คณะกรรมการสรรหา ส.ว.โหวตลงมติ 4 รอบได้ ส.ว.ระบบสรรหาเรียบร้อยแล้ว 74 คน ก่อนส่งให้ กกต.รับทราบ รับอาจมีเสียงวิจารณ์หลังเปิดเผยชื่อ แต่มั่นใจไม่ขี้เหร่ สังคมยอมรับได้ เผยมีผู้หญิง 8 ผู้พิการ 1 ระบุ สนช.สายสื่อติดเข้าไปเป็น ส.ว.สรรหาด้วย
นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แถลงหลังการประชุมคณะกรรมการสรรหาส.ว. ว่า ที่ประชุมได้พิจารณาสรรหาส.ว. ในภาคเอกชนได้ 15 คนแล้ว โดยคณะกรรมการได้พิจารณาข้อมูลอย่างละเอียดรอบคอบ มีการนำเอกสารข้อมูลต่างๆ มาประกอบการพิจารณา ซึ่งคณะกรรมการ ได้ตั้งข้อสังเกตในหลายประเด็นก่อนการโหวต ทั้งเรื่องการเป็นสมาชิกพรรคการเมือง และข้อมูลทางอาชญากรรม รวมถึงการเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และเรื่องสัดส่วนทางเพศที่รัฐธรรมนูญระบุว่าต้องเปิดโอกาสให้เกิดความหลากหลาย
ทั้งนี้ฝ่ายเลขานุการฯ ได้เสนอสัดส่วนของผู้ถูกเสนอชื่อที่มีกว่า 1,000 คน ว่าสัดส่วนระหว่างชายหญิงน่าจะประมาณ 6 ต่อ 1 แต่ทั้งนี้ก็ไม่ได้หมายความว่า การพิจารณาของคณะกรรมการจะต้องยึดตามประเด็นดังกล่าวเป็นเรื่องหลัก ซึ่งจะดูที่คุณสมบัติของผู้ถูกเสนอชื่อเป็นหลักมากกว่า โดยในการลงมติเลือกมีการโหวตถึง 4 ครั้ง ซึ่งถือว่าใช้เวลานาน เนื่องจากกรรมการเห็นไม่ตรงกัน แต่ก็ได้ ส.ว.สรรหา ครบแล้ว 74 คน โดยมีสัดส่วนของสุภาพสตรีได้รับการคัดเลือกเข้าไปในสัดส่วนที่ใกล้เคียงกับที่ตั้งไว้ และมีผู้พิการที่ถือว่าเป็นผู้ด้อยโอกาสได้รับการสรรหาด้วย แต่มีจำนวนไม่มาก เพราะมีการเสนอรายชื่อเข้ามาน้อย นอกจากนี้ยังมีอดีตสนช. นักวิชาการ นักธุรกิจ อดีตข้าราชการ ตัวแทนศาสนาได้รับการคัดเลือกด้วย ถือว่า ส.ว.สรรหาที่ได้รับเลือกมีหลากหลาย
สำหรับรายชื่อ ส.ว.ที่ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการส่วนใหญ่เท่าที่ดู รายชื่อแล้วเห็นว่าเป็นบุคคลที่มีความรู้ ความสามารถ และเป็นที่ยอมรับของสังคม ซึ่งมั่นใจว่า ว่าที่ ส.ว.จะไม่ขี้เหร่อย่างแน่นอน และสังคมจะยอมรับได้
"อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการสรรหาก็พูดคุยกันว่าหลังจากที่ประกาศรายชื่อแล้ว คงมีเสียงวิจารณ์แน่นอน แต่ก็ยืนยันว่าได้พิจารณาอย่างรอบรอบ อีกทั้งยังมีการส่งข้อมูลไปตรวจสอบกับองค์กรต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้คณะกรรมการสรรหาทั้ง 7 คน ก็ไม่ได้ทำงานภายใต้ภาวะกดดันใดๆ ทุกคนใช้ความรู้ ความสามารถดุลยพินิจ และความเป็นอิสระในการทำหน้าที่"
