เลือกตั้ง ส.ว.ผู้ใช้สิทธิ 55.9 % บัตรไม่ประสงค์ลงคะแนนอื้อกว่า 2 ล้านใบ สมุทรสงครามนำผลคะแนน ”สุรจิต ชิรเวทย์” ได้รับเลือกตั้งส่ง กกต.จังหวัดแรก ส่วน กทม. “รสนา โตสิตระกูล” เข้าวินพร้อมให้คำมั่นจะทำหน้าที่ตรวจสอบถ่วงดุลรัฐบาลให้ดีที่สุด กกต.คาดรับรองผลได้ตั้งแต่ 4 มี.ค. ขณะที่ฝ่ายสืบสวนฯ เตรียมชงเรื่องร้องคัดค้านผลเลือกตั้งล็อตแรก 16 สำนวนเข้าสู่การพิจารณาของ กกต.
นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แถลงผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ ณ เวลา 20.33 น. วานนี้ (2 มี.ค.) ซึ่งคิดเป็น 99.38 % จากจำนวนผู้มีสิทธิทั้งประเทศ 44,909,032 คนว่า มีผู้มาใช้สิทธิ 25,025,423 คน คิดเป็น 55.9 % บัตรเสีย 909,894 ใบ คิดเป็น 3.6 % ในขณะที่มีบัตรไม่ประสงค์ลงคะแนนหรือโนโหวต 2,042,590 ใบคิดเป็น 8.1 % และขณะนี้นายจรูญ ศรีสุกใส ผอ.กต.จว.สมุทรสงคราม ได้นำรายงานผลคะแนนอย่างเป็นทางการมาส่งยังกกต.เป็นจังหวัดแรก
อย่างไรก็ตาม จำนวนจากบัตรไม่ประสงค์ลงคะแนนที่มีสูงถึง 2 ล้านใบนั้นถือเป็นการแสดงออกของประชาชนให้เห็นว่าตัดสินใจไม่ออกว่าจะเลือกใคร แต่ก็มาใช้สิทธิเลือกตั้งเพื่อแสดงตนว่าเป็นคนดี
นายอภิชาต กล่าวว่าการเลือกตั้ง ส.ว. 74 จังหวัดวานนี้ (2 มี.ค.) มีผู้ลงสมัครเลือกตั้ง ส.ว.ทั้งหมด 505 คน แต่เมื่อตรวจสอบคุณสมบัติพบว่าขาดคุณสมบัติ 33 คน ทำให้เหลือ ส.ว.ลงสมัครจำนวน 472 คน
ทั้งนี้ กกต. ได้เปิดรับเรื่องร้องเรียนตั้งแต่วันที่ 13 ก.พ.-1 มี.ค. พบว่ามีการแจ้งเหตุทุจริต 40 เรื่อง แบ่งเป็นแจกเงิน 24 เรื่อง,เจ้าหน้าที่รัฐวางตัวไม่เป็นกลาง 4 เรื่อง, จัดเลี้ยง 3 เรื่อง, ปิดป้ายโฆษณาแนะนำตัวผิดที่ 1 เรื่อง , ใส่ร้าย 1 เรื่อง และ อื่นๆ 7 เรื่อง ซึ่งกกต.พยายามให้การเลือกตั้งครั้งนี้สุจริตมากที่สุด และถ้าประชาชนพบเห็นให้แจ้งเบาะแสมาได้ที่เบอร์ 1171
สำหรับปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่มีกระแสข่าวว่า มีการลอบวางระเบิดหลายจุดในพื้นที่ โดยเฉพาะในพื้นที่อ.รือเสาะ จ.นราธิวาสนั้น นายอภิชาต กล่าวว่า เบื้องต้นได้โทรศัพท์ประสานเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ทราบว่า ยังไม่มีเหตุการณ์ร้ายแรงเกิดขึ้นตามที่เป็นข่าว เป็นเพียงวัตถุต้องสงสัย และสร้างสถานการณ์ รวมถึงโทรศัพท์แจ้งเหตุมาที่กกต. อย่างไรก็ตาม ปัญหาในพื้นที่ 3 จึงหวัดชายแดนภาคใต้ กกต.ได้ใช้มาตรการดูแลความปลอดภัยเหมือนการเลือกตั้ง ส.ส. คือการเพิ่มเจ้าหน้าที่ 3 เท่า และได้ประสานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารในพื้นที่ ช่วยดูแลความปลอดภัยให้ประชาชน และเจ้าหน้าที่ประจำหน่วย พร้อมกำชับให้เจ้าหน้าที่ประจำหน่วยดูแลสุขภาพด้วยตนเอง หลังมีเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเสียชีวิตเมื่อครั้งเลือกตั้งส.ส.ที่ผ่านมา
นายอภิชาต กล่าวว่า กกต. จะสามารถรับรองผลการเลือกตั้งจนสามารถเปิดประชุมวุฒิสภาได้ภายใน 30 วันนับจากนี้ แม้กฎหมายจะไม่ได้กำหนดชัดเจนว่าจะต้องทำให้เสร็จตามระยะเวลาดังกล่าว แต่ กกต. ก็จะใช้แผนงานสำหรับการเลือกตั้ง ส.ส. มาเทียบเคียง เพราะขณะนี้ สนช.ก็หยุดปฏิบัติหน้าที่ไปแล้ว จึงต้องรีบประกาศรับรองเพื่อไม่ให้เกิดสุญญากาศขึ้น รวมไปถึงหาก ในจังหวัดใดที่ไม่มีเรื่องร้องเรียน กกต. ก็จะประกาศรับรองภายใน 7 วันทำการ
**เตรียมพิจารณาร้องคัดค้าน13เรื่อง
นายสมชัย จึงประเสริฐ กกต. ด้านกิจการสืบสวนสอบสวน กล่าวว่า ขณะนี้ กกต. มีสำนวนที่ กกต. รับเป็นเรื่องร้องคัดค้าน และอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบทั้งจากส่วนกลางและต่างจังหวัดจำนวนทั้งสิ้น 16 สำนวน โดยจังหวัดที่มีจังหวัดละ 1 สำนวน ประกอบด้วย กทม. อุดรธานี สกลนคร สมุทรสงคราม สิงห์บุรี อุบลราชธานี ยโสธร และ ระนอง ส่วนที่มีจังหวัดละ 2 สำนวนประกอบด้วย ตราด สระบุรี ขอนแก่น และหนองคาย โดยสำนวนส่วนมากเป็นเรื่องการซื้อสิทธิขายเสียง และการติดป้ายหาเสียงผิดจากที่ กกต. กำหนดไว้
สำหรับเรื่องร้องเรียนที่ร้องมาทางหน่วยปฏิบัติการข่าวมีทั้งสิ้น 53 เรื่อง ซึ่ง หลังจากนี้จะส่งไปให้ทางจังหวัดตรวจสอบและดูว่าจะรับเป็นเรื่องร้องคัดค้านหรือไม่
