ผู้จัดการรายวัน – คิมเบอร์ลี่ย์-คล๊าค ปรับกลยุทธ์ชูอีโมชันนัลรุกตลาดกระดาษทิชชูอเนกประสงค์ ระเบิดแคมเปญ “ทิชชูไขมันต่ำ” นำร่องโฆษณาผ่านแคลิฟอร์เนียฟิตเนส 10 สาขา หวังกระตุ้นพฤติกรรม 5 ปี อัตราการใช้พุ่งจาก 12% เป็น 50% สิ้นปีรั้งบัลลังก์ผู้นำตลาดครองแชร์ 37%
นายจิรโรจน์ ติกกะวี รองผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท คิมเบอร์ลี่ย์-คล๊าค ประเทศไทย จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายกระดาษทิชชูสก๊อตต์ เปิดเผยว่า แนวโน้มตลาดกระดาษอเนกประสงค์มูลค่ากว่า 190 ล้านบาท มีการเติบโต 15% ต่อเนื่องในช่วง 3-5 ปีที่ผ่านมา และปีนี้คาดว่าจะมีการเติบโต 15% เมื่อเทียบกับตลาดกระดาษทิชชูสำหรับในห้องน้ำมูลค่ากว่า 2,800 ล้านบาท เริ่มอิ่มตัวเนื่องจากมีอัตราการใช้แทบทุกครัวเรือน ราว 93% เมื่อเทียบกับกระดาษอเนกประสงค์ในหัวเมืองมีอัตราการใช้ 12% เท่านั้น ทั้งนี้เป็นเพราะผู้บริโภคยังไม่แยกชนิดของการใช้กระดาษ
ดังนั้นบริษัทฯจึงหันมาดำเนินการตลาดในเชิงรุกกระดาษอเนกประสงค์ เนื่องจากเป็นตลาดที่มีศักยภาพ โดยพบว่า ผู้บริโภคนำกระดาษอเนกประสงค์มาใช้ 3 รูปแบบ ได้แก่ สำหรับการซับอาหารมากกว่า 50% เช็ดคราบน้ำมัน และเช็ดสิ่งสกปรกทั่วไป ตามลำดับ โดยจะใช้กลยุทธ์อีโมชันนัลมาร์เก็ตติง เพื่อสื่อสารถึงผู้บริโภคถึงประโยชน์ที่ได้รับจากการใช้ หลังจากก่อนหน้านี้บริษัทสื่อสารด้านฟังก์ชันนัลมาร์เก็ตติงหรือคุณสมบัติของกระดาษอเนกประสงค์ที่ช่วยในเรื่องของการซึมซับ
ล่าสุดได้เปิดตัวแคมเปญ “ทิชชูไขมันต่ำ” โดยเน้นสื่อสารการรับประทานอาหารทอดได้อย่างสบายใจ กินแค่ไหนก็ไม่อ้วน เริ่มโฆษณาในสถานที่ออกกำลังกาย ที่ แคลิฟอร์เนียฟิตเนส 10 สาขา ตั้งแต่เดือนมีนาคมถึงสิ้นปีนี้ นอกจากนี้ยังได้จัดคอร์สพิเศษสำหรับลูกค้าสก๊อตต์ และมีรายการสอนประกอบการอาหารทางโทรทัศน์ “เปิดครัวไขมันต่ำกับกระดาษอเนกประสงค์สก๊อตต์” ทางช่อง 5 ออกอากาศทุกวันอาทิตย์
จากการดำเนินกิจกรรมการตลาดเชิงรุกอย่างต่อเนื่อง ตั้งเป้า 5 ปี อัตราการใช้กระดาษทิชชูอเนกประสงค์เพิ่มจาก 12% เป็นมากกว่า 50%
ภาพรวมกระดาษทิชชูโดยรวมมูลค่า 3,850 ล้านบาท ในปีนี้คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา 9.5% โดยแบ่งเป็นสัดส่วนกระดาษทิชชูสำหรับห้องน้ำ 75% กระดาษเช็ดหน้า 18% กระดาษเช็คปาก 2% และกระดาษอเนกประสงค์ในห้องครัว 5% อย่างไรก็ตามผลพวงจากภาวะเศรษฐกิจส่งผลให้ผู้บริโภคหันไปใช้สินค้าเฮาส์แบรนด์บ้าง โดยปัจจุบันคิมเบอร์ลี่ย์คล๊าคเป็นผู้นำตลาดกระดาษทิชชูอเนกประสงค์ครองส่วนแบ่ง 37% แม๊กซ์โม่ 24% เซลล็อค 7% ทิสส์ 5% ฟิเอสต้า 3% พริมโรส 2% พินน์ 1%
