พลังประชาชนฟัดกันเอง “สุนัย จุลพงศธร” ทำหนังสือยื่น กก.บริหารพรรค ให้“สุธา ขันแสง” รมว.พัฒนาสังคมฯ จี้แจงมอบโล่ห์เกียรติยศ ด้านส่งเสริมสิทธิสตรีฯ ให้ “จรัญ ภักดีธนากุล” อ้างเป็นผู้สนับสนุนการทำปฎิวัติ ขู่หากแจงไม่เคลียร์จะจี้ให้ลาออก ถ้าไม่ออกจะร่วมอภิปรายไม่ไว้วางใจหากฝ่ายค้านยื่นญัตติ ด้านเจ้าตัวพร้อมแจง ระบุ มีกก.ตัดสินก่อนรับตำแหน่ง ไม่ถือเป็นความชัดแย้งภายในพรรค
ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคพลังประชาชนว่า เมื่อเวลา 14.00 น. วานนี้ (7 มี.ค.) เจ้าหน้าที่พรรคได้นำหนังสือที่นายสุนัย จุลพงศธร ส.ส.ระบบสัดส่วน พรรคพลังประชาชน ยื่นต่อคณะกรรมาการบริหารพรรคมาแจกที่ห้องสื่อมวลชน โดยเนื้อหา ในหนังสือดังกล่าวระบุว่า เนื่องจากวันที่ 8 มี.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันสตรีสากล นายสุธา ชันแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้มอบโล่เกียรติยศทางด้านการส่งเสริมสิทธิสตรีให้แก่อดีตผู้พิพากษานายหนึ่ง ที่ใช้สถานภาพของตุลาการเข้าร่วมทำลายสิทธิเสรีภาพของประชาชนในระบอบประชาธิปไตยกับคณะทหารกลุ่มหนึ่งในการทำรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 ทำให้ประชาชนเกิดความสับสนถึงความเหมาะสมว่า บุคคลดังกล่าวมีประวัติเด่นชัดในการละเมิดหลักจริยธรรมของตุลาการ เนื่องจากเคยข่มขู่ผู้ต้องหาว่าจะถูกจำคุกทั้งๆที่ยังไม่ได้เป็นจำเลยในศาล เมื่อสิทธิเสรีภาพของประชาชนเขายังไม่เคารพแล้วเขาจะเคารพสิทธิของสตรีได้อย่างไร
เนื้อหาในหนังสือยังระบุด้วยว่า เพื่อเป็นการตรวจสอบวุฒิภาวะของรัฐมนตรี และคณะทำงานทางด้านสิทธิเสรีภาพในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และเพื่อเป็นหลักประกันต่อการเคารพสิทธิเสรีภาพของประชาชน ในฐานะตัวแทนของประชาชน ขอให้คณะกรรมการบริหารพรรคเชิญ นายสุธา มาชี้แจงเหตุผลในวันประชุมส.ส.ของพรรคในวันอังคารที่ 11 มี.ค.ด้วย
นายสุนัย จุลพงศธร กล่าวว่าได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ยื่นหนังสือถึงนายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกฯ ในฐานะผอ.พรรค เพื่อให้ทำหนังสือเชิญนายสุธา ชันแสง มาชี้แจงต่อที่ประชุมพรรคในวันที่ 11 มี.ค.นี้ว่า มีเหตุผลอะไร ที่มอบโล่เกียรติยศทางด้านการส่งเสริมสิทธิสตรีให้แก่อดีตผู้พิพากษานายหนึ่ง ที่ไม่เคารพสิทธิเสรีภาพของประชาชน เพราะเป็นผู้เปิดกุญแจให้มีการปฏิวัติ เป็นถึงระดับรัฐมนตรีแล้วแยกไม่ออกระหว่างเผด็จการกับประชาธิปไตยได้อย่างไร ดังนั้นถ้า รมว.พัฒนาสังคมฯชี้แจงไม่ชัดเจน จะเรียกร้องให้ให้ลาออกจากตำแหน่ง และถ้าไม่ลาออกถึงเวลาที่ฝ่ายค้านเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีคนนี้ ก็จะร่วมอภิปรายด้วย เพราะถือว่าไม่มีวุฒิภาวะทางประชาธิปไตย