**กกต.คาดรับรองผลได้ภายใน 4มี.ค.
นางสดศรี สัตยธรรม กกต.ด้านกิจการพรรคการเมือง กล่าวว่า การประกาศรับรองผลเลือกตั้ง ส.ว.เชื่อว่าจะทำได้ภายในวันที่ 4 มี.ค. แต่หาก ส.ว. จังหวัดใดมีเรื่องร้องเรียนเราก็สามารถตรวจสอบเพื่อประกาศรับรองผลภายใน 30 วัน อย่างไรก็ตามขณะนี้มีเรื่องร้องเรียนที่สำคัญประมาณ 8 เรื่อง ที่มีทั้งติดป้ายหาเสียง ซื้อเสียง รวมไปถึงมี ส.ส. ในพื้นที่จ.ภาคอีสานไปช่วยผู้สมัคร ส.ว. หาเสียง โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนกำลังตรวจสอบหาข้อเท็จจริงและเชื่อว่าการเลือกตั้ง ส.ว. คงไม่มีการแข่งขันที่รุนแรง
ทั้งนี้ จนถึงขณะนี้ได้รับแจ้งจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) ว่ามีการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งในเรื่องการขาย จำหน่าย จ่าย แจก จัดเลี้ยงสุรา 34 ราย แยกเป็น กทม. 24 ราย ต่างจังหวัด 7 ราย ได้แก่ ชลบุรี 3 ราย ร้อยเอ็ด แพร่ สิงห์บุรี และเลย จังหวัดละ 1 ราย ซึ่งลักษณะการกระทำความผิดมีลักษณะทั้งที่เป็นร้านค้า ร้านคาราโอเกะ จำหน่ายสุราและเบียร์ให้ลูกค้า
นอกจากนี้ยังพบว่าในงานอุปสมบทก็มีการจัดเลี้ยงสุรา ขณะเดียวกันก็ได้รับแจ้ง การกระทำผิดซื้อเสียงที่ อ.วิหารแดง จ.สระบุรี โดยผู้แจ้งระบุว่ามีชายไทยไม่ทราบชื่อ นำธนบัตรฉบับละ 100 บาทมาให้พร้อมกับบอกให้ไปลงคะแนนให้กับผู้สมัครรายหนึ่ง ก่อนที่จะหลบหนีไป ซึ่งผู้แจ้งได้นำธนบัตรเข้าแจ้งความไว้เป็นหลักฐานแก่พนักงานสอบสวนแล้ว
นางสดศรี ยังกล่าวถึงกรณีนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ขออนุญาต กรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งออกจากหน่วยมาดูรายชื่อและเบอร์ผู้สมัครว่า เรื่องนี้ไม่ถือว่าเป็นความผิด เนื่องจากกฎหมายเลือกตั้งมาตรา 71 วรรค 2 ห้ามไม่ให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ผู้ใด นำบัตรเลือกตั้งออกจากที่เลือกตั้ง ดังนั้นเมื่อนายสมัครไม่ได้นำบัตรออกจากที่เลือกตั้ง จึงไม่ถือว่าเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายเลือกตั้ง
**พบร้องเรียนจำหน่ายสุรามากสุด
นายประพันธ์ นัยโกวิท กกต.ด้านบริหารการเลือกตั้ง แถลงภายหลังการปิด การลงคะแนนเลือกตั้งส.ว.ว่า จากภาพรวมการเลือกตั้งตลอดทั้งวันเป็นไปด้วยความ เรียบร้อยแม้จะมีเหตุระเบิดที่อำเภอรือเสาะ จ.นราธิวาส แต่ไม่มีผู้บาดเจ็บ และไม่น่าเกี่ยวกับการเลือกตั้ง เพราะที่เกิดเหตุหากจากหน่วยเลือกตั้งถึง 500 เมตร ทั้งนี้ยังสามารถดำเนินการเลือกตั้งจนกระทั่งปิดหีบได้
ส่วนการร้องเรียนการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งจากศูนย์รักษาความ เรียบร้อยในการเลือกตั้งของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) พบว่าส่วนใหญ่ เป็นเรื่องการจำหน่ายสุราในเวลาห้าม โดยจนถึงขณะปิดหีบมีถึง 131 เรื่อง โดยมีผุ้ต้องหา 141 คน ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่าการเลือกตั้งทุกครั้งการจับกุมผู้กระทำผิดในเรื่องการห้ามจำหน่ายสุรามีเป็นจำนวนมาก จึงเห็นว่าหากมีการแก้ไขกฎหมาย ควรต้องพิจารณาว่าจะยังคงข้อห้ามดังกล่าวไว้หรือไม่
**มีฉีกบัตรเลือกตั้ง-หาเสียงเวลาห้าม
สำหรับการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งอื่น ๆ ในเรื่องของการฉีกบัตรยังมีอยู่ โดยเจ้าหน้าที่รับแจ้งว่ามีบางหน่วยเลือกตั้งผู้มาใช้สิทธิได้กากบาทหลายเส้น จึงเข้าใจว่าเป็นบัตรเสีย และทำการฉีกเพื่อขอรับบัตรใหม่ นอกจากนี้ก็ยังมีการหาเสียงเปิดสปอตหาเสียงในเวลาห้าม ในจังหวัดเชียงใหม่
อย่างไรก็ตาม จากรายงานการแจงเหตุเรื่องทุจริตเลือกตั้งของกกต.มีทั้งสิ้น 53 เรื่อง แยกเป็น แจกเงินทรัพย์สิน 29 เรื่อง จัดเลี้ยง ให้ประโยชน์ 4 เรื่อง เจ้าหน้าที่รัฐวางตัวไม่เป็นกลาง 4 เรื่อง ปิดป้ายหาเสียงในสถานที่ห้ามปิด 1 เรื่อง ใส่ร้าย 1 และเรื่องอื่น ๆ 14 เรื่อง โดยในส่วนของกทม.มีเรื่องร้องเรียน 7 เรื่อง ซึ่งในจำนวนนี้เป็นการร้องเรียนว่าเป็นการหาเสียงเกินอำนาจการหาเสียง แต่กกต.ตรวจสอบแล้วพบว่ายังไม่เป็นความผิดจึงได้ยกคำร้อง
