นายสัก กอแสงเรือง โฆษกคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำทีก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) แถลงภาย หลังการประชุม คตส. ชุดใหญ่ เมื่อวานนี้ (25 ก.พ.) ว่าคณะอนุกรรมการพิจารณาคำร้องเพื่อการเพิกถอนคำสั่งอายัดทรัพย์ ที่มีนายอำนวย ธันธรา เป็นประธาน ได้รายงานความคืบหน้าการพิจารณาคำร้องการขอเพิกถอนอายัดทรัพย์ ว่า ผู้ได้รับมอบอำนาจจากบริษัท และบุคคลที่ถูก คตส. มีคำสั่งอายัดทรัพย์ได้ยื่นหนังสือขอเลื่อนการชี้แจงออกไปดังนี้ คือ
1. บริษัทเวิลด์ ซัพพลาย จำกัด ขอเลื่อนออกไปเป็นวันที่ 27 ก.พ. นี้ 2. น.ส. พิณทองทา ชินวัตร ทนายความผู้ได้รับมอบอำนาจทำหนังสือขอเลื่อนพยานบุคคลที่จะมาให้ถ้อยคำ 2 ปาก ออกไปเป็นวันที่ 29 ก.พ.
3.บริษัท เอส ซี เค เอสเตรท จำกัด ขอเลื่อนไปวันที่ 26 มี.ค.นี้ โดยอ้างว่า รวบรวมเอกสารที่เกี่ยวข้องไม่ทัน 4. บริษัทประไหมสุหรี ขอเลื่อนออกไปเป็น วันที่ 4 มี.ค.
5. บริษัทโอเอไอ คอนซัลแตนท์ จำกัด ขอเลื่อนออกไปเป็นวันที่ 28 มี.ค. และ 6. นางบุษบา ดามาพงศ์ ขอเลื่อนออกไปเป็นวันที่ 25 มี.ค.
นายสัก กล่าวว่า การเข้าชี้แจงการเพิกถอนทรัพย์ เป็นหน้าที่ของผู้ที่ยื่นคำร้องขอเพิกถอนทรัพย์ที่ถูกคตส. อายัด แต่ที่ผ่านมา การที่ คตส.ยังไม่มีคำสั่งเพิกถอนทรัพย์ เพราะผู้ยื่นคำร้องขอเลื่อนออกไป ซึ่งเป็นที่น่าเสียดายที่ไม่ยอมนำเอกสารที่เกี่ยวข้องมายื่นคำชี้แจง ถ้าพยานหลักฐานไม่มี คตส. ก็คงต้องยกคำร้องการขอเพิกถอนทรัพย์
อย่างไรก็ตามหากคตส. พิจารณาได้ไม่ทัน ก็ต้องส่งเรื่องดังกล่าวไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อดำเนินการต่อไป แม้ว่า คตส.จะหมดวาระ คำสั่งอายัดทรัพย์ยังคงอยู่ เพราะคตส. ทำงานตามกรอบของ ป.ป.ช. ที่มีอำนาจอายัดทรัพย์ที่ได้จากการร่ำรวยผิดปกติ ได้ทรัพย์สินมาโดยมิสมควร ใช้อำนาจหน้าที่ในทางที่ไม่ชอบ
"ยอมรับว่า การทำงานของ คตส.ล่าช้า แต่เป็นเพราะมีการขยายเวลาให้ผู้ที่เกี่ยวข้องในการเข้าชี้แจง และยังมีการส่งเอกสารล่าช้า ทำให้งาน คตส.ไม่ตรงตามเป้า แต่ในส่วนของกรรมการ คตส. ได้เร่งทำงานอย่างเต็มที่ โดยยึดหลักรวดเร็ว ถูกต้อง สมบูรณ์" นายสักกล่าว
นายสัก กล่าวด้วยว่า ได้รายงานต่อที่ประชุมเกี่ยวกับคดีที่ นายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ หลีกเลี่ยงภาษีการซื้อขายหุ้นบริษัทชินวัตรคอมพิวเตอร์แอนด์คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน)ว่า จากการที่ศาลนัดสืบพยานจำเลย 3 นัด นั้น ล่าสุด นายบรรณพจน์ ได้ขอเลื่อนสืบพยานออกไปเป็นวันที่ 2 พ.ค. และ 30 พ.ค.
