๐๐ ไม่อยากจะคิดให้เลยเถิดกับการปรากฏตัวของ “เฮียเหลี่ยม” เมื่อวานนี้( 6 มี.ค.) ที่อาคารพรรคไทยรักไทยเดิมซึ่งเป็นที่ตั้งมูลนิธิไทยคม ถนนราชวิถีว่ามีจุดประสงค์ใดกันแน่ แต่รับรองว่าคงไม่ใช่แค่มาร่วมประชุมสมาคมกอล์ฟอาชีพฯที่ตัวเองถูกอุปโลกขึ้นมาเป็นนายกฯสมาคมดังกล่าวเป็นแน่
๐๐ ถ้าใครที่ติดตามการเมืองอย่างรู้ทันแล้ว เชื่อว่าต้องฟันธงตรงกันทันทีว่า เป็นรายการ “จงใจ” ให้เห็นการเคลื่อนไหวออกมาทางสังคม พูดกันตรงๆก็คือต้องการให้เป็นข่าวนั่นแหละ เพราะก่อนที่จะเดินทางไปประชุมไม่นานก็ได้ปล่อยข่าวแจ้งไปยังนักข่าวทำเนียบฯให้หูตาเหลือกแจ้นกันไปทำข่าวกันพรึบพรับ แถมก่อนเข้าห้องประชุมยังทำแอ๊กยืนอ่อยให้ช่างภาพได้ซูมภาพระยะไกลอยู่แว๊บหนึ่ง มันยิ่งมีความหมายซ่อนนัยอยู่แน่นอน
๐๐ แล้วถ้าถามว่าทำไมถึงต้องการเป็นข่าวล่ะทั้งที่ก่อนหน้านี้ก็บอกจะไปไหนต้องเงียบตัวเงียบเชียบที่สุดยกข้ออ้างเรื่องความปลอดภัย แม้ขนาดพักอยู่ในโรงแรมหรูเหมาชั้นคืนละเกือบ 2 ล้านก็ยังไม่พอต้องหลบชิ่งออกไปอย่างไร้ร่องรอย ไปไหนมาไหนก็ไม่มีใครรู้นอกจาก “หนูลีเดีย” คนเดียว (ไม่ฮา)
๐๐ แต่วันนี้จู่ๆก็โผล่หน้าออกมาให้เห็นดื้อๆ ถ้าจะเรียกว่า “จงใจ” คงจะเดาไม่ผิดแน่ เพราะก่อนการปรากฏตัวไม่กี่นาทีก็ให้บังเอิญเหลือเกินเมื่อคนที่ปล่อยข่าวนี้ให้ทราบก็คือคนในพรรคพลังประชาชนต่อสาย ป้องปากกระซิบเข้าหูนั่นเอง
๐๐ อย่างไรก็ดี นั่นอาจเป็นเรื่องธรรมดา ที่คนคนนี้ทำอะไรต้องเป็นข่าว สร้างจุดสนใจอยู่ตลอดเวลา แต่สิ่งที่ต้องโฟกัสเป็นพิเศษน่าจะเป็นการ “เจาะจง” ไปปรากฏตัวที่สำนักงานไทยคม บนถนนราชวิถีหรือเปล่า
๐๐ ดูเผินๆ อาจไม่มีอะไรในกอไผ่ เพราะในเมื่อ “แม้ว” เป็นเจ้าของมูลนิธิไทยคมมีสำนักงานอยู่ที่ถนนราชวิถีก็ต้องไปประชุมที่นั่นเพื่อความปลอดภัยไม่เห็นแปลก ก็น่าจะใช่ และฟังขึ้น แต่ขณะเดียวกันในช่วงเวลาไม่ห่างกันมากนักมันมีการปล่อยข่าวเรื่องการเข้าพบเคลียร์กับ “ป๋า” หรือการพูดถึง “คนบนยอด” ที่ได้ประโยชน์จากรัฐบาลอ่อนแอ ให้ข้อมูลกับสื่อนอกได้จังหวะประจวบเหมาะกันพอดี
๐๐ และเมื่อพิจารณาตามแนวถนนราชวิถีก็มีสถานที่สำคัญอยู่ด้วย ถัดมาไม่ไกลก็อยู่ในโซนใกล้เคียงกับ “บ้านสี่เสา” เสียอีก ทุกอย่างมันก็เลยปะติดปะต่อขมวดปมเข้ามาได้ไม่ยาก
๐๐ อย่างไรก็ดีนาทีนี้แม้ไม่อาจฟันธงได้เต็มร้อยว่า “แม้ว” มาปรากฏตัวที่สำนักงานมูลนิธิไทยคมบนถนนราชวิธีมีวัตถุประสงค์แท้จริงอย่างไรกันแน่ แต่คงไม่ใช่มาประชุมสมาคมกอล์ฟอาชีพฯเพียงอย่างเดียวเป็นแน่
๐๐ แต่เชื่อว่าไม่ธรรมดา เพราะพิจารณาจากแบ็กกราวด์แล้วทุกความเคลื่อนไหวย่อมมีความหมาย ไม่ว่าจะเป็น นั่งล้อมวงกินไก่ย่างส้มตำกับคนจน นุ่งผ้าขะม้าอาบน้ำกลางหาว หรือไปกางเต็นท์บัญชาการกลางสนามบินสุวรรณภูมิ หรือล่าสุด “ก้มกราบดิน” ทันทีที่ถึงไทย ทำเอาแม้ยกน้ำหูน้ำตาไหลกันทั่วเมืองมาแล้ว ดังนั้นช่วยไม่ได้ที่มีคนรู้ทัน มองเกมออก เพราะภาพในอดีตมันฟ้องให้เห็นอยู่โต้งๆ !!