นายประพันธ์ ยังกล่าวด้วยว่า จากรายงานการใช้สิทธิเข้ามายังกกต.คิดว่า มียอดผู้ใช้สิทธิใกล้เคียงกับการออกเสียงประชามติ โดยในส่วนของกทม.น่าอยู่ที่ 57-60 % ซึ่งในภาคเหนือมีรายงานเข้ามาว่ามีผุ้มาใช้สิทธิ 60 % ขึ้นไป ส่วนการรายงานผลอย่างไม่เป็นทางการนั้นในส่วนของกทม.คาดว่าน่าจะทราบผลได้ภายในเวลา 20.00 น.และทั่วประเทศทราบผลอย่างไม่เป็นทางการเวลา 22.00 น. สำหรับผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการในวันที่ 3 มี.ค. ผอ.กกต.จังหวัดจะนำรายงานผลการเลือกตั้งเดินทางมาส่งต่อกกต. จากนั้นก็จะนำมาตรวจสอบว่าผู้ที่ได้รับเลือกตั้งรายใดไม่มีเรื่องร้องเรียน กกต.ก็จะประกาศรับรองภายใน 7 วันทำการ แต่หากมีเรื่องร้องเรียนจะพิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน
“คิดว่าคงจะประกาศผลส.ว.ให้ได้ 95 เปอร์เซ็นต์ ได้ภายในสัปดาห์นี้ เพราะขณะนี้ก็มีส.ว.ที่มาจากการสรรหาแล้ว 74 คน ซึ่งเมื่อครบตามจำนวนประเทศไทยมีกระบวนการในการออกกฎหมายที่สมบูรณ์”นายประพันธ์กล่าว
**รายชื่อ76ส.ว.เลือกตั้ง
สำหรับรายชื่อผู้ได้รับเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการมีดังนี้ 1. จ.กระบี่ นายภิญโญ สายนุ้ย ได้ 60,030 คะแนน 2. กรุงเทพมหานคร น.ส.รสนา โตสิตระกูลได้ 514,756 คะแนน 3.กาญจนบุรี นายสุรพงษ์ ตันธนศรีกุลได้ 190,767 คะแนน 4.กาฬสินธุ์ นายสิทธิศักดิ์ ยนต์ตระกูลได้144,629 คะแนน 5.กำแพงเพชร นายกฤช อาทิตย์แก้ว ได้171,735 คะแนน 6. ขอนแก่น นายประเสริฐ ประคุณศึกษาพันธ์ ได้ 264,890 คะแนน 7.จันทบุรี นายมงคล ศรีคำแหงได้ 120,352 คะแนน 8.ฉะเชิงเทรา นายนิคม ไวยรัชพานิช ได้ 92,162 คะแนน 9.ชลบุรี นายสุรชัย ชัยตระกูลทองได้ 165,797 คะแนน 10.ชัยนาท นางจิตร์ธนา ยิ่งทวีลาภาได้ 38,775 คะแนน
11.ชัยภูมิ นางพรทิพย์ จันทร์รัตนปรีดา ได้ 254,515 คะแนน 12.ชุมพร พล.ต.กลชัย สุวรรณบูรณ์ได้ 117,505 คะแนน 13.เชียงราย นางจิราวรรณ วัฒนศิริธรได้ 194,402 คะแนน 14.เชียงใหม่ นายชูชัย เลิศพงศ์ อดิศร ได้ 162,050 คะแนน 15.ตรัง นายวิเชียร คันฉ่องได้ 133,663 คะแนน16.ตราด นาย สุพจน์ เลียดประถม ได้ 44,911 คะแนน17.ตาก นาย ชรินทร์ หาญสืบสาย ได้ 58,839 คะแนน18.นครนายก นาย ธวัชชัย บุญมา ได้ 63,408 คะแนน19.นครปฐม นายสมชาติ พรรณพัฒน์ ได้ 140,477 คะแนน20. นครพนม นาย วิทยา อินาลา ได้ 132,635 คะแนน
21.นครราชสีมา นาย สุเมธ ศรีพงษ์ ได้ 438,475 คะแนน 22. นครศรีธรรมราช นาย สิริวัฒน์ ไกรสินธุ์ ได้ 331,050 คะแนน 23.นครสวรรค์ นาง อรพินท์ มั่นศิลป์ ได้195,712 คะแนน 24.นนทบุรี ดร. ดิเรก ถึงฝั่ง ได้186,344 คะแนน 25.นราธิวาส นาย มูหามะรอสดี บอตอได้ 118,530 คะแนน 26.น่าน นายโสภณ ศรีมาเหล็ก ได้ 54,417 คะแนน 27.บุรีรัมย์ นายทวีศักดิ์ คิดบรรจง ได้ 245,548 คะแนน 28.ปทุมธานี นายไพบูลย์ ซำศิริพงษ์ ได้ 134,243 คะแนน 29.ประจวบคีรีขันธ์ นายธันว์ ออสุวรรณ ได้ 93,213 คะแนน 30.ปราจีนบุรี นายสุรเดช จิรัฐิติเจริญ ได้ 118,680 คะแนน
31. ปัตตานี ผศ.ดร. วรวิทย์ บารู ได้ 101,587 คะแนน 32.พระนครศรีอยุธยา นางสาวเกศสิณี แขวัฒนะ ได้106,881 คะแนน 33.พะเยา พล.ท.พงศ์เอก อภิรักษ์โยธิน ได้ 91,755 คะแนน 34.พังงา นายมานพน้อย วานิชได้ 82,926 คะแนน 35.พัทลุง นาย เจริญ ภักดีวานิชได้122,149 คะแนน 36.พิจิตร นายบรรชา พงศ์อายุกูล ได้ 124,374 คะแนน 37.พิษณุโลก นางสาวพิกุลแก้ว ไกรฤกษ์ ได้ 193,562 คะแนน 38.เพชรบุรี นางสาวสุมล สุตะวิริยะวัฒน์ ได้ 49,048 คะแนน 39.เพชรบูรณ์ นางสมพร จูมั่น ได้ 184,370 คะแนน 40.แพร่ นายขวัญชัย พนมขวัญ ได้ 180,650 คะแนน
41.ภูเก็ต นางธันยรัศม์ อัจฉริยะฉาย ได้ 39,375 คะแนน 42.มหาสารคาม นาย ประวัติ ทองสมบูรณ์ ได้ 142,599 คะแนน 43.มุกดาหาร นายจิตต์ มุกดาธนพงษ์ ได้ 44,806 คะแนน 44.แม่ฮ่องสอน นาย บุญส่ง โควาวิสารัช ได้ 39,005 คะแนน 45.ยโสธรนายยุทธนา ยุพฤทธิ์ ได้ 84,545 คะแนน 46.ยะลา นายต่วนอับดุลเล๊าะ ดาโอ๊ะมารียอได้ 58,369 คะแนน 47.ร้อยเอ็ด นายจตุรงค์ ธีระกนก ได้ 234,251 คะแนน 48.ระนอง นาย พรพจน์ กังวาล ได้ 19,797 คะแนน 49.ระยอง นายสาย กังกเวคิน ได้ 80,929 คะแนน 50.ราชบุรี นาย เกชา ศักดิ์สมบูรณ์ ได้ 167,444 คะแนน
