ผู้จัดการรายวัน-พลัสฯปูพรมโครงการทาวน์เฮาส์-คอนโดฯมูลค่า 10,000 ล้านบาท วางเป้ารับรู้รายได้เติบโต 88% หรือมีมูลค่าถึง 7,000 ล้านบาท คาดยอดขายทำได้อีก 6,000 ล้านบาท โชว์ผลงานปี 50 ยอดรับรู้รายได้รวมทั้งสิ้น 3,720 ล้านบาท เติบโตถึง 30% ขณะที่ Backlogในมือ 7,700 ล้านบาท สัดส่วน 78% บันทึกในปี 51
นายเมธา จันทร์แจ่มจรัส ประธานอำนวยการ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เครือแสนสิริ เปิดเผยว่า ในปีที่ผ่านมา บริษัทและบริษัทในกลุ่มมียอดรับรู้รายได้จากการดำเนินธุรกิจรวมทั้งสิ้น 3,720 ล้านบาท เติบโตจากปี 49 ถึง 30% และจากการเปิดตัวโครงการใหม่ 10 โครงการ แบ่งเป็นทาวน์เฮาส์แบรนด์ "ทาวน์พลัส"4 โครงการ และคอนโดฯแบรนด์"มายคอนโด" อีก 6 โครงการ สามารถสร้างยอดขายเข้าสู่บริษัทฯได้ประมาณ 4,600 ล้านบาท หรือ 2,200 ยูนิต ซึ่งสูงกว่าเป้าที่บริษัทฯวางไว้ โดยขณะนี้ บริษัทฯมียอดขายที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) จำนวน 7,700 ล้านบาท ตามแผนจะแบ่งการรับรู้รายได้ในปี 51 จำนวน 6,000 ล้านบาท คิดเป็น 78% ของBacklog และอีก 22% หรือ 1,700 ล้านบาท จะรับรู้ในปี 52
สำหรับแผนในปี 2551 พลัสฯได้เล็งเห็นถึงความต้องการที่อยู่อาศัยประเภททาวน์เฮาส์และคอนโดฯที่มีอยู่อย่างต่อเนื่อง จึงวางแผนเปิดตัวโครงการใหม่อีก 11 โครงการ แบ่งเป็น ทาวน์เฮาส์ 6 โครงการ และคอนโดฯ อีก 5 โครงการ รวมมูลค่าประมาณ 10,000 ล้านบาท นำร่องด้วย 2 โครงการคุณภาพ ทาวน์พลัส เกษตร-นวมินทร์ มูลค่า 1,520 ล้านบาท รวม 386 ยูนิต และทาวน์พลัส หัวหมาก มูลค่า 353 ล้านบาท รวม 99 ยูนิต เปิดขายประมาณเดือนมี.ค.นี้ ส่วนโครงการที่เหลือจะเปิดขายตั้งแต่ไตรมาสที่ 3
ทั้งนี้ ในปี 51 ทางพลัสฯวางเป้ารับรู้รายได้ไว้ที่ 7,000 ล้านบาท ซึ่งมาจากการพัฒนาโครงการ 6,500 ล้านบาท การบริการจัดการโครงการ 172 โครงการ การให้บริการซื้อ ขาย ให้เช่าอสังหาฯ 261 ล้านบาท และอื่นๆ 67 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้มีอัตราเติบโตประมาณ 88% และคาดว่าจะสามารถสร้างยอดขายได้อีก 6,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นจำนวน 2,100 ยูนิต
นายเมธา กล่าวว่าในปีนี้ ทางบริษัทได้วางแผนเปิดทาวน์เฮาส์ในรูปแบบใหม่ ภายใต้คอนเซ็ปต์ Flexible Options ที่เปิดกว้างให้ลูกค้าเลือกส่วนผสมของการใช้พื้นที่ชั้น 2และ 3 ได้ตามความต้องการของผู้อยู่อาศัย คอนเซ็ปต์ใหม่จะเปิดขายที่โครงการทาวน์พลัส เพชรเกษม-บางแค (เฟส 2) และทาวน์พลัส เกษตร-นวมินทร์ และทาวน์พลัส หัวหมากในเดือนมี.ค.นี้
นายเมธา จันทร์แจ่มจรัส ประธานอำนวยการ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เครือแสนสิริ เปิดเผยว่า ในปีที่ผ่านมา บริษัทและบริษัทในกลุ่มมียอดรับรู้รายได้จากการดำเนินธุรกิจรวมทั้งสิ้น 3,720 ล้านบาท เติบโตจากปี 49 ถึง 30% และจากการเปิดตัวโครงการใหม่ 10 โครงการ แบ่งเป็นทาวน์เฮาส์แบรนด์ "ทาวน์พลัส"4 โครงการ และคอนโดฯแบรนด์"มายคอนโด" อีก 6 โครงการ สามารถสร้างยอดขายเข้าสู่บริษัทฯได้ประมาณ 4,600 ล้านบาท หรือ 2,200 ยูนิต ซึ่งสูงกว่าเป้าที่บริษัทฯวางไว้ โดยขณะนี้ บริษัทฯมียอดขายที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) จำนวน 7,700 ล้านบาท ตามแผนจะแบ่งการรับรู้รายได้ในปี 51 จำนวน 6,000 ล้านบาท คิดเป็น 78% ของBacklog และอีก 22% หรือ 1,700 ล้านบาท จะรับรู้ในปี 52
สำหรับแผนในปี 2551 พลัสฯได้เล็งเห็นถึงความต้องการที่อยู่อาศัยประเภททาวน์เฮาส์และคอนโดฯที่มีอยู่อย่างต่อเนื่อง จึงวางแผนเปิดตัวโครงการใหม่อีก 11 โครงการ แบ่งเป็น ทาวน์เฮาส์ 6 โครงการ และคอนโดฯ อีก 5 โครงการ รวมมูลค่าประมาณ 10,000 ล้านบาท นำร่องด้วย 2 โครงการคุณภาพ ทาวน์พลัส เกษตร-นวมินทร์ มูลค่า 1,520 ล้านบาท รวม 386 ยูนิต และทาวน์พลัส หัวหมาก มูลค่า 353 ล้านบาท รวม 99 ยูนิต เปิดขายประมาณเดือนมี.ค.นี้ ส่วนโครงการที่เหลือจะเปิดขายตั้งแต่ไตรมาสที่ 3
ทั้งนี้ ในปี 51 ทางพลัสฯวางเป้ารับรู้รายได้ไว้ที่ 7,000 ล้านบาท ซึ่งมาจากการพัฒนาโครงการ 6,500 ล้านบาท การบริการจัดการโครงการ 172 โครงการ การให้บริการซื้อ ขาย ให้เช่าอสังหาฯ 261 ล้านบาท และอื่นๆ 67 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้มีอัตราเติบโตประมาณ 88% และคาดว่าจะสามารถสร้างยอดขายได้อีก 6,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นจำนวน 2,100 ยูนิต
นายเมธา กล่าวว่าในปีนี้ ทางบริษัทได้วางแผนเปิดทาวน์เฮาส์ในรูปแบบใหม่ ภายใต้คอนเซ็ปต์ Flexible Options ที่เปิดกว้างให้ลูกค้าเลือกส่วนผสมของการใช้พื้นที่ชั้น 2และ 3 ได้ตามความต้องการของผู้อยู่อาศัย คอนเซ็ปต์ใหม่จะเปิดขายที่โครงการทาวน์พลัส เพชรเกษม-บางแค (เฟส 2) และทาวน์พลัส เกษตร-นวมินทร์ และทาวน์พลัส หัวหมากในเดือนมี.ค.นี้
