ปลัดคลัง รอด คตส.สอยแค่ปลาซิว 4 ขรก.สรรพากร-คนสนิทหญิงอ้อ ฐานร่วมกันทุจริตตอบหนังสือหารือซื้อหุ้นชินไม่เสียภาษี ทำรัฐเสียหาย ส่ง อสส.ภายใน 14 วัน ขณะที่หวยบนดินจับมือสภาทนาย ยื่นฟ้องศาลฎีกาฯ แน่ 3 มี.ค.นี้
วันนี้ (18 ก.พ.) ที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน นายสัก กอแสงเรือง โฆษกคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) แถลงภายหลังการประชุม ว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบว่าการกระทำของกลุ่มข้าราชการกรมสรรพากรที่ทำหนังสือตอบข้อหารือกรณีการซื้อขายหุ้นบริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ระหว่างนายพานทองแท้ และนางสาวพิณทองทา ชินวัตร กับบริษัท แอมเพิลริช อินเวสต์เมนต์ จำกัด ไม่ต้องเสียภาษี มีมูลความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 154, 157 และ 83 และยังเห็นว่า การกระทำของผู้ทำหนังสือหารือ มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 154, 157 และ 86 ส่วนปลัดกระทรวงการคลัง อธิบดีกรมสรรพากร และรองอธิบดีกรมสรรพากร ไม่มีมูลความผิดทางอาญา จึงให้ข้อกล่าวหาตกไป ทั้งนี้ภายใน 14 วัน คตส.จะจัดส่งสำนวนส่งให้อัยการสูงสุดพิจารณาสั่งฟ้องต่อศาลอาญาต่อไป โดย คตส.ไม่ได้พิจารณาถึงความผิดด้านวินัย เนื่องจากกรอบการตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนฯ ได้กำหนดให้สอบเฉพาะคดีอาญาเท่านั้น ส่วนความผิดด้านวินัยเป็นเรื่องของเจ้ากระทรวงในการตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป ซึ่ง คตส.ไม่จำเป็นต้องมีหนังสือไปถึงกระทรวงการคลังแต่อย่างใด
นายสัก กล่าวว่า ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่าข้าราชการกรมสรรพากรได้กระทำการโดยมิชอบ หรือโดยทุจริตร่วมกันในการตอบหนังสือหารือว่าการซื้อขายหุ้นดังกล่าวไม่เข้าลักษณะเป็นเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 39 แห่งประมวลรัษฎากร เนื่องจากเห็นว่าการซื้อขายหุ้นในราคาพาร์หุ้นละ 1 บาท ต่ำกว่าราคาตลาด เป็นการซื้อทรัพย์สินในราคาถูก ซึ่งเป็นเรื่องการตกลงระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย อย่างไรก็ตาม คณะอนุกรรมการไต่สวนฯ ได้พิจารณาเห็นว่าการซื้อขายหุ้นดังกล่าวเป็นหลักทรัพย์แตกต่างจากการซื้อทรัพย์สินอื่นโดยทั่วไป ซึ่งจะต้องมีวิธีการตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 ซึ่งเป็นกฎหมายเฉพาะ
“จึงเห็นว่า การกระทำของข้าราชการดังกล่าวทำให้ผู้ที่ต้องเสียภาษีได้ประโยชน์ ไม่ต้องเสียภาษีหรือเสียภาษีน้อยกว่าที่ต้องเสีย ทำให้ผู้เสียภาษีได้รับประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมาย ทำให้ราชการของกรมสรรพากรเสียหายจึงมีความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่เรียกเก็บหรือตรวจสอบภาษีอากร ร่วมกันกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใด เพื่อให้ผู้มีหน้าที่เสียภาษีอากรนั้นมิต้องเสียภาษี หรือเสียภาษีน้อย และเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ” นายสัก กล่าว