51.ลพบุรี นายวรวิทย์ วงษ์สุวรรณ์ ได้ 167,102 คะแนน 52.ลำปาง นายพีระ มานะทัศน์ ได้206,876 คะแนน 53.ลำพูน นายสมศักดิ์ บุญเปลื้อง ได้ 85,517 คะแนน 54.เลย พล.ต.ต.องอาจ สุวรรณสิงห์ ได้ 114,293 คะแนน 55.ศีรษะเกษ นายจิตติพจน์ วิริยะโรจน์ ได้ 281,438 คะแนน 56.สกลนคร นายประดิษฐ์ ตันวัฒนะพงษ์ ได้ 117,940 คะแนน 57.สงขลา นายประเสริฐ ชิตพงศ์ ได้ 234,180 คะแนน 58.สตูล นายสุริยา ปันจอร์ ได้ 84,179 คะแนน 59.สมุทรปราการ นายสุโข วุฑฒิโชติ ได้ 73,901 คะแนน 60.สมุทรสงคราม นายสุรจิต ชิรเวทย์ ได้ 57,406 คะแนน
61.สมุทรสาคร นาย สุวิศว์ เมฆเสรีกุล ได้ 68,094 คะแนน 62.สระแก้ว นาย พายัพ ทองชื่น ได้ 99,507 คะแนน 63.สระบุรี นายจรัล จึงยิ่งเรืองรุ่ง ได้ 98,957 คะแนน 64.สิงห์บุรี นายศุภวัฒน์ เทียนถาวร ได้ 48,360 คะแนน 65.สุโขทัย นางสุอำภา คชไกร ได้ 96,585 คะแนน 66.สุพรรณ นายประสิทธิ์ โพธสุธน ได้180,354 คะแนน 67.สุราษฎร์ธานี พล.ต.ท. มาโนช ไกรวงศ์ ได้ 168,261 คะแนน 68.สุรินทร์ นาย อนันต์ อริยะชัยพาณิชย์ ได้ 291,193 คะแนน 69.หนองคาย พล.ต.ต. ขจร สัยวัตร์ได้ 126,402 คะแนน 70.หนองบัวลำภู นาย รักพงษ์ อุบลได้ 86,598 คะแนน
71.อ่างทอง พล.ต.อ. โกวิท ภักดีภูมิได้ 47,628 คะแนน 72.อำนาจเจริญ นายบวรศักดิ์ คณาเสน ได้ 60,815 คะแนน 73.อุดรธานี พล.ต.ท. พิชัย สุนทรสัจบูลย์ได้ 26,2049 คะแนน 74. .อุตรดิตถ์ นางนฤมล ศิริวัฒน์ได้ 141,898 คะแนน 75.อุทัยธานี นายสิงห์ชัย ทุ่งทอง ได้ 61,240 คะแนน 76.อุบลราชธานี นายถนอม ส่งเสริมได้ 108,223 คะแนน
**รสนาลั่นทำหน้าที่เต็มที่
นางสาวรสนา โตสิตระกูล ผู้รับสมัครสมาชิกวุฒิสภา หมายเลข 5 ได้เดินทางมายังศาลาว่าการ กทม.เพื่อติดตามผลการนับคะแนน และเปิดเผยความรู้สึกภายหลังทราบผลโพลนอกคูหาการเลือกตั้ง (Exit Poll) ว่า อันที่จริงตนไม่ค่อยแน่ใจว่าจะได้รับเลือกให้เป็น ส.ว.เนื่องจากคนที่จะได้รับเลือกจะต้องได้คะแนนมากกว่า 5 แสนคะแนน แต่เมื่อได้ทราบคะแนนขณะนี้ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 7 แสนก็ต้องขอขอบคุณประชาชนที่ให้ความไว้วางใจ
ทั้งนี้ คะแนนที่ได้ทั้งหมด เชื่อว่าเป็นคะแนนที่บริสุทธิ์ โปร่งใส ซึ่งหากมีการประกาศผลรับรองการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการแล้ว ตนจะตั้งใจทำงาน ทำหน้าที่ตรวจสอบถ่วงดุลอำนาจฝ่ายบริหาร หรือรัฐบาล ให้มีความโปร่งใสมากขึ้น นอกจากนี้ จะเข้าไปทำหน้าที่ในรัฐสภาให้เข้มข้น เพราะที่ผ่านมา ส.ว.เข้าไปเพียงออกกฎหมาย แต่การตรวจสอบไม่ค่อยได้เห็นนัก เห็นได้จากรัฐธรรมนูญปี 2540 ที่ใช้มา 8-9 ปี แต่ก็ยังไม่สามารถถอดถอนนักการเมืองที่ทุจริตได้
“21 วันที่ผ่านมา ในการแนะนำตัว ทำให้ได้รู้ว่าชาวกทม.เบื่อหน่ายการเมือง ส่วนเหตุผลที่ทำให้ได้รับเลือกเป็น ส.ว.ในครั้งนี้อาจจะเนื่องจากว่ามีประสบการณ์ในการตรวจสอบ และทำงานในเชิงการมีส่วนร่วม เช่นกรณี กฟผ. การเข้ามาเป็น ส.ว.ในรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวชนั้น ไม่หนักใจแต่อย่างใด เชื่อว่า การเมืองที่ดีจะต้องมีธรรมาภิบาล และการตรวจสอบถ่วงดุลจะต้องทำควบคู่ไปกับการบริหารงาน”นางสาวรสนากล่าว
นายพิง รุ่งสมัย ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้งกรุงเทพมหานคร แถลงผลการเลือกตั้งส.ว. อย่างไม่เป็นทางการ ว่า นางสาวรสนา โตสิตระกูล ผู้สมัครหมายเลข 5 มีคะแนนเป็นอันดับ 1 ด้วยคะแนน 743,397 คิดเป็น 49.78% อันดับสองหมายเลข 29 นายนิติพงษ์ ห่อนาค มีคะแนน 221,067 คิดเป็น 14.80% อันดับ 3 หมายเลข 6 มีคะแนน 195,714 คิดเป็น 13.11% อันดับ 4 หมายเลข 15 นายมานิต วิทยาเต็ม มีคะแนน 75,882 คิดเป็น 5.08% และอันดับ 5 หมายเลข 24 นายสรสินธุ ไตรจักรภพ มีคะแนน 40,551 คิดเป็น 2.72%
ทั้งนี้ กทม.มีผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 4,208,405 คน มาใช้สิทธิ1,685,475 คน คิดเป็น 40.05% บัตรดี 1,493,257 ใบ คิดเป็น 88.60% บัตรเสีย 16,922 ใบ คิดเป็น 1.00% และไม่ประสงค์ลงคะแนน 175,296 ใบ คิดเป็น 10.40 %
