เอเอฟพี - ผลสำรวจของสำนักโพลล์ในสหรัฐฯค้านความคิดของชาวตะวันตก ชี้ชาวมุสลิมโดยส่วนใหญ่ประณามเหตุวินาศกรรม 11 กันยายน เพราะขัดกับหลักศาสนาที่ห้ามฆ่าผู้บริสุทธิ์ อีกทั้งยังชื่นชมชาวตะวันตกที่มีประชาธิปไตย เสรีภาพ และความสามารถทางเทคโนโลยี แต่ไม่ต้องการถูกบังคับให้ยอมรับค่านิยมของตะวันตก
ผลสำรวจซึ่งจัดทำโดยกัลลัป หน่วยงานจัดทำโพลล์ในสหรัฐฯ มีเป้าหมายเพื่อขจัดความเชื่อของชาวตะวันตกบางคนที่มองว่าศาสนาอิสลามเป็นพลังที่ผลักดันลัทธิหัวรุนแรง
คณะผู้จัดทำโพลล์ชิ้นนี้ได้สำรวจความคิดเห็นชาวมุสลิมกลุ่มตัวอย่างใน 3 ทวีป ในตลอด 6 ปี ที่ผ่านมา โดยกลุ่มตัวอย่างคิดเป็น 90% ของชาวมุสลิมทั่วโลก
ผลสำรวจชิ้นนี้ระบุว่าชาวมุสลิมโดยส่วนใหญ่ประณามเหตุก่อการร้ายโจมตีสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 11 กันยายน ปี2001 และเหตุก่อการร้ายอื่นๆ เนื่องจากผู้บริสุทธิ์และพลเรือนต้องสังเวยชีวิตในเหตุร้ายเหล่านี้
ทั้งนี้ ชาวมุสลิมบางคนยกคำสอนของศาสนาอิสลาม มาสนับสนุนความเห็นของพวกเขาต่อเรื่องลัทธิก่อการร้าย โดยชาวมุสลิมยกข้อความตอนหนึ่งในคัมภีร์อัลกุรอาน ที่กล่าวว่าการคร่าชีวิตผู้บริสุทธิ์เพียงคนเดียว ก็เหมือนกับการสังหารมวลมนุษย์ทั้งหมด
ผลโพลล์ชิ้นนี้ยังระบุว่าราว 93% ของชาวมุสลิม 1,300,000,000 คน ทั่วโลก เป็นมุสลิมสายกลาง และมีเพียง 7% เท่านั้นที่มีความคิดหัวรุนแรงทางการเมือง
นอกจากนี้ ชาวมุสลิมส่วนใหญ่ยังมองว่า ความเลื่อมใสในศาสนาที่แพร่หลาย ไม่ควรแปรเปลี่ยนไปสู่การสนับสนุนการก่อการร้าย
กัลลัปได้เริ่มสำรวจความคิดเห็นของชาวมุสลิมจากหลายประเทศทั่วโลก หลังจากที่ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู. บุช เคยตั้งคำถามในระหว่างปราศรัยว่า "ทำไมพวกเขาถึงเกลียดพวกเรา : Why do they hate us?"