ด้านนายสุธา ชันแสง รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และกรรมการบริหารพรรคพลังประชาชน กล่าวถึงกรณี นายสุนัย จุลพงศธร ทำหนังสือให้ คณะกรรมการ บริหารพรรคพลังประชาชน ตรวจสอบกรณี มอบโล่ห์ให้อดีตผู้พิพากษา และนายจรัญ ภักดีธนากุล ปลัดกระทรวงยุติธรรม ว่า การมอบโล่ห์ดังกล่าว เป็นเรื่องที่มีกระบวนการคัดสรรจากหลายส่วนเช่น ข้าราชการ องค์กรเอกชนต่างๆ ประกอบกันเป็นคณะกรรมการจัดงานวันสตรีสากล และมีการพิจารณาก่อนที่ตน จะเข้ามาเป็น รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ตนทราบว่าบุคคลที่ได้รางวัล เป็นบุคคลที่ทำประโยชน์ให้กับสถานภาพ สตรี การมองรางวัลไม่มีเรื่องการเมืองใดๆ มาเกี่ยวข้อง หากนายสุนัยจะให้ทำหนังสือขอให้ชี้แจง ตนก็พร้อมไปชี้แจงกับที่ประชุมพรรค
ผู้สื่อข่าวถามว่า การยื่นหนังสือเป็นการขัดแย้งภายในหรือไม่ นายสุธากล่าวว่า คงไม่ เพราะการจะยื่นตรวจสอบบุคลากรในพรรค เป็นสิทธิ์ของ ส.ส.ในพรรค เรื่องนี้ไม่เป็นปัญหา ตนชี้แจงได้ ไม่ใช่ความขัดแย้ง และเกมการเมืองในพรรค เข้าใจว่านายสุนัยจะข้องใจ สงสัยคุณสมบัติของนายจรัญมากกกว่า
ส่วนที่นายกรัฐมนตรีระบุการเสนอเปิดคาสิโน เป็นแนวคิดส่วนตัว ไม่เกี่ยวกับพรรคและรัฐบาล นายสุธา กล่าวว่า หากเป็นแนวคิดส่วนตัว คงไม่ต้องชี้แจงอะไร แต่หากเมื่อใดมีการเปลี่ยนแปลง ก็คงจะต้องทำประชาพิจารณ์ ขอความเห็นชอบจากประชาชน เพราะถือเป็นเรื่องใหญ่
ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคพลังประชาชนว่า เมื่อเวลา 14.00 น. วานนี้ (7 มี.ค.) เจ้าหน้าที่พรรคได้นำหนังสือที่นายสุนัย จุลพงศธร ส.ส.ระบบสัดส่วน พรรคพลังประชาชน ยื่นต่อคณะกรรมาการบริหารพรรคมาแจกที่ห้องสื่อมวลชน โดยเนื้อหา ในหนังสือดังกล่าวระบุว่า เนื่องจากวันที่ 8 มี.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันสตรีสากล นายสุธา ชันแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้มอบโล่เกียรติยศทางด้านการส่งเสริมสิทธิสตรีให้แก่อดีตผู้พิพากษานายหนึ่ง ที่ใช้สถานภาพของตุลาการเข้าร่วมทำลายสิทธิเสรีภาพของประชาชนในระบอบประชาธิปไตยกับคณะทหารกลุ่มหนึ่งในการทำรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 ทำให้ประชาชนเกิดความสับสนถึงความเหมาะสมว่า บุคคลดังกล่าวมีประวัติเด่นชัดในการละเมิดหลักจริยธรรมของตุลาการ เนื่องจากเคยข่มขู่ผู้ต้องหาว่าจะถูกจำคุกทั้งๆที่ยังไม่ได้เป็นจำเลยในศาล เมื่อสิทธิเสรีภาพของประชาชนเขายังไม่เคารพแล้วเขาจะเคารพสิทธิของสตรีได้อย่างไร
