ผู้จัดการรายวัน - “โรงงานแม่รวย” แตกแบรนด์ “บูกี้” เสริมทัพ “โก๋แก่” ชูโพซิชันนิงโมเดิร์นแบรนด์ สแน็คแนวเทรนดี้ ขยายฐานกลุ่มเป้าหมายใหม่ นำร่องส่งขนมตัวแรก “เนลี่” สร้างทางเลือกคนชอบมันฝรั่งให้เป็น เซกเม้นท์ใหม่ คาดปีแรกโกยรายได้ 200 ล้านบาท ตั้งเป้าภายใน 3 ปี โตได้ถึง 700 ล้านบาท
นายกฤษดา รวยเจริญทรัพย์ รองกรรมการผู้จัดการ สายงานการตลาด บริษัท โรงงานแม่รวย จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ขนม ภายใต้แบรนด์ "โก๋แก่" และ “บูกี้” เปิดเผยว่า บริษัทได้ตั้งแบรนด์ขึ้นมาใหม่โดยใช้ชื่อว่า “บูกี้” ซึ่งจะเป็น Umbrella Brand ที่ช่วยขยายฐานลูกค้าและ สร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ออกสู่ตลาดในเซกเม้นท์อื่นจากเดิมที่เน้นแต่ผลิตภัณฑ์ถั่วเป็นหลัก
สำหรับผลิตภัณฑ์ที่ออกภายใต้แบรนด์ “บูกี้” จะเป็นผลิตภัณฑ์อาหารว่างที่หลากหลาย ไม่จำกัดแนว เน้นเรื่องความอร่อย แปลกใหม่ และ อารมณ์ที่สนุกสนานเป็นหลัก โดยผลิตภัณฑ์ที่จะออกสู่ตลาดเป็นตัวแรกในเดือนกุมภาพันธ์ 2551 จะเป็นผลิตภัณฑ์แครกเกอร์มันฝรั่งแท้ “เนลี่” ซึ่งเป็นสินค้าที่ใหม่ในตลาดและยังเป็นทางเลือกใหม่สำหรับคนชอบมันฝรั่งแต่ไม่ชอบของทอด เนื่องจากใช้กระบวนการผลิตโดยการอบแทน
นอกจากนั้นวัตถุดิบหลักยังทำจากมันฝรั่งแท้ซึ่งแตกต่างจากแครกเกอร์ในรูปแบบทั่วไปซึ่งจะใช้แป้งเป็นหลัก ทำให้เป็นความแปลกใหม่ในตลาดแครกเกอร์ โดยจะมีให้เลือก 2 รสชาดด้วยกัน คือ รสคลาสสิก และ รสสาหร่ายซอสญี่ปุ่น บรรจุในแบบซองพกพาขนาด 8 กรัม ราคา 2 บาท และ แบบแพครวม 5 ซอง ราคา 10 บาท สำหรับช่องทางการจำหน่าย จะเน้นร้านสะดวกซื้อเป็นหลัก ห้างสรรพสินค้า และร้านค้าทั่วไป สำหรับกลุ่มเป้าหมายของผลิตภัณฑ์ดังกล่าววางไว้ 2 กลุ่มด้วยกันคือ กลุ่มเป้าหมายหลัก อายุ 18-25 ปีขึ้นไป ได้แก่ นักเรียน นักศึกษา คนทำงาน ส่วนกลุ่มเป้าหมายรองเราจะเป็นกลุ่มเด็ก
รองกรรมการผู้จัดการ สายงานการตลาด กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทฯ ได้เตรียมงบการสื่อสารการตลาดไว้กว่า 20 ล้านบาท โดยเน้นสื่อสารผ่านภาพยนตร์โฆษณาทางโทรทัศน์ชุด “magic“ซึ่งจะเริ่มออกอากาศในปลายเดือนกุมภาพันธ์นี้ พร้อมด้วยสื่อเสริมอีกมากมาย อาทิ สื่อโฆษณาภายนอก ป้ายแบนเนอร์ตามอาคาร สื่อสิ่งพิมพ์ สื่อออนไลน์