สำหรับเขตที่มาใช้สิทธิมากที่สุด 5 อันดับได้แก่ พญาไท 57,724 คน คิดเป็น 48.23% ทวีวัฒนา 52,868 คน คิดเป็น 48.05% ลาดพร้าว 91,822 คน คิดเป็น 44.70% บางรัก 34,692คน คิดเป็น 44.42% คันนายาว 61,448คน คิดเป็น 43.95%
ส่วนเขตที่มีผู้มาใช้สิทธิน้อยที่สุด ได้แก่ คลองเตย 82,411คน คิดเป็น 34.33% จอมทอง 123,330 คน คิดเป็น 34.88% ประเวศน์ 108,460 คน คิดเป็น 36.06% สายไหม 126,418 คน คิดเป็น 36.15% บางนา 75,126 คน คิดเป็น 36.20%
นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แถลงผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ ณ เวลา 20.33 น. วานนี้ (2 มี.ค.) ซึ่งคิดเป็น 99.38 % จากจำนวนผู้มีสิทธิทั้งประเทศ 44,909,032 คนว่า มีผู้มาใช้สิทธิ 25,025,423 คน คิดเป็น 55.9 % บัตรเสีย 909,894 ใบ คิดเป็น 3.6 % ในขณะที่มีบัตรไม่ประสงค์ลงคะแนนหรือโนโหวต 2,042,590 ใบคิดเป็น 8.1 % และขณะนี้นายจรูญ ศรีสุกใส ผอ.กต.จว.สมุทรสงคราม ได้นำรายงานผลคะแนนอย่างเป็นทางการมาส่งยังกกต.เป็นจังหวัดแรก
อย่างไรก็ตาม จำนวนจากบัตรไม่ประสงค์ลงคะแนนที่มีสูงถึง 2 ล้านใบนั้นถือเป็นการแสดงออกของประชาชนให้เห็นว่าตัดสินใจไม่ออกว่าจะเลือกใคร แต่ก็มาใช้สิทธิเลือกตั้งเพื่อแสดงตนว่าเป็นคนดี
นายอภิชาต กล่าวว่าการเลือกตั้ง ส.ว. 74 จังหวัดวานนี้ (2 มี.ค.) มีผู้ลงสมัครเลือกตั้ง ส.ว.ทั้งหมด 505 คน แต่เมื่อตรวจสอบคุณสมบัติพบว่าขาดคุณสมบัติ 33 คน ทำให้เหลือ ส.ว.ลงสมัครจำนวน 472 คน
ทั้งนี้ กกต. ได้เปิดรับเรื่องร้องเรียนตั้งแต่วันที่ 13 ก.พ.-1 มี.ค. พบว่ามีการแจ้งเหตุทุจริต 40 เรื่อง แบ่งเป็นแจกเงิน 24 เรื่อง,เจ้าหน้าที่รัฐวางตัวไม่เป็นกลาง 4 เรื่อง, จัดเลี้ยง 3 เรื่อง, ปิดป้ายโฆษณาแนะนำตัวผิดที่ 1 เรื่อง , ใส่ร้าย 1 เรื่อง และ อื่นๆ 7 เรื่อง ซึ่งกกต.พยายามให้การเลือกตั้งครั้งนี้สุจริตมากที่สุด และถ้าประชาชนพบเห็นให้แจ้งเบาะแสมาได้ที่เบอร์ 1171
สำหรับปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่มีกระแสข่าวว่า มีการลอบวางระเบิดหลายจุดในพื้นที่ โดยเฉพาะในพื้นที่อ.รือเสาะ จ.นราธิวาสนั้น นายอภิชาต กล่าวว่า เบื้องต้นได้โทรศัพท์ประสานเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ทราบว่า ยังไม่มีเหตุการณ์ร้ายแรงเกิดขึ้นตามที่เป็นข่าว เป็นเพียงวัตถุต้องสงสัย และสร้างสถานการณ์ รวมถึงโทรศัพท์แจ้งเหตุมาที่กกต. อย่างไรก็ตาม ปัญหาในพื้นที่ 3 จึงหวัดชายแดนภาคใต้ กกต.ได้ใช้มาตรการดูแลความปลอดภัยเหมือนการเลือกตั้ง ส.ส. คือการเพิ่มเจ้าหน้าที่ 3 เท่า และได้ประสานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารในพื้นที่ ช่วยดูแลความปลอดภัยให้ประชาชน และเจ้าหน้าที่ประจำหน่วย พร้อมกำชับให้เจ้าหน้าที่ประจำหน่วยดูแลสุขภาพด้วยตนเอง หลังมีเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเสียชีวิตเมื่อครั้งเลือกตั้งส.ส.ที่ผ่านมา
นายอภิชาต กล่าวว่า กกต. จะสามารถรับรองผลการเลือกตั้งจนสามารถเปิดประชุมวุฒิสภาได้ภายใน 30 วันนับจากนี้ แม้กฎหมายจะไม่ได้กำหนดชัดเจนว่าจะต้องทำให้เสร็จตามระยะเวลาดังกล่าว แต่ กกต. ก็จะใช้แผนงานสำหรับการเลือกตั้ง ส.ส. มาเทียบเคียง เพราะขณะนี้ สนช.ก็หยุดปฏิบัติหน้าที่ไปแล้ว จึงต้องรีบประกาศรับรองเพื่อไม่ให้เกิดสุญญากาศขึ้น รวมไปถึงหาก ในจังหวัดใดที่ไม่มีเรื่องร้องเรียน กกต. ก็จะประกาศรับรองภายใน 7 วันทำการ
**เตรียมพิจารณาร้องคัดค้าน13เรื่อง
นายสมชัย จึงประเสริฐ กกต. ด้านกิจการสืบสวนสอบสวน กล่าวว่า ขณะนี้ กกต. มีสำนวนที่ กกต. รับเป็นเรื่องร้องคัดค้าน และอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบทั้งจากส่วนกลางและต่างจังหวัดจำนวนทั้งสิ้น 16 สำนวน โดยจังหวัดที่มีจังหวัดละ 1 สำนวน ประกอบด้วย กทม. อุดรธานี สกลนคร สมุทรสงคราม สิงห์บุรี อุบลราชธานี ยโสธร และ ระนอง ส่วนที่มีจังหวัดละ 2 สำนวนประกอบด้วย ตราด สระบุรี ขอนแก่น และหนองคาย โดยสำนวนส่วนมากเป็นเรื่องการซื้อสิทธิขายเสียง และการติดป้ายหาเสียงผิดจากที่ กกต. กำหนดไว้
สำหรับเรื่องร้องเรียนที่ร้องมาทางหน่วยปฏิบัติการข่าวมีทั้งสิ้น 53 เรื่อง ซึ่ง หลังจากนี้จะส่งไปให้ทางจังหวัดตรวจสอบและดูว่าจะรับเป็นเรื่องร้องคัดค้านหรือไม่