เนื้อหาในหนังสือยังระบุด้วยว่า เพื่อเป็นการตรวจสอบวุฒิภาวะของรัฐมนตรี และคณะทำงานทางด้านสิทธิเสรีภาพในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และเพื่อเป็นหลักประกันต่อการเคารพสิทธิเสรีภาพของประชาชน ในฐานะตัวแทนของประชาชน ขอให้คณะกรรมการบริหารพรรคเชิญ นายสุธา มาชี้แจงเหตุผลในวันประชุมส.ส.ของพรรคในวันอังคารที่ 11 มี.ค.ด้วย
นายสุนัย จุลพงศธร กล่าวว่าได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ยื่นหนังสือถึงนายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกฯ ในฐานะผอ.พรรค เพื่อให้ทำหนังสือเชิญนายสุธา ชันแสง มาชี้แจงต่อที่ประชุมพรรคในวันที่ 11 มี.ค.นี้ว่า มีเหตุผลอะไร ที่มอบโล่เกียรติยศทางด้านการส่งเสริมสิทธิสตรีให้แก่อดีตผู้พิพากษานายหนึ่ง ที่ไม่เคารพสิทธิเสรีภาพของประชาชน เพราะเป็นผู้เปิดกุญแจให้มีการปฏิวัติ เป็นถึงระดับรัฐมนตรีแล้วแยกไม่ออกระหว่างเผด็จการกับประชาธิปไตยได้อย่างไร ดังนั้นถ้า รมว.พัฒนาสังคมฯชี้แจงไม่ชัดเจน จะเรียกร้องให้ให้ลาออกจากตำแหน่ง และถ้าไม่ลาออกถึงเวลาที่ฝ่ายค้านเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีคนนี้ ก็จะร่วมอภิปรายด้วย เพราะถือว่าไม่มีวุฒิภาวะทางประชาธิปไตย
ด้านนายสุธา ชันแสง รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และกรรมการบริหารพรรคพลังประชาชน กล่าวถึงกรณี นายสุนัย จุลพงศธร ทำหนังสือให้ คณะกรรมการ บริหารพรรคพลังประชาชน ตรวจสอบกรณี มอบโล่ห์ให้อดีตผู้พิพากษา และนายจรัญ ภักดีธนากุล ปลัดกระทรวงยุติธรรม ว่า การมอบโล่ห์ดังกล่าว เป็นเรื่องที่มีกระบวนการคัดสรรจากหลายส่วนเช่น ข้าราชการ องค์กรเอกชนต่างๆ ประกอบกันเป็นคณะกรรมการจัดงานวันสตรีสากล และมีการพิจารณาก่อนที่ตน จะเข้ามาเป็น รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ตนทราบว่าบุคคลที่ได้รางวัล เป็นบุคคลที่ทำประโยชน์ให้กับสถานภาพ สตรี การมองรางวัลไม่มีเรื่องการเมืองใดๆ มาเกี่ยวข้อง หากนายสุนัยจะให้ทำหนังสือขอให้ชี้แจง ตนก็พร้อมไปชี้แจงกับที่ประชุมพรรค
ผู้สื่อข่าวถามว่า การยื่นหนังสือเป็นการขัดแย้งภายในหรือไม่ นายสุธากล่าวว่า คงไม่ เพราะการจะยื่นตรวจสอบบุคลากรในพรรค เป็นสิทธิ์ของ ส.ส.ในพรรค เรื่องนี้ไม่เป็นปัญหา ตนชี้แจงได้ ไม่ใช่ความขัดแย้ง และเกมการเมืองในพรรค เข้าใจว่านายสุนัยจะข้องใจ สงสัยคุณสมบัติของนายจรัญมากกกว่า
ส่วนที่นายกรัฐมนตรีระบุการเสนอเปิดคาสิโน เป็นแนวคิดส่วนตัว ไม่เกี่ยวกับพรรคและรัฐบาล นายสุธา กล่าวว่า หากเป็นแนวคิดส่วนตัว คงไม่ต้องชี้แจงอะไร แต่หากเมื่อใดมีการเปลี่ยนแปลง ก็คงจะต้องทำประชาพิจารณ์ ขอความเห็นชอบจากประชาชน เพราะถือเป็นเรื่องใหญ่
