ปกติแล้วเมื่อเครื่องลงจอด คนส่วนใหญ่จะรีบรุดออกจากสนามบิน แต่สำหรับแอนโทนี เดลานี กลับยึดสนามบินแกตวิกเป็นบ้านถาวรนาน 3 ปี แม้ถูกลงทัณฑ์ไปหลายครั้ง
หนุ่มใหญ่ไร้บ้านวัย 43 ปี กิน นอน อาบน้ำในแกตวิก โดยจะยอมออกจากสนามบินก็ต่อเมื่อไปรับสวัสดิการว่างงานเท่านั้น
รูปแบบการใช้ชีวิตผิดประหลาดของเดลานี ไม่แตกต่างจากหนังดังของฮอลลีวูดเรื่องเดอะ เทอร์มินอล ที่ทอม แฮงก์ รับบทผู้อพยพที่ยึดสนามบินเจเอฟเคในนิวยอร์กเป็นบ้านหลังที่สอง
ศาลสูงเมืองเลเวส ประเทศอังกฤษ ได้รับรายงานว่าเดลานียึดอาคารผู้โดยสารทางทิศใต้ของแกตวิกเป็นบ้านตั้งแต่ปี 2004 หลังจากตกงานและไม่สามารถหางานใหม่ได้
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของสนามบินจับกุมเดลานีกว่า 30 ครั้ง และแม้ถูกห้ามเข้าสนามบินตั้งแต่เดือนมีนาคม 2005 เดลานียังคงแอบพาตัวเองกลับไปเช่นเดิม และแม้ถูกตัดสินว่าละเมิดคำสั่งควบคุมพฤติกรรมต่อต้านสังคมในปีถัดมา ส่งผลให้ถูกห้ามเข้าแกตวิกนาน 5 ปีก็ตาม
ครั้งหนึ่งในสามครั้งที่เดลานีถูกจับเพราะละเมิดคำสั่งดังกล่าว เขาต้องนอนในมุ้งสายบัวถึง 95 วัน แต่ทันทีที่ได้รับอิสระภาพ เดลานีไม่รีรอที่จะกลับไปที่สนามบินทันที
สัปดาห์นี้ เดลานียอมรับกับศาลว่าละเมิดคำสั่งควบคุมพฤติกรรมต่อต้านสังคมอีกหน และผู้พิพากษาริชาร์ด เฮย์เวิร์ด สั่งให้กักตัวเขาไว้จนถึงวันที่ 10 เดือนหน้า เพื่อรอฟังคำตัดสิน เพราะเชื่อว่าหากปล่อยตัว เดลานีจะพุ่งตรงกลับไปแกตวิกเหมือนเคย
“มีที่มากมายที่จะได้อาบน้ำ แต่เขาวนเวียนกลับไปแกตวิกตลอดเวลา ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องประหลาดมาก”
กระนั้น ผู้พิพากษาปฏิเสธคำแนะนำให้ส่งเดลานีเข้าคุก แต่สั่งให้เจ้าหน้าที่ทัณฑ์บนหาที่พักถาวรให้จำเลยแทน
“ถ้าเชื่อข้อมูลในหนังสือพิมพ์ฉบับวันอาทิตย์ที่ผ่านมาได้ ผมว่าประชากรในคุกขณะนี้ถึงจุดวิกฤตแล้ว ทำไมเราจะต้องสร้างปัญหาเพิ่มกันอีก การส่งชายผู้นี้เข้าเรือนจำเพียงเพราะเข้าไปอาบน้ำในสนามบินน่ะหรือ ผมว่ามันออกจะน่าขันไปสักหน่อย
“เราน่าจะช่วยอะไรเข้าได้ หรือจะปล่อยให้เหตุการณ์นี้ดำเนินต่อไป”
เดลานีในชุดสะอาดสะอ้าน ให้การต่อศาลว่าเขาไม่ได้มีปัญหาทางจิต และไม่ได้ติดยาหรือเหล้า
ปีเตอร์ ไนต์ ทนายจำเลยแถลงว่า งานเก่าของเดลานีในบักกิงแฮมเชียร์มีรายได้ดีแถมมีที่พักให้ แต่หลังจากถูกปลดจากตำแหน่งเชฟ เขาย้ายกลับไปซัสเซ็กซ์ แต่ไม่สามารถหางานทำได้โดยปราศจากที่อยู่ถาวร
“เขาเริ่มเข้าไปใช้ห้องน้ำในสนามบินหลังจากหมดหนทาง และติดอยู่ในวังวนของความอับโชคนับแต่นั้น เมื่อถูกปล่อยจากการกักตัวในสภาพไม่มีที่ไป เขาจึงต้องกลับไปสนามบินเหมือนเดิม แต่เมื่อถูกจับได้ เขาก็จะถูกนำไปกักตัวอีกครั้งและเป็นเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ
“เขาเพียงใช้สนามบินเพื่อทำความสะอาดตัวเอง และรอดพ้นจากอากาวหนาวเย็น ไม่เคยไปสร้างความเดือดร้อนรำคาญใจให้ใคร เขากระตือรือร้นที่จะหางานทำและหาที่อยู่ แต่สำหรับคนที่ตกอยู่ในสถานการณ์เช่นเขา การพูดย่อมง่ายกว่าการทำ”
พอล ยัง ผู้ก่อตั้งมูลนิธิผู้เร่ร่อนในไบรตัน เสริมว่า “เป็นเรื่องเศร้าที่รู้ว่ามีคนที่รู้สึกว่าการนอนในสนามบินเป็นทางเลือกเดียวที่มี แต่ก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ เมื่อความหนาวเย็นเริ่มปกคลุมท้องถนน ผมแค่แปลกใจที่เขาต้องอยู่ในสภาพนี้มาเป็นปีเท่านั้น”
