคัญกับตัวเองอยู่ตลอดเวลา
อย่างไรก็ตามหากแนวโน้มสภาพเศรษฐกิจปีนี้ยังคงแย่ลงเรื่อยๆ คาดว่ากลุ่มเครื่องสำอางที่มีราคาค่อนข้างสูงจะเป็นกลุ่มสินค้าที่อาจจะได้รับผลกระทบในครั้งนี้ เพราะลูกค้ามีค่าครองชีพน้อยลง อาจงดซื้อสินค้าที่มีราคาแพง ดังนั้นกลุ่มเครื่องสำอางระดับสูง น่าจะมีการปรับราคาลงมาเพื่อให้ผู้บริโภคสามารถซื้อหากันได้
สำหรับแบรนด์เรฟลอน มองว่าปีนี้ยอดขายจะไม่ได้รับผลกระทบเหมือนปีที่แล้ว เนื่องจากปัจจุบันเรฟลอนมีฐานลูกค้าที่ค่อนข้างกว้าง สำหรับผู้บริโภคที่เพิ่งหัดใช้เครื่องสำอางไปจนถึงระดับโปรเฟสชันนัล หรือตั้งแต่ระดับซีไปจนถึงบีบวก และมีระดับราคาสินค้าที่วางจำหน่ายอยู่ในขณะนี้ ถือได้ว่าเป็นราคาที่เหมาะสม เช่น ลิปสติก ตั้งแต่ 200- 400 บาท ดังนั้นปีนี้เรฟลอนยังคงทำตลาดเช่นเดียวกับปีที่ผ่านมา โดยกลยุทธ์ทางด้านราคานั้น จะไม่มีการนำมาใช้อย่างแน่นอน
นางสาวศิรินทร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า เดิมเรฟลอนมีภาพลักษณ์เป็นเครื่องสำอางสำหรับผู้ใหญ่วัยทำงาน แต่หลังจากที่บริษัทฯได้มีการปรับภาพลักษณ์สินค้า เปลี่ยนแพกเกจจิ้งใหม่มาตลอด 3-4 ปี ส่งผลให้เรฟลอนมีฐานลูกค้ามากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นที่เพิ่งเริ่มหัดใช้เครื่องสำอาง ซึ่งกลยุทธ์ดังกล่าวทำให้ปีที่ผ่านมา ยอดขายของเรฟลอนยังมีอัตราการเติบโตเป็นตัวเลข 2 หลักตามเป้าที่วางไว้ หรือคิดเป็นสัดส่วนรายได้ประมาณ 80-90% ของรายได้รวมบริษัทฯ ที่เหลือมาจากเครื่องสำอางระดับบนอีก 2 แบรนด์ คือ Untima IIและ Borgsvese
สำหรับการทำตลาดของเรฟลอนในปีนี้ บริษัทฯจะเน้นการคัดสรรสินค้าให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายมากยิ่งขึ้น มีการเลือกเฉดสีที่กำลังอินเทรนด์ มานำเสนอแก่ลูกค้าเพิ่มขึ้น หรือมีการนำเข้าสินค้าใหม่ประมาณ 10% จากที่วางจำหน่ายทั้งหมด 300-400 เอสเคยูในปีที่ผ่านมา นอกจากนี้บริษัทฯจะเน้นเรื่องของการให้บริการ ณ จุดขายให้มากขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า ไม่ว่าจะเป็น การหัดแต่งหน้า หรือ ให้คำแนะนำในการแต่งหน้า
ทั้งนี้ปัจจุบัน เรฟลอน มีช่องทางการจำหน่ายเพียงช่องทางเดียว คือ โมเดิร์นเทรด รวมกว่า 300 จุดทั่วประเทศ ทั้งในดีพาร์ทเม้นสโตร์ ไฮเปอร์มาเก็ต ร้านวัตสัน และบู้ทส์ทุกสาขา มั่นใจว่าจะยังคงรักษาตัวเลขการเติบโตตามเป้าที่วางไว้ได้
ผู้จัดการรายวัน – แนวโน้มเศรษฐกิจร่วงปีนี้มีสูง ธุรกิจเครื่องสำอาง โดยเฉพาะระดับบน คาดหั่นราคาสนองลูกค้าแน่นอน “เรฟลอน” ไม่หวั่น รายได้ปีนี้ตามเป้าแน่ เหตุมีฐานลูกค้ากว้าง นำเสนอสินค้าตรงใจผู้บริโภค ล่าสุดเตรียมนำเข้าสินค้าใหม่อีก 10%เอาใจสาวห่วงสวย