**กกต.คาดรับรองผลได้ภายใน 4มี.ค.
นางสดศรี สัตยธรรม กกต.ด้านกิจการพรรคการเมือง กล่าวว่า การประกาศรับรองผลเลือกตั้ง ส.ว.เชื่อว่าจะทำได้ภายในวันที่ 4 มี.ค. แต่หาก ส.ว. จังหวัดใดมีเรื่องร้องเรียนเราก็สามารถตรวจสอบเพื่อประกาศรับรองผลภายใน 30 วัน อย่างไรก็ตามขณะนี้มีเรื่องร้องเรียนที่สำคัญประมาณ 8 เรื่อง ที่มีทั้งติดป้ายหาเสียง ซื้อเสียง รวมไปถึงมี ส.ส. ในพื้นที่จ.ภาคอีสานไปช่วยผู้สมัคร ส.ว. หาเสียง โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนกำลังตรวจสอบหาข้อเท็จจริงและเชื่อว่าการเลือกตั้ง ส.ว. คงไม่มีการแข่งขันที่รุนแรง
ทั้งนี้ จนถึงขณะนี้ได้รับแจ้งจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) ว่ามีการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งในเรื่องการขาย จำหน่าย จ่าย แจก จัดเลี้ยงสุรา 34 ราย แยกเป็น กทม. 24 ราย ต่างจังหวัด 7 ราย ได้แก่ ชลบุรี 3 ราย ร้อยเอ็ด แพร่ สิงห์บุรี และเลย จังหวัดละ 1 ราย ซึ่งลักษณะการกระทำความผิดมีลักษณะทั้งที่เป็นร้านค้า ร้านคาราโอเกะ จำหน่ายสุราและเบียร์ให้ลูกค้า
นอกจากนี้ยังพบว่าในงานอุปสมบทก็มีการจัดเลี้ยงสุรา ขณะเดียวกันก็ได้รับแจ้ง การกระทำผิดซื้อเสียงที่ อ.วิหารแดง จ.สระบุรี โดยผู้แจ้งระบุว่ามีชายไทยไม่ทราบชื่อ นำธนบัตรฉบับละ 100 บาทมาให้พร้อมกับบอกให้ไปลงคะแนนให้กับผู้สมัครรายหนึ่ง ก่อนที่จะหลบหนีไป ซึ่งผู้แจ้งได้นำธนบัตรเข้าแจ้งความไว้เป็นหลักฐานแก่พนักงานสอบสวนแล้ว
นางสดศรี ยังกล่าวถึงกรณีนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ขออนุญาต กรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งออกจากหน่วยมาดูรายชื่อและเบอร์ผู้สมัครว่า เรื่องนี้ไม่ถือว่าเป็นความผิด เนื่องจากกฎหมายเลือกตั้งมาตรา 71 วรรค 2 ห้ามไม่ให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ผู้ใด นำบัตรเลือกตั้งออกจากที่เลือกตั้ง ดังนั้นเมื่อนายสมัครไม่ได้นำบัตรออกจากที่เลือกตั้ง จึงไม่ถือว่าเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายเลือกตั้ง
**พบร้องเรียนจำหน่ายสุรามากสุด
นายประพันธ์ นัยโกวิท กกต.ด้านบริหารการเลือกตั้ง แถลงภายหลังการปิด การลงคะแนนเลือกตั้งส.ว.ว่า จากภาพรวมการเลือกตั้งตลอดทั้งวันเป็นไปด้วยความ เรียบร้อยแม้จะมีเหตุระเบิดที่อำเภอรือเสาะ จ.นราธิวาส แต่ไม่มีผู้บาดเจ็บ และไม่น่าเกี่ยวกับการเลือกตั้ง เพราะที่เกิดเหตุหากจากหน่วยเลือกตั้งถึง 500 เมตร ทั้งนี้ยังสามารถดำเนินการเลือกตั้งจนกระทั่งปิดหีบได้
ส่วนการร้องเรียนการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งจากศูนย์รักษาความ เรียบร้อยในการเลือกตั้งของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) พบว่าส่วนใหญ่ เป็นเรื่องการจำหน่ายสุราในเวลาห้าม โดยจนถึงขณะปิดหีบมีถึง 131 เรื่อง โดยมีผุ้ต้องหา 141 คน ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่าการเลือกตั้งทุกครั้งการจับกุมผู้กระทำผิดในเรื่องการห้ามจำหน่ายสุรามีเป็นจำนวนมาก จึงเห็นว่าหากมีการแก้ไขกฎหมาย ควรต้องพิจารณาว่าจะยังคงข้อห้ามดังกล่าวไว้หรือไม่
**มีฉีกบัตรเลือกตั้ง-หาเสียงเวลาห้าม
สำหรับการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งอื่น ๆ ในเรื่องของการฉีกบัตรยังมีอยู่ โดยเจ้าหน้าที่รับแจ้งว่ามีบางหน่วยเลือกตั้งผู้มาใช้สิทธิได้กากบาทหลายเส้น จึงเข้าใจว่าเป็นบัตรเสีย และทำการฉีกเพื่อขอรับบัตรใหม่ นอกจากนี้ก็ยังมีการหาเสียงเปิดสปอตหาเสียงในเวลาห้าม ในจังหวัดเชียงใหม่
อย่างไรก็ตาม จากรายงานการแจงเหตุเรื่องทุจริตเลือกตั้งของกกต.มีทั้งสิ้น 53 เรื่อง แยกเป็น แจกเงินทรัพย์สิน 29 เรื่อง จัดเลี้ยง ให้ประโยชน์ 4 เรื่อง เจ้าหน้าที่รัฐวางตัวไม่เป็นกลาง 4 เรื่อง ปิดป้ายหาเสียงในสถานที่ห้ามปิด 1 เรื่อง ใส่ร้าย 1 และเรื่องอื่น ๆ 14 เรื่อง โดยในส่วนของกทม.มีเรื่องร้องเรียน 7 เรื่อง ซึ่งในจำนวนนี้เป็นการร้องเรียนว่าเป็นการหาเสียงเกินอำนาจการหาเสียง แต่กกต.ตรวจสอบแล้วพบว่ายังไม่เป็นความผิดจึงได้ยกคำร้อง