ส่วนกิจกรรมส่งเสริมการขาย จะเน้นสร้างการรับรู้มุ่งตรงสู่กลุ่มเป้าหมายผ่านการจัดกิจกรรมโรดโชว์ การร่วมมือกับคู่ค้าในการทำโปรโมชั่นเพื่อให้ผู้บริโภคได้ทดลองชิมผลิตภัณฑ์ อาทิ โปรโมชั่น 7-11 ซื้อโก่แก๋รับฟรีเนลี่ การแจกสินค้าตัวอย่างให้ทดลองกว่า 1,000,000 ชิ้น ตามสถานศึกษา อาคารสำนักงาน สถานที่ชุมชน ห้างสรรพสินค้า ตลอดจนรายการส่งเสริมการขาย ณ ทุกร้านค้าโดยตั้งเป้ารายได้ในปีนี้ที่ 200 ล้านบาท และจะเพิ่มเป็น 700 ล้านบาท ภายใน 3 ปี
ทั้งนี้การที่บริษัทเลือกทำตลาดสินค้าในกลุ่มแครกเกอร์เพราะเป็นตลาดที่เติบโตได้มากกว่า 14% ต่อปี เห็นได้จากมูลค่าตลาดในสิ้นปีที่ผ่านมามีจำนวน 1,700 ล้านบาท เมื่อเทียบกับขนาดตลาดขนมขบเคี้ยวโดยรวมราว 12,000 ล้านบาท ยังถือว่าไม่ใหญ่มาก แต่มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
รองกรรมการผู้จัดการ สายการตลาด กล่าวย้ำว่า “เป้าหมายที่ทางเราตั้งไว้ไม่เพียงแค่ การเข้ามาแชร์ในตลาดเดิมเท่านั้น แต่ต้องการสร้างเซกเมนต์ใหม่ที่เรียกว่า ตลาดแครกเกอร์มันฝรั่ง เพราะสินค้าสามารถตอบสนองลูกค้าได้ครอบคลุมทั้งคนที่ชอบมันฝรั่ง และคนชอบ แครกเกอร์ด้วย บวกกับรสชาดที่เรามั่นใจในความอร่อย มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว จึงมั่นใจว่า “เนลี่” จะสามารถสร้างยอดขายให้เพิ่มขึ้นได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ได้อย่างแน่นอน”
นายกฤษดา รวยเจริญทรัพย์ รองกรรมการผู้จัดการ สายงานการตลาด บริษัท โรงงานแม่รวย จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ขนม ภายใต้แบรนด์ "โก๋แก่" และ “บูกี้” เปิดเผยว่า บริษัทได้ตั้งแบรนด์ขึ้นมาใหม่โดยใช้ชื่อว่า “บูกี้” ซึ่งจะเป็น Umbrella Brand ที่ช่วยขยายฐานลูกค้าและ สร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ออกสู่ตลาดในเซกเม้นท์อื่นจากเดิมที่เน้นแต่ผลิตภัณฑ์ถั่วเป็นหลัก
สำหรับผลิตภัณฑ์ที่ออกภายใต้แบรนด์ “บูกี้” จะเป็นผลิตภัณฑ์อาหารว่างที่หลากหลาย ไม่จำกัดแนว เน้นเรื่องความอร่อย แปลกใหม่ และ อารมณ์ที่สนุกสนานเป็นหลัก โดยผลิตภัณฑ์ที่จะออกสู่ตลาดเป็นตัวแรกในเดือนกุมภาพันธ์ 2551 จะเป็นผลิตภัณฑ์แครกเกอร์มันฝรั่งแท้ “เนลี่” ซึ่งเป็นสินค้าที่ใหม่ในตลาดและยังเป็นทางเลือกใหม่สำหรับคนชอบมันฝรั่งแต่ไม่ชอบของทอด เนื่องจากใช้กระบวนการผลิตโดยการอบแทน
