พม.อุดรฯเวิร์กชอปปัญหาสิทธิความเสมอภาคชาย-หญิง

อุดรธานี - พม.อุดรธานี จัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการเวทีสมัชชาสตรี 4 ภาค สร้างความเข้าใจสิทธิเสมอภาคชาย-หญิง ระดมข้อเสนอทางออกเพื่อสร้างความเท่าเทียมด้านเพศเสนอต่อเวทีสมัชชาสตรีแห่งชาติก่อนชงต่อรัฐบาล

วันนี้ (6 ก.พ.) ที่โรงแรมเจริญศรี แกรนด์ รอยัล จังหวัดอุดรธานี นายสุรเดช ฉายะเกษตริน หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงานกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว เป็นประธานเปิดการสัมมนาเชิงปฏิบัติการเวทีสมัชชาสตรีภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยมี นายธีระเดช วงษ์ราชธ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี กล่าวต้อนรับในฐานตัวแทนของจังหวัดอุดรธานี และ จังหวัดอุดรธานี

นางอนุสรณ์ อินทร์กำแพง ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมความเสมอภาคหญิงชาย กล่าวว่า สำนักงานกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ มีภารกิจหลักด้านการพัฒนาศักยภาพสตรี ส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างหญิงชาย และการสร้างความเข้มแข็งของสถาบันครอบครัว เพื่อนำไปสู่สังคม ได้เล็งเห็นประเด็นความเสมอภาคระหว่างชายหญิง เป็นประเด็นหลักในกระบวนการพัฒนาประเทศ เพราะมีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงกับโอกาสในการพัฒนาของสังคมในปัจจุบันและอนาคต

ในการสัมมนาเวทีสมัชชาสตรี 4 ภาคนี้ จะเป็นการสร้างความรู้ ความเข้าใจในประเด็นการส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างหญิงชาย ขจัดการเลือกปฏิบัติต่อสตรีในทุกรูปแบบเพื่อส่งผลให้เกิดการปฏิบัติจริงเป็นรูปธรรม โดยผ่านกระบวนการระดมความคิดเห็น และเปลี่ยนเรียนรู้อย่างสร้างสรรค์ของกลุ่มประชาชน ผู้มีส่วนได้เสียในกระบวนการพัฒนาทุกภาคส่วน เพื่อรวบรวมข้อสรุปของเวทีสมัชชานี้ นำไปสู่การกำหนดนโยบายด้านสตรีและการส่งเสริมความเสมอภาคหญิงชาย เสนอต่อเวทีสมัชชาสตรีแห่งชาติ และเสนอต่อรัฐบาลเนื่องในงานวันสตรีสากล ประจำปี 2551

นายสุรเดช ฉายะเกษตริน หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงานกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว กล่าวว่า ปัญหาสิทธิมนุษยชนของสตรีมีอยู่ในทุกบริบท

เช่น จำนวนผู้ไม่รู้หนังสือส่วนใหญ่เป็นสตรี ด้านแรงงานนอกระบบที่ไม่ได้รับการคุ้มครองตากกฎหมายส่วนใหญ่เป็นสตรี ปัญหาด้านสุขภาพ ที่ซับซ้อนกว่าบุรุษ สตรีมีระดับการตัดสินใจด้านการมีส่วนร่วมทางการเมือง และการบริหารราชการ แต่สตรีจำนวนมากกลับกลับตกเป็นผู้เสียหายจากการใช้ความรุนแรงทั้งทางร่างกาย จิตใจ และทางเพศ ทั้งในบ้าน โรงเรียน ที่ทำงาน และที่สาธารณะ

ฉะนั้นแล้ว การให้ความรู้เรื่องสิทธิมนุษยชน สิทธิสตรี และประเด็นบทบาทความสัมพันธ์หญิงชาย แก่สาธารณชนจึงต้องดำเนินการควบคู่กันไปด้วยและในเวทีสมัชชาสตรีภาคตะวันออกเฉียงเหนือครั้งนี้ จึงขอให้ได้เปิดใจเรียนรู้ ซึ่งกันและกัน สร้างความเข้าใจและเปลี่ยน หาทางแก้ไขปัญหาต่างๆ ร่วมกันอย่างสร้างสรรค์ เพื่อการนำข้อเสนอรวบรวมสู่เวทีสมัชชาสตรีแห่งชาติในวันที่ 7 มีนาคม ซึ่งจะจัดงานวันสตรีสากลที่กรุงเทพมหานคร ต่อไป