หนุ่มใหญ่ไร้บ้านวัย 43 ปี กิน นอน อาบน้ำในแกตวิก โดยจะยอมออกจากสนามบินก็ต่อเมื่อไปรับสวัสดิการว่างงานเท่านั้น
รูปแบบการใช้ชีวิตผิดประหลาดของเดลานี ไม่แตกต่างจากหนังดังของฮอลลีวูดเรื่องเดอะ เทอร์มินอล ที่ทอม แฮงก์ รับบทผู้อพยพที่ยึดสนามบินเจเอฟเคในนิวยอร์กเป็นบ้านหลังที่สอง
ศาลสูงเมืองเลเวส ประเทศอังกฤษ ได้รับรายงานว่าเดลานียึดอาคารผู้โดยสารทางทิศใต้ของแกตวิกเป็นบ้านตั้งแต่ปี 2004 หลังจากตกงานและไม่สามารถหางานใหม่ได้
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของสนามบินจับกุมเดลานีกว่า 30 ครั้ง และแม้ถูกห้ามเข้าสนามบินตั้งแต่เดือนมีนาคม 2005 เดลานียังคงแอบพาตัวเองกลับไปเช่นเดิม และแม้ถูกตัดสินว่าละเมิดคำสั่งควบคุมพฤติกรรมต่อต้านสังคมในปีถัดมา ส่งผลให้ถูกห้ามเข้าแกตวิกนาน 5 ปีก็ตาม
ครั้งหนึ่งในสามครั้งที่เดลานีถูกจับเพราะละเมิดคำสั่งดังกล่าว เขาต้องนอนในมุ้งสายบัวถึง 95 วัน แต่ทันทีที่ได้รับอิสระภาพ เดลานีไม่รีรอที่จะกลับไปที่สนามบินทันที
สัปดาห์นี้ เดลานียอมรับกับศาลว่าละเมิดคำสั่งควบคุมพฤติกรรมต่อต้านสังคมอีกหน และผู้พิพากษาริชาร์ด เฮย์เวิร์ด สั่งให้กักตัวเขาไว้จนถึงวันที่ 10 เดือนหน้า เพื่อรอฟังคำตัดสิน เพราะเชื่อว่าหากปล่อยตัว เดลานีจะพุ่งตรงกลับไปแกตวิกเหมือนเคย
“มีที่มากมายที่จะได้อาบน้ำ แต่เขาวนเวียนกลับไปแกตวิกตลอดเวลา ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องประหลาดมาก”
กระนั้น ผู้พิพากษาปฏิเสธคำแนะนำให้ส่งเดลานีเข้าคุก แต่สั่งให้เจ้าหน้าที่ทัณฑ์บนหาที่พักถาวรให้จำเลยแทน
“ถ้าเชื่อข้อมูลในหนังสือพิมพ์ฉบับวันอาทิตย์ที่ผ่านมาได้ ผมว่าประชากรในคุกขณะนี้ถึงจุดวิกฤตแล้ว ทำไมเราจะต้องสร้างปัญหาเพิ่มกันอีก การส่งชายผู้นี้เข้าเรือนจำเพียงเพราะเข้าไปอาบน้ำในสนามบินน่ะหรือ ผมว่ามันออกจะน่าขันไปสักหน่อย
“เราน่าจะช่วยอะไรเข้าได้ หรือจะปล่อยให้เหตุการณ์นี้ดำเนินต่อไป”
เดลานีในชุดสะอาดสะอ้าน ให้การต่อศาลว่าเขาไม่ได้มีปัญหาทางจิต และไม่ได้ติดยาหรือเหล้า
ปีเตอร์ ไนต์ ทนายจำเลยแถลงว่า งานเก่าของเดลานีในบักกิงแฮมเชียร์มีรายได้ดีแถมมีที่พักให้ แต่หลังจากถูกปลดจากตำแหน่งเชฟ เขาย้ายกลับไปซัสเซ็กซ์ แต่ไม่สามารถหางานทำได้โดยปราศจากที่อยู่ถาวร
“เขาเริ่มเข้าไปใช้ห้องน้ำในสนามบินหลังจากหมดหนทาง และติดอยู่ในวังวนของความอับโชคนับแต่นั้น เมื่อถูกปล่อยจากการกักตัวในสภาพไม่มีที่ไป เขาจึงต้องกลับไปสนามบินเหมือนเดิม แต่เมื่อถูกจับได้ เขาก็จะถูกนำไปกักตัวอีกครั้งและเป็นเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ
“เขาเพียงใช้สนามบินเพื่อทำความสะอาดตัวเอง และรอดพ้นจากอากาวหนาวเย็น ไม่เคยไปสร้างความเดือดร้อนรำคาญใจให้ใคร เขากระตือรือร้นที่จะหางานทำและหาที่อยู่ แต่สำหรับคนที่ตกอยู่ในสถานการณ์เช่นเขา การพูดย่อมง่ายกว่าการทำ”
พอล ยัง ผู้ก่อตั้งมูลนิธิผู้เร่ร่อนในไบรตัน เสริมว่า “เป็นเรื่องเศร้าที่รู้ว่ามีคนที่รู้สึกว่าการนอนในสนามบินเป็นทางเลือกเดียวที่มี แต่ก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ เมื่อความหนาวเย็นเริ่มปกคลุมท้องถนน ผมแค่แปลกใจที่เขาต้องอยู่ในสภาพนี้มาเป็นปีเท่านั้น”