นายสัก กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีผู้ที่จงใจทำหนังสือหารือกรมสรรพากร เพื่อให้มีการร่วมกันวินิจฉัยตอบข้อหารือดังกล่าว โดยเจตนานำหนังสือหารือไปใช้ในทางไม่สุจริตนั้น ทาง คตส.พิจารณาแล้วเห็นว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการจงงใจนำหนังสือดังกล่าวไปใช้ประโยชน์ในทางที่มิชอบโดยกฎหมาย เป็นเหตุให้ข้าราชการกรมสรรพากรร่วมกันปฏิบัติ หรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และก่อให้เกิดความเสียหาย จึงเป็นความผิดทางอาญาฐานเป็นผู้สนับสนุนให้เจ้าพนักงานเรียกเก็บหรือตรวจสอบภาษีโดยมิชอบ
โฆษก คตส.กล่าวว่า สำหรับกรณีรองอธิบดีกรมสรรพากร ไปชี้แจงข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายต่อคณะกรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา รวมทั้งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินนั้น การไต่สวนข้อเท็จจริงไม่ปรากฎพยานหลักฐานยืนยันว่ารองอธิบดีกรมสรรพากรมีส่วนเกี่ยวข้องในการตอบข้อหารือ หรือกระทำการให้ผู้มีหน้าที่ต้องเสียภาษีจากการซื้อหุ้นชินคอร์ปไม่ต้องเสียภาษี ข้อกล่าวหาจึงตกไป
นายสัก กล่าวว่า ในส่วนของอธิบดีกรมสรรพากร และปลัดกระทรวงการคลัง ร่วมแถลงข่าวที่กระทรวงการคลัง พบว่า การแถลงข่าวเกิดขึ้นภายหลังการตอบข้อหารือไปแล้ว ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด จึงไม่ใช่การสนับสนุนการกระทำความผิดในการตอบข้อหารือ ข้อกล่าวหาจึงตกไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับผู้ถูกกล่าวหาในคดีดังกล่าวมีจำนวน 8 ราย ประกอบด้วย 1.นาย ศุภรัตน์ ควัฒน์กุล ปลัดกระทรวงการคลัง 2.นายศิโรตม์ สวัสดิ์พาณิชย์ อดีตอธิบดีกรมสรรพากร 3.นางไพฑูรย์ พงษ์เกสร เปลี่ยนชื่อใหม่เป็น นางรวิฐา พงศ์นุชิต รองอธิบดีกรมสรรพากร 4.นางเบญจา หลุยเจริญ ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง 5.นางสาวจำรัส แหยมสร้อยทอง ผู้อำนวยการสำนักอุทธรณ์ภาษี กรมสรรพากร 6.นางสาวโมรีรัตน์ บุญญาศิริ อดีตผู้อำนวยการสำนักกฎหมาย กรมสรรพากร 7.นายกฤช วิปุลานุสาสน์ ผู้เชี่ยวชาญกฎหมายกรมสรรพากร และ 8.น.ส.ปราณี เวชพฤกษ์พิทักษ์ ผู้ทำหนังสือหารือมายังกรมสรรพากร
โฆษก คตส.กล่าวอีกว่า นายอุดม เฟื่องฟุ้ง ประธานคณะอนุกรรมการไต่สวนกรณีการออกสลากพิเศษเลขท้าย 2-3 ตัว หรือหวยบนดิน รายงานต่อที่ประชุมว่า มีการแต่งตั้งคณะทนายความจากสภาทนายความ 12 คน เป็นทนายในคดีหวยบนดิน ที่จะมีการยื่นฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ขณะนี้ทนายกำลังร่างคำฟ้อง คาดว่า จะเสนอร่างคำฟ้องต่อที่ประชุม คตส.พิจารณาได้ในวันจันทร์ที่ 25 ก.พ.และหากไม่มีอุปสรรคใดจะสามารถยื่นฟ้องต่อศาลได้ภายในวันที่ 3 มี.ค.นี้ สำหรับเหตุผลในการตั้งคณะทำงาน 12 คน เนื่องจากมีระยะเวลาในการทำงานเพียงแค่ 14 วัน มีสำนวน 4 กล่อง เอกสารเป็นหมื่นๆ แผ่น จึงต้องใช้คนจำนวนมาก
นายสัก กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ จากที่ คตส.ได้มีหนังสือขอเอกสารการมอบอำนาจของอัยการสูงสุดให้กับรองอัยการสูงสุดในการลงนามในหนังสือที่ส่งถึง คตส.และสำเนาสำนวนคดีดังกล่าวให้อัยการสูงสุดส่งกลับคืนมา จนบัดนี้ยังไม่มีการส่งคืนมาแต่อย่างใด ซึ่งตามกำหนดจะต้องส่งหนังสือกลับคืนมาภายใน 7 วัน