xs
xsm
sm
md
lg

พยายามเข้าใจจักรภพ

เผยแพร่:   โดย: บัณรส บัวคลี่

ยิ่งนานไปยิ่งไม่เข้าใจ จักรภพ เพ็ญแข ขึ้นทุกที

จักรภพ ไม่ใช่ตำราเล่มหนาที่เขียนขึ้นด้วยทฤษฎีซับซ้อนไปด้วยองค์ความรู้ แต่ที่อ่านยากเพราะเป็นหนังสือที่พยายามเขียนให้ดูหรู..แต่ขาด ๆ เกิน ๆ ในหลักคิด บทหนึ่งเขียนอย่างแต่อีกบทหนึ่งก็ไปอีกทาง

คำที่มีความหมายคล้ายกันคือ สะเปะสะปะ !

ย้อนกลับไป 4-5 ปีก่อน นักเรียนทุนฟุลไบรท์ชื่อ จักรภพ โตเร็วมาก ช่วงเวลานั้นจักรภพอ่านง่าย ชุดความคิดและการแสดงออกทั้งหมดเป็นไปตามแนวทางโลกตะวันตกที่ร่ำเรียนมาหลายปี ไม่ว่าจะเป็นการวิเคราะห์สถานการณ์ต่างประเทศ หรือตามแนวทางการ(พยายาม)เป็นสื่อมวลชนที่ก้าวหน้า

ภาพลักษณ์ดี คล้ายกับจะเป็นทรัพยากรบุคคลรุ่นใหม่ให้กับประเทศได้ แต่ภายหลังการแพ้เลือกตั้ง 2 ครั้ง ตามมาด้วย (การอ้าง ) สู้เพื่อเสรีสื่อ ในนามพีทีวี. และอ้างการต่อสู้เผด็จการโดยไม่เกี่ยวพรรคไทยรักไทยเมื่อปีกลาย ... ภาพและบทบาทของจักรภพไม่เหมือนเดิมแล้ว

อย่างที่บอกไว้แต่ต้นแหละครับสะเปะสะปะ เคยเข้าใจว่าคนผ่านปริญญาโทสองใบ และจบคอร์สเวิร์คปริญญาเอกจากอเมริกาน่าจะแม่นยำในหลักการ-หลักคิด กลับกลายมาเป็นคนที่..วันนี้อย่างอีกวันอย่าง..แบบที่ภาษามวยเขาเรียก “หลักไม่แน่น” ได้อย่างไร

บทบาทใหม่ในตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกำกับสื่อ พิสูจน์ชัดเลยว่า นักเรียนนอกที่ดูฉลาดเฉลียวแม่นยำนั้นเป็นแค่ภาพลักษณ์ภายนอก

เอาแค่รับหนังสือจากผู้ถือหุ้นไอทีวี. ก็เอะอะบอกทันทีว่าจะตั้งกรรมการสอบการยึดสัมปทานว่าถูกต้องหรือไม่ ..

นักการเมืองเก๋าเกมเขาไม่ทำกันแบบนี้หรอก อันการตั้งเรื่องแล้วชงต่อนั้นมีวิธีการอีกมากที่มันเนียนกว่านี้ ..ก็เลยไม่อยากจะเชื่อตามคำนายกฯ สมัคร ที่บอกว่า จักรภพ เก่ง.. เพราะเปิดฉากขึ้นมาก็แค่ นักการเมืองมือใหม่ใจร้อนอยากลองวิชาเท่านั้น

สิ่งที่เห็นความเปลี่ยนแปลงอีกอย่าง จักรภพ ไม่ใช่นักเรียนนอกที่เดินตามชุดความคิดตะวันตกจ๋าเหมือน 4-5 ปีก่อนแล้ว อย่างน้อยก็เห็น จักรภพ ถือสรรนิพนธ์เหมา คิดว่าตนเป็นขุนพลของประชาชนอยู่ในสนามรบเพื่อโค่นล้มขุนศึกศักดินา

โดยส่วนตัวเข้าใจว่าจักรภพ ยังไม่ตกผลึกเพราะอย่างน้อยยังอยู่ระหว่างการเรียนรู้คำว่า ทุนนิยมสามานย์ แตกต่างจากประชาธิปไตยที่แท้อย่างไร และที่สำคัญแม้ว่าจะเคยสวมบทบาทสื่อมาก่อนแต่ที่สุดแล้ว จักรภพ ยังไม่เข้าใจน่าจะกลับไปทำความเข้าใจภาพรวมของสื่อสารมวลชนให้ถ่องแท้กว่าที่แสดงออกปัจจุบัน

จักรภพ แสดงออกถึงความไม่ชัดเจน เปะปะแบบมือใหม่ใจร้อนออกมาเรื่อย ๆ ล่าสุดในการอภิปรายในสภา ที่ฉวยโอกาสถ่ายทอดสดซัดใส่ สนธิ ลิ้มทองกุล และเครือผู้จัดการ เพื่อลากไปสู่เหตุผลการต้องปฏิรูปสื่อรัฐ

ไม่ได้เจ็บแค้นอะไรหรอก..กลับหัวเราะ หึ ๆ เสียอีก ! การอภิปรายคืนสุดท้ายตอกย้ำทำให้เข้าใจยิ่งขึ้นว่า จักรภพ ไม่ได้เป็นนักการเมืองที่เก่งและเป็นงาน และไม่ได้ช่วยพยุงภาพครม.ขี้เหร่ แม้แต่น้อย