๐๐ ถ้าใครที่ติดตามการเมืองอย่างรู้ทันแล้ว เชื่อว่าต้องฟันธงตรงกันทันทีว่า เป็นรายการ “จงใจ” ให้เห็นการเคลื่อนไหวออกมาทางสังคม พูดกันตรงๆก็คือต้องการให้เป็นข่าวนั่นแหละ เพราะก่อนที่จะเดินทางไปประชุมไม่นานก็ได้ปล่อยข่าวแจ้งไปยังนักข่าวทำเนียบฯให้หูตาเหลือกแจ้นกันไปทำข่าวกันพรึบพรับ แถมก่อนเข้าห้องประชุมยังทำแอ๊กยืนอ่อยให้ช่างภาพได้ซูมภาพระยะไกลอยู่แว๊บหนึ่ง มันยิ่งมีความหมายซ่อนนัยอยู่แน่นอน
๐๐ แล้วถ้าถามว่าทำไมถึงต้องการเป็นข่าวล่ะทั้งที่ก่อนหน้านี้ก็บอกจะไปไหนต้องเงียบตัวเงียบเชียบที่สุดยกข้ออ้างเรื่องความปลอดภัย แม้ขนาดพักอยู่ในโรงแรมหรูเหมาชั้นคืนละเกือบ 2 ล้านก็ยังไม่พอต้องหลบชิ่งออกไปอย่างไร้ร่องรอย ไปไหนมาไหนก็ไม่มีใครรู้นอกจาก “หนูลีเดีย” คนเดียว (ไม่ฮา)
๐๐ แต่วันนี้จู่ๆก็โผล่หน้าออกมาให้เห็นดื้อๆ ถ้าจะเรียกว่า “จงใจ” คงจะเดาไม่ผิดแน่ เพราะก่อนการปรากฏตัวไม่กี่นาทีก็ให้บังเอิญเหลือเกินเมื่อคนที่ปล่อยข่าวนี้ให้ทราบก็คือคนในพรรคพลังประชาชนต่อสาย ป้องปากกระซิบเข้าหูนั่นเอง
๐๐ อย่างไรก็ดี นั่นอาจเป็นเรื่องธรรมดา ที่คนคนนี้ทำอะไรต้องเป็นข่าว สร้างจุดสนใจอยู่ตลอดเวลา แต่สิ่งที่ต้องโฟกัสเป็นพิเศษน่าจะเป็นการ “เจาะจง” ไปปรากฏตัวที่สำนักงานไทยคม บนถนนราชวิถีหรือเปล่า
๐๐ ดูเผินๆ อาจไม่มีอะไรในกอไผ่ เพราะในเมื่อ “แม้ว” เป็นเจ้าของมูลนิธิไทยคมมีสำนักงานอยู่ที่ถนนราชวิถีก็ต้องไปประชุมที่นั่นเพื่อความปลอดภัยไม่เห็นแปลก ก็น่าจะใช่ และฟังขึ้น แต่ขณะเดียวกันในช่วงเวลาไม่ห่างกันมากนักมันมีการปล่อยข่าวเรื่องการเข้าพบเคลียร์กับ “ป๋า” หรือการพูดถึง “คนบนยอด” ที่ได้ประโยชน์จากรัฐบาลอ่อนแอ ให้ข้อมูลกับสื่อนอกได้จังหวะประจวบเหมาะกันพอดี
๐๐ และเมื่อพิจารณาตามแนวถนนราชวิถีก็มีสถานที่สำคัญอยู่ด้วย ถัดมาไม่ไกลก็อยู่ในโซนใกล้เคียงกับ “บ้านสี่เสา” เสียอีก ทุกอย่างมันก็เลยปะติดปะต่อขมวดปมเข้ามาได้ไม่ยาก
๐๐ อย่างไรก็ดีนาทีนี้แม้ไม่อาจฟันธงได้เต็มร้อยว่า “แม้ว” มาปรากฏตัวที่สำนักงานมูลนิธิไทยคมบนถนนราชวิธีมีวัตถุประสงค์แท้จริงอย่างไรกันแน่ แต่คงไม่ใช่มาประชุมสมาคมกอล์ฟอาชีพฯเพียงอย่างเดียวเป็นแน่
๐๐ แต่เชื่อว่าไม่ธรรมดา เพราะพิจารณาจากแบ็กกราวด์แล้วทุกความเคลื่อนไหวย่อมมีความหมาย ไม่ว่าจะเป็น นั่งล้อมวงกินไก่ย่างส้มตำกับคนจน นุ่งผ้าขะม้าอาบน้ำกลางหาว หรือไปกางเต็นท์บัญชาการกลางสนามบินสุวรรณภูมิ หรือล่าสุด “ก้มกราบดิน” ทันทีที่ถึงไทย ทำเอาแม้ยกน้ำหูน้ำตาไหลกันทั่วเมืองมาแล้ว ดังนั้นช่วยไม่ได้ที่มีคนรู้ทัน มองเกมออก เพราะภาพในอดีตมันฟ้องให้เห็นอยู่โต้งๆ !!