นายประพันธ์ ยังกล่าวด้วยว่า จากรายงานการใช้สิทธิเข้ามายังกกต.คิดว่า มียอดผู้ใช้สิทธิใกล้เคียงกับการออกเสียงประชามติ โดยในส่วนของกทม.น่าอยู่ที่ 57-60 % ซึ่งในภาคเหนือมีรายงานเข้ามาว่ามีผุ้มาใช้สิทธิ 60 % ขึ้นไป ส่วนการรายงานผลอย่างไม่เป็นทางการนั้นในส่วนของกทม.คาดว่าน่าจะทราบผลได้ภายในเวลา 20.00 น.และทั่วประเทศทราบผลอย่างไม่เป็นทางการเวลา 22.00 น. สำหรับผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการในวันที่ 3 มี.ค. ผอ.กกต.จังหวัดจะนำรายงานผลการเลือกตั้งเดินทางมาส่งต่อกกต. จากนั้นก็จะนำมาตรวจสอบว่าผู้ที่ได้รับเลือกตั้งรายใดไม่มีเรื่องร้องเรียน กกต.ก็จะประกาศรับรองภายใน 7 วันทำการ แต่หากมีเรื่องร้องเรียนจะพิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน
“คิดว่าคงจะประกาศผลส.ว.ให้ได้ 95 เปอร์เซ็นต์ ได้ภายในสัปดาห์นี้ เพราะขณะนี้ก็มีส.ว.ที่มาจากการสรรหาแล้ว 74 คน ซึ่งเมื่อครบตามจำนวนประเทศไทยมีกระบวนการในการออกกฎหมายที่สมบูรณ์”นายประพันธ์กล่าว
**รายชื่อ76ส.ว.เลือกตั้ง
สำหรับรายชื่อผู้ได้รับเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการมีดังนี้ 1. จ.กระบี่ นายภิญโญ สายนุ้ย ได้ 60,030 คะแนน 2. กรุงเทพมหานคร น.ส.รสนา โตสิตระกูลได้ 514,756 คะแนน 3.กาญจนบุรี นายสุรพงษ์ ตันธนศรีกุลได้ 190,767 คะแนน 4.กาฬสินธุ์ นายสิทธิศักดิ์ ยนต์ตระกูลได้144,629 คะแนน 5.กำแพงเพชร นายกฤช อาทิตย์แก้ว ได้171,735 คะแนน 6. ขอนแก่น นายประเสริฐ ประคุณศึกษาพันธ์ ได้ 264,890 คะแนน 7.จันทบุรี นายมงคล ศรีคำแหงได้ 120,352 คะแนน 8.ฉะเชิงเทรา นายนิคม ไวยรัชพานิช ได้ 92,162 คะแนน 9.ชลบุรี นายสุรชัย ชัยตระกูลทองได้ 165,797 คะแนน 10.ชัยนาท นางจิตร์ธนา ยิ่งทวีลาภาได้ 38,775 คะแนน
11.ชัยภูมิ นางพรทิพย์ จันทร์รัตนปรีดา ได้ 254,515 คะแนน 12.ชุมพร พล.ต.กลชัย สุวรรณบูรณ์ได้ 117,505 คะแนน 13.เชียงราย นางจิราวรรณ วัฒนศิริธรได้ 194,402 คะแนน 14.เชียงใหม่ นายชูชัย เลิศพงศ์ อดิศร ได้ 162,050 คะแนน 15.ตรัง นายวิเชียร คันฉ่องได้ 133,663 คะแนน16.ตราด นาย สุพจน์ เลียดประถม ได้ 44,911 คะแนน17.ตาก นาย ชรินทร์ หาญสืบสาย ได้ 58,839 คะแนน18.นครนายก นาย ธวัชชัย บุญมา ได้ 63,408 คะแนน19.นครปฐม นายสมชาติ พรรณพัฒน์ ได้ 140,477 คะแนน20. นครพนม นาย วิทยา อินาลา ได้ 132,635 คะแนน
21.นครราชสีมา นาย สุเมธ ศรีพงษ์ ได้ 438,475 คะแนน 22. นครศรีธรรมราช นาย สิริวัฒน์ ไกรสินธุ์ ได้ 331,050 คะแนน 23.นครสวรรค์ นาง อรพินท์ มั่นศิลป์ ได้195,712 คะแนน 24.นนทบุรี ดร. ดิเรก ถึงฝั่ง ได้186,344 คะแนน 25.นราธิวาส นาย มูหามะรอสดี บอตอได้ 118,530 คะแนน 26.น่าน นายโสภณ ศรีมาเหล็ก ได้ 54,417 คะแนน 27.บุรีรัมย์ นายทวีศักดิ์ คิดบรรจง ได้ 245,548 คะแนน 28.ปทุมธานี นายไพบูลย์ ซำศิริพงษ์ ได้ 134,243 คะแนน 29.ประจวบคีรีขันธ์ นายธันว์ ออสุวรรณ ได้ 93,213 คะแนน 30.ปราจีนบุรี นายสุรเดช จิรัฐิติเจริญ ได้ 118,680 คะแนน
31. ปัตตานี ผศ.ดร. วรวิทย์ บารู ได้ 101,587 คะแนน 32.พระนครศรีอยุธยา นางสาวเกศสิณี แขวัฒนะ ได้106,881 คะแนน 33.พะเยา พล.ท.พงศ์เอก อภิรักษ์โยธิน ได้ 91,755 คะแนน 34.พังงา นายมานพน้อย วานิชได้ 82,926 คะแนน 35.พัทลุง นาย เจริญ ภักดีวานิชได้122,149 คะแนน 36.พิจิตร นายบรรชา พงศ์อายุกูล ได้ 124,374 คะแนน 37.พิษณุโลก นางสาวพิกุลแก้ว ไกรฤกษ์ ได้ 193,562 คะแนน 38.เพชรบุรี นางสาวสุมล สุตะวิริยะวัฒน์ ได้ 49,048 คะแนน 39.เพชรบูรณ์ นางสมพร จูมั่น ได้ 184,370 คะแนน 40.แพร่ นายขวัญชัย พนมขวัญ ได้ 180,650 คะแนน
41.ภูเก็ต นางธันยรัศม์ อัจฉริยะฉาย ได้ 39,375 คะแนน 42.มหาสารคาม นาย ประวัติ ทองสมบูรณ์ ได้ 142,599 คะแนน 43.มุกดาหาร นายจิตต์ มุกดาธนพงษ์ ได้ 44,806 คะแนน 44.แม่ฮ่องสอน นาย บุญส่ง โควาวิสารัช ได้ 39,005 คะแนน 45.ยโสธรนายยุทธนา ยุพฤทธิ์ ได้ 84,545 คะแนน 46.ยะลา นายต่วนอับดุลเล๊าะ ดาโอ๊ะมารียอได้ 58,369 คะแนน 47.ร้อยเอ็ด นายจตุรงค์ ธีระกนก ได้ 234,251 คะแนน 48.ระนอง นาย พรพจน์ กังวาล ได้ 19,797 คะแนน 49.ระยอง นายสาย กังกเวคิน ได้ 80,929 คะแนน 50.ราชบุรี นาย เกชา ศักดิ์สมบูรณ์ ได้ 167,444 คะแนน