เมื่อถามถึงกรณีที่ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะเดินทางกลับประเทศไทยเพื่อสู้คดีที่ดินรัชดา นายสัก กล่าวว่า คตส.ไม่ได้หารือหรือเตรียมการรับ พ.ต.ท. ทักษิณ กลับประเทศ แต่ถือเป็นสิทธิของพ.ต.ท. ทักษิณ ที่จะเดินทางกลับมา ซึ่งจะทำให้คดีที่ค้างอยู่ในชั้นศาลสามารถเดินหน้าต่อไปได้ ถือว่าเป็นผลดีต่อการทำงาน และคตส.ไม่รู้สึกหวั่น แต่ยังไหวต่อการทำงาน เพราะสำนวนของคตส. ยึดข้อเท็จจริง พยานหลักฐาน จุดยืนคตส.ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง และตั้งแต่มีรัฐบาลชุดนี้ ยังไม่มีผลกระทบอะไรกับ คตส. ทั้งในด้านดีและไม่ดี
ส่วนที่นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และร.ต.อ. เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย แสดงท่าที่ต่อคดีที่เกี่ยวกับพ.ต.ท.ทักษิณ จะหลุดในชั้นศาลนั้น คตส.ยังไม่ได้พิจารณาในเรื่องนี้ และใครมีความเห็นอย่างไรก็ไม่เกี่ยวกับคตส. ซึ่งศาลจะเป็นผู้พิจารณาคดี
นายสัก กล่าวถึงกรณีที่กระทรวงการต่างประเทศ คืนพาสปอร์ตแดงให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่า เป็นหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศ เพราะก่อนหน้านี้ กระทรวงการต่างประเทศก็ได้ส่งหนังสือสอบถาม คตส. ซึ่ง คตส.ได้ตอบกลับว่าเป็นหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศโดยตรง คตส. จึงไม่มีหน้าที่พิจารณาและรับไว้พิจารณา เช่นเดียวกับกรณีของธนาคารแห่งประเทศไทย ที่มีอำนาจในการอนุญาตให้นำเงินออกนอกประเทศหรือไม่
1. บริษัทเวิลด์ ซัพพลาย จำกัด ขอเลื่อนออกไปเป็นวันที่ 27 ก.พ. นี้ 2. น.ส. พิณทองทา ชินวัตร ทนายความผู้ได้รับมอบอำนาจทำหนังสือขอเลื่อนพยานบุคคลที่จะมาให้ถ้อยคำ 2 ปาก ออกไปเป็นวันที่ 29 ก.พ.
3.บริษัท เอส ซี เค เอสเตรท จำกัด ขอเลื่อนไปวันที่ 26 มี.ค.นี้ โดยอ้างว่า รวบรวมเอกสารที่เกี่ยวข้องไม่ทัน 4. บริษัทประไหมสุหรี ขอเลื่อนออกไปเป็น วันที่ 4 มี.ค.
5. บริษัทโอเอไอ คอนซัลแตนท์ จำกัด ขอเลื่อนออกไปเป็นวันที่ 28 มี.ค. และ 6. นางบุษบา ดามาพงศ์ ขอเลื่อนออกไปเป็นวันที่ 25 มี.ค.