บุชให้เหตุผลว่าชาวมุสลิมเกลียดชังชาวตะวันตกเพราะ ชาวมุสลิมเกลียดชังรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งอย่างเป็นประชาธิปไตย อีกทั้งยังเกลียดชังเสรีภาพในการนับถือศาสนา เสรีภาพในการพูด แสดงความคิดเห็น เลือกตั้ง
ทว่า ผลโพลล์ของกัลลัปชี้ว่า ชาวมุสลิมเกือบทั้งหมดซึ่งรวมถึงพวกหัวรุนแรง ชื่นชมชาวตะวันตกในเรื่องประชาธิปไตย เสรีภาพ และทักษะความสามารถทางเทคโนโลยี แต่ชาวมุสลิมไม่อยากถูกบังคับให้ยอมรับแนวทางค่านิยมของชาติตะวันตก ชาวมุสลิมต้องการประชาธิปไตยที่มาพร้อมกับค่านิยมทางศาสนา แต่ไม่ต้องการการปกครองที่ผู้นำแยกศาสนาออกจากการเมือง และการปกครองโดยผู้สอนศาสนา
ผลสำรวจซึ่งจัดทำโดยกัลลัป หน่วยงานจัดทำโพลล์ในสหรัฐฯ มีเป้าหมายเพื่อขจัดความเชื่อของชาวตะวันตกบางคนที่มองว่าศาสนาอิสลามเป็นพลังที่ผลักดันลัทธิหัวรุนแรง
คณะผู้จัดทำโพลล์ชิ้นนี้ได้สำรวจความคิดเห็นชาวมุสลิมกลุ่มตัวอย่างใน 3 ทวีป ในตลอด 6 ปี ที่ผ่านมา โดยกลุ่มตัวอย่างคิดเป็น 90% ของชาวมุสลิมทั่วโลก
ผลสำรวจชิ้นนี้ระบุว่าชาวมุสลิมโดยส่วนใหญ่ประณามเหตุก่อการร้ายโจมตีสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 11 กันยายน ปี2001 และเหตุก่อการร้ายอื่นๆ เนื่องจากผู้บริสุทธิ์และพลเรือนต้องสังเวยชีวิตในเหตุร้ายเหล่านี้
ทั้งนี้ ชาวมุสลิมบางคนยกคำสอนของศาสนาอิสลาม มาสนับสนุนความเห็นของพวกเขาต่อเรื่องลัทธิก่อการร้าย โดยชาวมุสลิมยกข้อความตอนหนึ่งในคัมภีร์อัลกุรอาน ที่กล่าวว่าการคร่าชีวิตผู้บริสุทธิ์เพียงคนเดียว ก็เหมือนกับการสังหารมวลมนุษย์ทั้งหมด
ผลโพลล์ชิ้นนี้ยังระบุว่าราว 93% ของชาวมุสลิม 1,300,000,000 คน ทั่วโลก เป็นมุสลิมสายกลาง และมีเพียง 7% เท่านั้นที่มีความคิดหัวรุนแรงทางการเมือง
นอกจากนี้ ชาวมุสลิมส่วนใหญ่ยังมองว่า ความเลื่อมใสในศาสนาที่แพร่หลาย ไม่ควรแปรเปลี่ยนไปสู่การสนับสนุนการก่อการร้าย
กัลลัปได้เริ่มสำรวจความคิดเห็นของชาวมุสลิมจากหลายประเทศทั่วโลก หลังจากที่ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู. บุช เคยตั้งคำถามในระหว่างปราศรัยว่า "ทำไมพวกเขาถึงเกลียดพวกเรา : Why do they hate us?"
บุชให้เหตุผลว่าชาวมุสลิมเกลียดชังชาวตะวันตกเพราะ ชาวมุสลิมเกลียดชังรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งอย่างเป็นประชาธิปไตย อีกทั้งยังเกลียดชังเสรีภาพในการนับถือศาสนา เสรีภาพในการพูด แสดงความคิดเห็น เลือกตั้ง
ทว่า ผลโพลล์ของกัลลัปชี้ว่า ชาวมุสลิมเกือบทั้งหมดซึ่งรวมถึงพวกหัวรุนแรง ชื่นชมชาวตะวันตกในเรื่องประชาธิปไตย เสรีภาพ และทักษะความสามารถทางเทคโนโลยี แต่ชาวมุสลิมไม่อยากถูกบังคับให้ยอมรับแนวทางค่านิยมของชาติตะวันตก ชาวมุสลิมต้องการประชาธิปไตยที่มาพร้อมกับค่านิยมทางศาสนา แต่ไม่ต้องการการปกครองที่ผู้นำแยกศาสนาออกจากการเมือง และการปกครองโดยผู้สอนศาสนา