51.ลพบุรี นายวรวิทย์ วงษ์สุวรรณ์ ได้ 167,102 คะแนน 52.ลำปาง นายพีระ มานะทัศน์ ได้206,876 คะแนน 53.ลำพูน นายสมศักดิ์ บุญเปลื้อง ได้ 85,517 คะแนน 54.เลย พล.ต.ต.องอาจ สุวรรณสิงห์ ได้ 114,293 คะแนน 55.ศีรษะเกษ นายจิตติพจน์ วิริยะโรจน์ ได้ 281,438 คะแนน 56.สกลนคร นายประดิษฐ์ ตันวัฒนะพงษ์ ได้ 117,940 คะแนน 57.สงขลา นายประเสริฐ ชิตพงศ์ ได้ 234,180 คะแนน 58.สตูล นายสุริยา ปันจอร์ ได้ 84,179 คะแนน 59.สมุทรปราการ นายสุโข วุฑฒิโชติ ได้ 73,901 คะแนน 60.สมุทรสงคราม นายสุรจิต ชิรเวทย์ ได้ 57,406 คะแนน
61.สมุทรสาคร นาย สุวิศว์ เมฆเสรีกุล ได้ 68,094 คะแนน 62.สระแก้ว นาย พายัพ ทองชื่น ได้ 99,507 คะแนน 63.สระบุรี นายจรัล จึงยิ่งเรืองรุ่ง ได้ 98,957 คะแนน 64.สิงห์บุรี นายศุภวัฒน์ เทียนถาวร ได้ 48,360 คะแนน 65.สุโขทัย นางสุอำภา คชไกร ได้ 96,585 คะแนน 66.สุพรรณ นายประสิทธิ์ โพธสุธน ได้180,354 คะแนน 67.สุราษฎร์ธานี พล.ต.ท. มาโนช ไกรวงศ์ ได้ 168,261 คะแนน 68.สุรินทร์ นาย อนันต์ อริยะชัยพาณิชย์ ได้ 291,193 คะแนน 69.หนองคาย พล.ต.ต. ขจร สัยวัตร์ได้ 126,402 คะแนน 70.หนองบัวลำภู นาย รักพงษ์ อุบลได้ 86,598 คะแนน
71.อ่างทอง พล.ต.อ. โกวิท ภักดีภูมิได้ 47,628 คะแนน 72.อำนาจเจริญ นายบวรศักดิ์ คณาเสน ได้ 60,815 คะแนน 73.อุดรธานี พล.ต.ท. พิชัย สุนทรสัจบูลย์ได้ 26,2049 คะแนน 74. .อุตรดิตถ์ นางนฤมล ศิริวัฒน์ได้ 141,898 คะแนน 75.อุทัยธานี นายสิงห์ชัย ทุ่งทอง ได้ 61,240 คะแนน 76.อุบลราชธานี นายถนอม ส่งเสริมได้ 108,223 คะแนน
**รสนาลั่นทำหน้าที่เต็มที่
นางสาวรสนา โตสิตระกูล ผู้รับสมัครสมาชิกวุฒิสภา หมายเลข 5 ได้เดินทางมายังศาลาว่าการ กทม.เพื่อติดตามผลการนับคะแนน และเปิดเผยความรู้สึกภายหลังทราบผลโพลนอกคูหาการเลือกตั้ง (Exit Poll) ว่า อันที่จริงตนไม่ค่อยแน่ใจว่าจะได้รับเลือกให้เป็น ส.ว.เนื่องจากคนที่จะได้รับเลือกจะต้องได้คะแนนมากกว่า 5 แสนคะแนน แต่เมื่อได้ทราบคะแนนขณะนี้ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 7 แสนก็ต้องขอขอบคุณประชาชนที่ให้ความไว้วางใจ
ทั้งนี้ คะแนนที่ได้ทั้งหมด เชื่อว่าเป็นคะแนนที่บริสุทธิ์ โปร่งใส ซึ่งหากมีการประกาศผลรับรองการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการแล้ว ตนจะตั้งใจทำงาน ทำหน้าที่ตรวจสอบถ่วงดุลอำนาจฝ่ายบริหาร หรือรัฐบาล ให้มีความโปร่งใสมากขึ้น นอกจากนี้ จะเข้าไปทำหน้าที่ในรัฐสภาให้เข้มข้น เพราะที่ผ่านมา ส.ว.เข้าไปเพียงออกกฎหมาย แต่การตรวจสอบไม่ค่อยได้เห็นนัก เห็นได้จากรัฐธรรมนูญปี 2540 ที่ใช้มา 8-9 ปี แต่ก็ยังไม่สามารถถอดถอนนักการเมืองที่ทุจริตได้
“21 วันที่ผ่านมา ในการแนะนำตัว ทำให้ได้รู้ว่าชาวกทม.เบื่อหน่ายการเมือง ส่วนเหตุผลที่ทำให้ได้รับเลือกเป็น ส.ว.ในครั้งนี้อาจจะเนื่องจากว่ามีประสบการณ์ในการตรวจสอบ และทำงานในเชิงการมีส่วนร่วม เช่นกรณี กฟผ. การเข้ามาเป็น ส.ว.ในรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวชนั้น ไม่หนักใจแต่อย่างใด เชื่อว่า การเมืองที่ดีจะต้องมีธรรมาภิบาล และการตรวจสอบถ่วงดุลจะต้องทำควบคู่ไปกับการบริหารงาน”นางสาวรสนากล่าว
นายพิง รุ่งสมัย ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้งกรุงเทพมหานคร แถลงผลการเลือกตั้งส.ว. อย่างไม่เป็นทางการ ว่า นางสาวรสนา โตสิตระกูล ผู้สมัครหมายเลข 5 มีคะแนนเป็นอันดับ 1 ด้วยคะแนน 743,397 คิดเป็น 49.78% อันดับสองหมายเลข 29 นายนิติพงษ์ ห่อนาค มีคะแนน 221,067 คิดเป็น 14.80% อันดับ 3 หมายเลข 6 มีคะแนน 195,714 คิดเป็น 13.11% อันดับ 4 หมายเลข 15 นายมานิต วิทยาเต็ม มีคะแนน 75,882 คิดเป็น 5.08% และอันดับ 5 หมายเลข 24 นายสรสินธุ ไตรจักรภพ มีคะแนน 40,551 คิดเป็น 2.72%
ทั้งนี้ กทม.มีผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 4,208,405 คน มาใช้สิทธิ1,685,475 คน คิดเป็น 40.05% บัตรดี 1,493,257 ใบ คิดเป็น 88.60% บัตรเสีย 16,922 ใบ คิดเป็น 1.00% และไม่ประสงค์ลงคะแนน 175,296 ใบ คิดเป็น 10.40 %
สำหรับเขตที่มาใช้สิทธิมากที่สุด 5 อันดับได้แก่ พญาไท 57,724 คน คิดเป็น 48.23% ทวีวัฒนา 52,868 คน คิดเป็น 48.05% ลาดพร้าว 91,822 คน คิดเป็น 44.70% บางรัก 34,692คน คิดเป็น 44.42% คันนายาว 61,448คน คิดเป็น 43.95%
ส่วนเขตที่มีผู้มาใช้สิทธิน้อยที่สุด ได้แก่ คลองเตย 82,411คน คิดเป็น 34.33% จอมทอง 123,330 คน คิดเป็น 34.88% ประเวศน์ 108,460 คน คิดเป็น 36.06% สายไหม 126,418 คน คิดเป็น 36.15% บางนา 75,126 คน คิดเป็น 36.20%