นางสาวศิรินทร์ มาลากุล ณ อยุธยา บริษัท อินเตอร์เนชั่นแนล บิวตี้ โปรดักส์ จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่าย เครื่องสำอางแบรนด์ Revlon (เรฟลอน), Untima II และ Borgsvese จากประเทศสหรัฐอเมริกา เปิดเผยกับ “ผู้จัดการรายวัน” ว่า โดยปกติไม่ว่าเศรษฐกิจจะดีหรือไม่ดี เครื่องสำอางถือเป็นกลุ่มสินค้าที่ไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างไร นั่นเพราะผู้หญิงยังคงให้ความสำคัญกับตัวเองอยู่ตลอดเวลา
อย่างไรก็ตามหากแนวโน้มสภาพเศรษฐกิจปีนี้ยังคงแย่ลงเรื่อยๆ คาดว่ากลุ่มเครื่องสำอางที่มีราคาค่อนข้างสูงจะเป็นกลุ่มสินค้าที่อาจจะได้รับผลกระทบในครั้งนี้ เพราะลูกค้ามีค่าครองชีพน้อยลง อาจงดซื้อสินค้าที่มีราคาแพง ดังนั้นกลุ่มเครื่องสำอางระดับสูง น่าจะมีการปรับราคาลงมาเพื่อให้ผู้บริโภคสามารถซื้อหากันได้
สำหรับแบรนด์เรฟลอน มองว่าปีนี้ยอดขายจะไม่ได้รับผลกระทบเหมือนปีที่แล้ว เนื่องจากปัจจุบันเรฟลอนมีฐานลูกค้าที่ค่อนข้างกว้าง สำหรับผู้บริโภคที่เพิ่งหัดใช้เครื่องสำอางไปจนถึงระดับโปรเฟสชันนัล หรือตั้งแต่ระดับซีไปจนถึงบีบวก และมีระดับราคาสินค้าที่วางจำหน่ายอยู่ในขณะนี้ ถือได้ว่าเป็นราคาที่เหมาะสม เช่น ลิปสติก ตั้งแต่ 200- 400 บาท ดังนั้นปีนี้เรฟลอนยังคงทำตลาดเช่นเดียวกับปีที่ผ่านมา โดยกลยุทธ์ทางด้านราคานั้น จะไม่มีการนำมาใช้อย่างแน่นอน
นางสาวศิรินทร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า เดิมเรฟลอนมีภาพลักษณ์เป็นเครื่องสำอางสำหรับผู้ใหญ่วัยทำงาน แต่หลังจากที่บริษัทฯได้มีการปรับภาพลักษณ์สินค้า เปลี่ยนแพกเกจจิ้งใหม่มาตลอด 3-4 ปี ส่งผลให้เรฟลอนมีฐานลูกค้ามากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นที่เพิ่งเริ่มหัดใช้เครื่องสำอาง ซึ่งกลยุทธ์ดังกล่าวทำให้ปีที่ผ่านมา ยอดขายของเรฟลอนยังมีอัตราการเติบโตเป็นตัวเลข 2 หลักตามเป้าที่วางไว้ หรือคิดเป็นสัดส่วนรายได้ประมาณ 80-90% ของรายได้รวมบริษัทฯ ที่เหลือมาจากเครื่องสำอางระดับบนอีก 2 แบรนด์ คือ Untima IIและ Borgsvese
สำหรับการทำตลาดของเรฟลอนในปีนี้ บริษัทฯจะเน้นการคัดสรรสินค้าให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายมากยิ่งขึ้น มีการเลือกเฉดสีที่กำลังอินเทรนด์ มานำเสนอแก่ลูกค้าเพิ่มขึ้น หรือมีการนำเข้าสินค้าใหม่ประมาณ 10% จากที่วางจำหน่ายทั้งหมด 300-400 เอสเคยูในปีที่ผ่านมา นอกจากนี้บริษัทฯจะเน้นเรื่องของการให้บริการ ณ จุดขายให้มากขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า ไม่ว่าจะเป็น การหัดแต่งหน้า หรือ ให้คำแนะนำในการแต่งหน้า
ทั้งนี้ปัจจุบัน เรฟลอน มีช่องทางการจำหน่ายเพียงช่องทางเดียว คือ โมเดิร์นเทรด รวมกว่า 300 จุดทั่วประเทศ ทั้งในดีพาร์ทเม้นสโตร์ ไฮเปอร์มาเก็ต ร้านวัตสัน และบู้ทส์ทุกสาขา มั่นใจว่าจะยังคงรักษาตัวเลขการเติบโตตามเป้าที่วางไว้ได้