วานนี้ (25 ก.พ.)เมื่อเวลา 09.00 น.ที่ห้องพิจารณาคดี 905 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดไต่สวนคำร้องยึดทรัพย์ในคดียาเสพติดที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งยึดทรัพย์ของ นายบรรจง สร้อยแก้ว อายุ 26 ปี เป็นจำเลยในความผิดฐานมียาเสพติดไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย โดยระหว่างที่ศาลกำลังไต่สวนพยานได้สังเกตเห็น นายสงกรานต์ ไชยวงศ์ อายุ 26 ปี ซึ่งเข้าร่วมฟังการพิจารณาคดีมีท่าทีมีพิรุธพร้อมกับหยิบวัตถุอย่างหนึ่งคล้ายวิทยุเทปส่งให้กับนายบรรจง ศาลจึงสอบถามพร้อมกับบอกว่าห้ามไม่ให้นำวิทยุเทปเข้ามาในห้องพิจารณาคดี
จากนั้น นายเชาว์ ทวีปะ เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ 5 จึงได้เข้าไปหยิบวัตถุดังกล่าวจากนายสงกรานต์ มาตรวจสอบ พบว่าเป็นห่อกระดาษพันทับด้วยเทปสีดำจึงแกะออกดู พบว่าเป็นยาอีบรรจุใส่ในถุงยางเพื่อป้องกันไม่ให้มีกลิ่น ชนิดเม็ดสีชมพู จำนวน 30 เม็ด จึงแจ้งให้ศาลทราบศาลจึงมีคำสั่งให้ควบคุมตัวนายสงกรานต์ในทันที ก่อนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจศาลนำตัวไปทำการสอบสวน
หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจศาลควบคุมตัวนายสงกรานต์ออกไป นายเจริญ แก้วมวย เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ 5 ได้ตรวจพบยาไอซ์บรรจุใส่ซองพลาสติกจำนวน 2 ซอง และยาอีอีก 30 เม็ด ซึ่งถูกห่อใส่ห่อกระดาษมัดด้วยเทปในลักษณะเดียวกันตกอยู่ใต้เก้าอี้ที่จำเลยนั่ง ตกอยู่ใกล้กับที่นั่งของนายบรรจง จึงนำส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจศาลเพื่อยึดไว้เป็นของกลาง
ต่อมาเวลา 15.00 น. ศาลออกนั่งบัลลังก์ไต่สวนนายบรรจง และนายสงกรานต์ ผู้ถูกกล่าวหากระทำผิดฐานละเมิดอำนาจศาล โดยนายสงกรานต์ ให้การรับสารภาพ ว่าได้รับการติดต่อว่าจ้างจากบุคคลที่ได้รับโทรศัพท์จากนักโทษในเรือนจำให้นำยาเสพติดดังกล่าวมาส่งให้นายบรรจง ที่ศาลอาญา ในราคา 2 หมื่นบาท โดยทำในลักษณะดังกล่าวมาแล้ว 1 ครั้ง เมื่อเดือน ก.ค. 2550 เพื่อนำเงินไปแต่งงาน ส่วนนายบรรจง ให้การปฏิเสธอ้างว่าไม่เคยรู้จักหรือติดต่อกับนายสงกรานต์ มาก่อน
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า เหตุเกิดภายในห้องพิจารณาคดี ขณะที่ศาลกำลังพิจารณาคดี การกระทำของผู้ถูกล่าวหาทั้งสองเป็นการทำผิดฐานครอบครองยาเสพติดให้โทษ และประพฤติตนไม่เรียบร้อยในบริเวณศาล เป็นการกระทำที่อุกอาจไม่เกรงกลัวกฎหมาย เห็นควรลงโทษสถานหนัก พิพากษาจำคุกเป็นเวลาคนละ 6 เดือน และให้ผู้อำนวยการศาลอาญาเข้าแจ้งความร้องทุกข์ในความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดต่อพนักงานสอบสวนต่อไป
จากนั้น นายเชาว์ ทวีปะ เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ 5 จึงได้เข้าไปหยิบวัตถุดังกล่าวจากนายสงกรานต์ มาตรวจสอบ พบว่าเป็นห่อกระดาษพันทับด้วยเทปสีดำจึงแกะออกดู พบว่าเป็นยาอีบรรจุใส่ในถุงยางเพื่อป้องกันไม่ให้มีกลิ่น ชนิดเม็ดสีชมพู จำนวน 30 เม็ด จึงแจ้งให้ศาลทราบศาลจึงมีคำสั่งให้ควบคุมตัวนายสงกรานต์ในทันที ก่อนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจศาลนำตัวไปทำการสอบสวน
หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจศาลควบคุมตัวนายสงกรานต์ออกไป นายเจริญ แก้วมวย เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ 5 ได้ตรวจพบยาไอซ์บรรจุใส่ซองพลาสติกจำนวน 2 ซอง และยาอีอีก 30 เม็ด ซึ่งถูกห่อใส่ห่อกระดาษมัดด้วยเทปในลักษณะเดียวกันตกอยู่ใต้เก้าอี้ที่จำเลยนั่ง ตกอยู่ใกล้กับที่นั่งของนายบรรจง จึงนำส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจศาลเพื่อยึดไว้เป็นของกลาง
ต่อมาเวลา 15.00 น. ศาลออกนั่งบัลลังก์ไต่สวนนายบรรจง และนายสงกรานต์ ผู้ถูกกล่าวหากระทำผิดฐานละเมิดอำนาจศาล โดยนายสงกรานต์ ให้การรับสารภาพ ว่าได้รับการติดต่อว่าจ้างจากบุคคลที่ได้รับโทรศัพท์จากนักโทษในเรือนจำให้นำยาเสพติดดังกล่าวมาส่งให้นายบรรจง ที่ศาลอาญา ในราคา 2 หมื่นบาท โดยทำในลักษณะดังกล่าวมาแล้ว 1 ครั้ง เมื่อเดือน ก.ค. 2550 เพื่อนำเงินไปแต่งงาน ส่วนนายบรรจง ให้การปฏิเสธอ้างว่าไม่เคยรู้จักหรือติดต่อกับนายสงกรานต์ มาก่อน
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า เหตุเกิดภายในห้องพิจารณาคดี ขณะที่ศาลกำลังพิจารณาคดี การกระทำของผู้ถูกล่าวหาทั้งสองเป็นการทำผิดฐานครอบครองยาเสพติดให้โทษ และประพฤติตนไม่เรียบร้อยในบริเวณศาล เป็นการกระทำที่อุกอาจไม่เกรงกลัวกฎหมาย เห็นควรลงโทษสถานหนัก พิพากษาจำคุกเป็นเวลาคนละ 6 เดือน และให้ผู้อำนวยการศาลอาญาเข้าแจ้งความร้องทุกข์ในความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดต่อพนักงานสอบสวนต่อไป