กลับเป็น มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ เสียอีกที่เก๋าและแสดงความเข้าใจ เช่นเดียวกับ หมอเลี้ยบ ที่มองปรุโปร่งถึงกลยุทธ์การเมืองระยะตั้งไข่ รู้ว่าควรแสดงออกต่อสาธารณะด้วยท่วงทำนองใด ผู้ที่ติดตามการถ่ายทอดสดถึงตีหนึ่งคงจะเห็นการพยายามอยู่ในกรอบ ในร่องรอยด้วยการอดกลั้นอย่างเต็มที่ของ สมัคร สุนทรเวช (ที่ได้พลาดมาแล้วในวันเปิดอภิปราย)

ทั้ง นายกฯ สมัคร รองเลี้ยบ รองมิ่งขวัญ เข้าใจเกมการเมืองใหญ่ในภาพรวม รู้ว่าห้วงเวลานี้ต้องเล่นอย่าไร จักรภพ เสียอีกที่ภาพลักษณ์และการศึกษาเหมือนน่าจะเข้าใจ แต่เอาเข้าจริงไม่เข้าใจ

ไม่เห็นน่ากลัวเลย ขุนพลหนุ่มมือใหม่ ร้อนวิชา แต่หลักไม่แน่น แถมไม่เข้าใจยุทธศาสตร์ศึก .. อย่ามาเที่ยวเปิดหน้าท้ารบกับใครเลย !

ตรรกะของ จักรภพ ดูแปลก ๆ วันวาน อ้างถึงกลุ่มผู้จัดการ อ้างถึงจริยธรรมสื่อ อ้างข่าวสารบิดเบือนของสื่อเอกชน นำไปสู่ การบอกว่า จะทำสื่อภาครัฐให้เป็นมืออาชีพ จะไม่ล้วงควัก แทรกแซง แต่ให้ทำหน้าที่ตรงไปตรงมา

เมื่อเดือนมีนาคมปีก่อน บอกว่า สื่อทั้งหมดโดยเฉพาะภาครัฐไม่เป็นกลาง สื่อเอกชนไม่หนุน จึงก่อตั้งสื่อในฝันมืออาชีพที่เป็นกลาง(จริง ๆ ) ชื่อว่า พีทีวี. ขึ้นมา และก็ออกมาตั้งม็อบต่อสู้เพื่อเสรีสื่อ

ตีความได้ว่า สื่อมืออาชีพในฝันของรัฐมนตรีจักรภพ ก็คืออยากให้ กรมประชาสัมพันธ์ รวมทั้งอสมท. เป็นอย่าง พีทีวี. อย่างนั้นใช่หรือเปล่า !!?

มีประเด็นอีกมากมายเกี่ยวกับสื่อรัฐ-สื่อเอกชน และสื่อสารมวลชนในประเทศประชาธิปไตย ที่จะแลกเปลี่ยนไปยัง จักรภพ เพ็ญแข อย่างน้อยที่สุดตั้งรัฐธรรมนูญปี 2540 ที่ นปก. เรียกร้องกันนั้น กฎหมายได้รับรองสิทธิของผู้สื่อข่าวในภาครัฐให้มีเสรีในการนำเสนอโดยไม่อยู่ใต้บังคับของผู้ใด ไม่ว่ามันผู้นั้นเป็นอธิบดี ผู้ติดตามนักการเมือง หรือ นักการเมือง ...

ขอถาม จักรภพว่าได้ศึกษาประวัติศาสตร์สั้น ๆ เหล่านี้บ้างไหมว่า... เหตุใด สื่อรัฐยังถูกแทรกแซงไม่เป็นอิสระระหว่างปี 2544-2549 ?

จักรภพ จะได้เข้าใจและนำไปปรับปรุงสื่อในกำกับ มิให้พวกบ้าอำนาจที่ไหนมาแทรกแซงได้ต่อไป ..ให้ดีแถลงเรื่องราวปัญหาที่ผ่านมาให้ประชาชนทราบเพื่อจะได้รู้เท่าทัน และช่วยป้องกันมิให้เกิดเหตุแบบนี้ได้อีก

จักรภพ พูดถูกแล้ว สื่อสารมวลชนนั้นต้องเสรี แต่ที่ไม่ได้พูดคือ สื่อจะอยู่ได้เพราะความเชื่อถือจากประชาชน สังคมทั้งหมดจะกำกับสื่อไม่ใช่รัฐมนตรีหน้าไหน ถ้าไม่ดีมันก็ตายไปเอง สื่อจะเป็นผู้ช่วยสังคมในการตรวจสอบถ่วงดุลผู้ใช้อำนาจแทน และให้เสรีภาพและประชาธิปไตยในสังคมนั้น ๆ ดำรงอยู่ได้

แม้ จักรภพ ไม่ได้ตะวันตกจ๋าเหมือนเคย แต่น่าจะรู้เรื่องอดีตประธานาธิบดี ทอมัส เจฟเฟอร์สัน ผู้ร่างคำประกาศอิสรภาพอเมริกาไม่มากก็น้อยในฐานะคนจบรัฐศาสตร์มา .. ท่านพูดเมื่อปี 1787 ว่า

Were it left to me to decide whether we should have a government without newspapers, or newspapers without a government, I should not hesitate a moment to prefer the latter.

ถ้าให้เลือกระหว่าง มีรัฐบาลแต่ไม่มีหนังสือพิมพ์ กับ มีหนังสือพิมพ์แต่ไม่มีรัฐบาล .. (ผม)ขอเลือกประการหลัง !!

ถ้า ฯพณฯ ไม่เข้าใจวันหลังจะมาขยายความต่อให้.
กำลังโหลดความคิดเห็น