นอกจากนั้นวัตถุดิบหลักยังทำจากมันฝรั่งแท้ซึ่งแตกต่างจากแครกเกอร์ในรูปแบบทั่วไปซึ่งจะใช้แป้งเป็นหลัก ทำให้เป็นความแปลกใหม่ในตลาดแครกเกอร์ โดยจะมีให้เลือก 2 รสชาดด้วยกัน คือ รสคลาสสิก และ รสสาหร่ายซอสญี่ปุ่น บรรจุในแบบซองพกพาขนาด 8 กรัม ราคา 2 บาท และ แบบแพครวม 5 ซอง ราคา 10 บาท สำหรับช่องทางการจำหน่าย จะเน้นร้านสะดวกซื้อเป็นหลัก ห้างสรรพสินค้า และร้านค้าทั่วไป สำหรับกลุ่มเป้าหมายของผลิตภัณฑ์ดังกล่าววางไว้ 2 กลุ่มด้วยกันคือ กลุ่มเป้าหมายหลัก อายุ 18-25 ปีขึ้นไป ได้แก่ นักเรียน นักศึกษา คนทำงาน ส่วนกลุ่มเป้าหมายรองเราจะเป็นกลุ่มเด็ก
รองกรรมการผู้จัดการ สายงานการตลาด กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทฯ ได้เตรียมงบการสื่อสารการตลาดไว้กว่า 20 ล้านบาท โดยเน้นสื่อสารผ่านภาพยนตร์โฆษณาทางโทรทัศน์ชุด “magic“ซึ่งจะเริ่มออกอากาศในปลายเดือนกุมภาพันธ์นี้ พร้อมด้วยสื่อเสริมอีกมากมาย อาทิ สื่อโฆษณาภายนอก ป้ายแบนเนอร์ตามอาคาร สื่อสิ่งพิมพ์ สื่อออนไลน์
ส่วนกิจกรรมส่งเสริมการขาย จะเน้นสร้างการรับรู้มุ่งตรงสู่กลุ่มเป้าหมายผ่านการจัดกิจกรรมโรดโชว์ การร่วมมือกับคู่ค้าในการทำโปรโมชั่นเพื่อให้ผู้บริโภคได้ทดลองชิมผลิตภัณฑ์ อาทิ โปรโมชั่น 7-11 ซื้อโก่แก๋รับฟรีเนลี่ การแจกสินค้าตัวอย่างให้ทดลองกว่า 1,000,000 ชิ้น ตามสถานศึกษา อาคารสำนักงาน สถานที่ชุมชน ห้างสรรพสินค้า ตลอดจนรายการส่งเสริมการขาย ณ ทุกร้านค้าโดยตั้งเป้ารายได้ในปีนี้ที่ 200 ล้านบาท และจะเพิ่มเป็น 700 ล้านบาท ภายใน 3 ปี
ทั้งนี้การที่บริษัทเลือกทำตลาดสินค้าในกลุ่มแครกเกอร์เพราะเป็นตลาดที่เติบโตได้มากกว่า 14% ต่อปี เห็นได้จากมูลค่าตลาดในสิ้นปีที่ผ่านมามีจำนวน 1,700 ล้านบาท เมื่อเทียบกับขนาดตลาดขนมขบเคี้ยวโดยรวมราว 12,000 ล้านบาท ยังถือว่าไม่ใหญ่มาก แต่มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
รองกรรมการผู้จัดการ สายการตลาด กล่าวย้ำว่า “เป้าหมายที่ทางเราตั้งไว้ไม่เพียงแค่ การเข้ามาแชร์ในตลาดเดิมเท่านั้น แต่ต้องการสร้างเซกเมนต์ใหม่ที่เรียกว่า ตลาดแครกเกอร์มันฝรั่ง เพราะสินค้าสามารถตอบสนองลูกค้าได้ครอบคลุมทั้งคนที่ชอบมันฝรั่ง และคนชอบ แครกเกอร์ด้วย บวกกับรสชาดที่เรามั่นใจในความอร่อย มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว จึงมั่นใจว่า “เนลี่” จะสามารถสร้างยอดขายให้เพิ่มขึ้นได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ได้อย่างแน่นอน”