นายจิรโรจน์ ติกกะวี รองผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท คิมเบอร์ลี่ย์-คล๊าค ประเทศไทย จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายกระดาษทิชชูสก๊อตต์ เปิดเผยว่า แนวโน้มตลาดกระดาษอเนกประสงค์มูลค่ากว่า 190 ล้านบาท มีการเติบโต 15% ต่อเนื่องในช่วง 3-5 ปีที่ผ่านมา และปีนี้คาดว่าจะมีการเติบโต 15% เมื่อเทียบกับตลาดกระดาษทิชชูสำหรับในห้องน้ำมูลค่ากว่า 2,800 ล้านบาท เริ่มอิ่มตัวเนื่องจากมีอัตราการใช้แทบทุกครัวเรือน ราว 93% เมื่อเทียบกับกระดาษอเนกประสงค์ในหัวเมืองมีอัตราการใช้ 12% เท่านั้น ทั้งนี้เป็นเพราะผู้บริโภคยังไม่แยกชนิดของการใช้กระดาษ
ดังนั้นบริษัทฯจึงหันมาดำเนินการตลาดในเชิงรุกกระดาษอเนกประสงค์ เนื่องจากเป็นตลาดที่มีศักยภาพ โดยพบว่า ผู้บริโภคนำกระดาษอเนกประสงค์มาใช้ 3 รูปแบบ ได้แก่ สำหรับการซับอาหารมากกว่า 50% เช็ดคราบน้ำมัน และเช็ดสิ่งสกปรกทั่วไป ตามลำดับ โดยจะใช้กลยุทธ์อีโมชันนัลมาร์เก็ตติง เพื่อสื่อสารถึงผู้บริโภคถึงประโยชน์ที่ได้รับจากการใช้ หลังจากก่อนหน้านี้บริษัทสื่อสารด้านฟังก์ชันนัลมาร์เก็ตติงหรือคุณสมบัติของกระดาษอเนกประสงค์ที่ช่วยในเรื่องของการซึมซับ
ล่าสุดได้เปิดตัวแคมเปญ “ทิชชูไขมันต่ำ” โดยเน้นสื่อสารการรับประทานอาหารทอดได้อย่างสบายใจ กินแค่ไหนก็ไม่อ้วน เริ่มโฆษณาในสถานที่ออกกำลังกาย ที่ แคลิฟอร์เนียฟิตเนส 10 สาขา ตั้งแต่เดือนมีนาคมถึงสิ้นปีนี้ นอกจากนี้ยังได้จัดคอร์สพิเศษสำหรับลูกค้าสก๊อตต์ และมีรายการสอนประกอบการอาหารทางโทรทัศน์ “เปิดครัวไขมันต่ำกับกระดาษอเนกประสงค์สก๊อตต์” ทางช่อง 5 ออกอากาศทุกวันอาทิตย์
จากการดำเนินกิจกรรมการตลาดเชิงรุกอย่างต่อเนื่อง ตั้งเป้า 5 ปี อัตราการใช้กระดาษทิชชูอเนกประสงค์เพิ่มจาก 12% เป็นมากกว่า 50%
ภาพรวมกระดาษทิชชูโดยรวมมูลค่า 3,850 ล้านบาท ในปีนี้คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา 9.5% โดยแบ่งเป็นสัดส่วนกระดาษทิชชูสำหรับห้องน้ำ 75% กระดาษเช็ดหน้า 18% กระดาษเช็คปาก 2% และกระดาษอเนกประสงค์ในห้องครัว 5% อย่างไรก็ตามผลพวงจากภาวะเศรษฐกิจส่งผลให้ผู้บริโภคหันไปใช้สินค้าเฮาส์แบรนด์บ้าง โดยปัจจุบันคิมเบอร์ลี่ย์คล๊าคเป็นผู้นำตลาดกระดาษทิชชูอเนกประสงค์ครองส่วนแบ่ง 37% แม๊กซ์โม่ 24% เซลล็อค 7% ทิสส์ 5% ฟิเอสต้า 3% พริมโรส 2% พินน์ 1%