นายสัก กล่าวว่า การเข้าชี้แจงการเพิกถอนทรัพย์ เป็นหน้าที่ของผู้ที่ยื่นคำร้องขอเพิกถอนทรัพย์ที่ถูกคตส. อายัด แต่ที่ผ่านมา การที่ คตส.ยังไม่มีคำสั่งเพิกถอนทรัพย์ เพราะผู้ยื่นคำร้องขอเลื่อนออกไป ซึ่งเป็นที่น่าเสียดายที่ไม่ยอมนำเอกสารที่เกี่ยวข้องมายื่นคำชี้แจง ถ้าพยานหลักฐานไม่มี คตส. ก็คงต้องยกคำร้องการขอเพิกถอนทรัพย์
อย่างไรก็ตามหากคตส. พิจารณาได้ไม่ทัน ก็ต้องส่งเรื่องดังกล่าวไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อดำเนินการต่อไป แม้ว่า คตส.จะหมดวาระ คำสั่งอายัดทรัพย์ยังคงอยู่ เพราะคตส. ทำงานตามกรอบของ ป.ป.ช. ที่มีอำนาจอายัดทรัพย์ที่ได้จากการร่ำรวยผิดปกติ ได้ทรัพย์สินมาโดยมิสมควร ใช้อำนาจหน้าที่ในทางที่ไม่ชอบ
"ยอมรับว่า การทำงานของ คตส.ล่าช้า แต่เป็นเพราะมีการขยายเวลาให้ผู้ที่เกี่ยวข้องในการเข้าชี้แจง และยังมีการส่งเอกสารล่าช้า ทำให้งาน คตส.ไม่ตรงตามเป้า แต่ในส่วนของกรรมการ คตส. ได้เร่งทำงานอย่างเต็มที่ โดยยึดหลักรวดเร็ว ถูกต้อง สมบูรณ์" นายสักกล่าว
นายสัก กล่าวด้วยว่า ได้รายงานต่อที่ประชุมเกี่ยวกับคดีที่ นายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ หลีกเลี่ยงภาษีการซื้อขายหุ้นบริษัทชินวัตรคอมพิวเตอร์แอนด์คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน)ว่า จากการที่ศาลนัดสืบพยานจำเลย 3 นัด นั้น ล่าสุด นายบรรณพจน์ ได้ขอเลื่อนสืบพยานออกไปเป็นวันที่ 2 พ.ค. และ 30 พ.ค.
เมื่อถามถึงกรณีที่ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะเดินทางกลับประเทศไทยเพื่อสู้คดีที่ดินรัชดา นายสัก กล่าวว่า คตส.ไม่ได้หารือหรือเตรียมการรับ พ.ต.ท. ทักษิณ กลับประเทศ แต่ถือเป็นสิทธิของพ.ต.ท. ทักษิณ ที่จะเดินทางกลับมา ซึ่งจะทำให้คดีที่ค้างอยู่ในชั้นศาลสามารถเดินหน้าต่อไปได้ ถือว่าเป็นผลดีต่อการทำงาน และคตส.ไม่รู้สึกหวั่น แต่ยังไหวต่อการทำงาน เพราะสำนวนของคตส. ยึดข้อเท็จจริง พยานหลักฐาน จุดยืนคตส.ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง และตั้งแต่มีรัฐบาลชุดนี้ ยังไม่มีผลกระทบอะไรกับ คตส. ทั้งในด้านดีและไม่ดี
ส่วนที่นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และร.ต.อ. เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย แสดงท่าที่ต่อคดีที่เกี่ยวกับพ.ต.ท.ทักษิณ จะหลุดในชั้นศาลนั้น คตส.ยังไม่ได้พิจารณาในเรื่องนี้ และใครมีความเห็นอย่างไรก็ไม่เกี่ยวกับคตส. ซึ่งศาลจะเป็นผู้พิจารณาคดี
นายสัก กล่าวถึงกรณีที่กระทรวงการต่างประเทศ คืนพาสปอร์ตแดงให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่า เป็นหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศ เพราะก่อนหน้านี้ กระทรวงการต่างประเทศก็ได้ส่งหนังสือสอบถาม คตส. ซึ่ง คตส.ได้ตอบกลับว่าเป็นหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศโดยตรง คตส. จึงไม่มีหน้าที่พิจารณาและรับไว้พิจารณา เช่นเดียวกับกรณีของธนาคารแห่งประเทศไทย ที่มีอำนาจในการอนุญาตให้นำเงินออกนอกประเทศหรือไม่