ทั้งนี้ในวันนี้ ( 18 ก.พ.) นายวิรัช ลิ้มวิชัย ประธานศาลฏีกา ในฐานะประธานคณะกรรมการสรรหาจะนัดประชุม เพื่อตรวจสอบความเรียบร้อย การเรียงลำดับตัวอักษร และเรียงลำดับรายภาค ในเวลา 13.00 น. จากนั้นจะนำรายชื่อส่งมอบให้ประธาน กกต. เพื่อนำเข้าที่ประชุมกกต.เพื่อรับทราบ แต่คงไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้ เมื่อที่ประชุมกกต.เห็นชอบแล้ว จะนำรายชื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งถือว่าสิ้นสุดกระบวนการแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรรมการสรรหาเกรงจะถูกวิจารณ์ในประเด็นใดมากที่สุด นายสุทธิพล กล่าวว่า คงเป็นประเด็นที่กรรมการสรรหาพิจารณาชี้ชะตาสรรหาส.ว.กันเพียง 7 คน แต่ก็ถือว่าทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย อย่างไรก็ตามในระหว่างที่มีการ โหวตคัดเลือกส.ว.ตนในฐานะเลขานุการกรรมฯก็รวบรวมข้อมูลการโหวตคะแนนไว้อย่างละเอียด ใครลงคะแนนให้ใครอย่างไร มีมติกี่รอบ ส่วนจะเปิดเผยได้หรือไม่ ต้องขึ้นอยู่กับที่ประชุมกรรมการสรรหา โดยต้องดูพ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารของราชการ และที่สำคัญต้องดูว่าการเปิดเผยข้อมูลจะไปกระทบต่อบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อ แต่ไม่ได้รับเลือกหรือไม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการผู้ได้รับการสรรหาจากคณะกรรมการสรรหา เมื่อวันที่ 16 ก.พที่ผ่านมาหากไม่รวมภาคเอกชน พบว่ามีผู้หญิงได้รับเลือกเข้ามา 8 คนแล้ว และยังมีผู้พิการได้รับการสรรหาเข้ามาอีก 1 คน จากผู้ที่เข้ารับการสรรหา3 คน นอกจากนี้ยังมีสนช.สายสื่อมวลชนได้รับการสรรหาเข้ามาด้วย
นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แถลงหลังการประชุมคณะกรรมการสรรหาส.ว. ว่า ที่ประชุมได้พิจารณาสรรหาส.ว. ในภาคเอกชนได้ 15 คนแล้ว โดยคณะกรรมการได้พิจารณาข้อมูลอย่างละเอียดรอบคอบ มีการนำเอกสารข้อมูลต่างๆ มาประกอบการพิจารณา ซึ่งคณะกรรมการ ได้ตั้งข้อสังเกตในหลายประเด็นก่อนการโหวต ทั้งเรื่องการเป็นสมาชิกพรรคการเมือง และข้อมูลทางอาชญากรรม รวมถึงการเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และเรื่องสัดส่วนทางเพศที่รัฐธรรมนูญระบุว่าต้องเปิดโอกาสให้เกิดความหลากหลาย
ทั้งนี้ฝ่ายเลขานุการฯ ได้เสนอสัดส่วนของผู้ถูกเสนอชื่อที่มีกว่า 1,000 คน ว่าสัดส่วนระหว่างชายหญิงน่าจะประมาณ 6 ต่อ 1 แต่ทั้งนี้ก็ไม่ได้หมายความว่า การพิจารณาของคณะกรรมการจะต้องยึดตามประเด็นดังกล่าวเป็นเรื่องหลัก ซึ่งจะดูที่คุณสมบัติของผู้ถูกเสนอชื่อเป็นหลักมากกว่า โดยในการลงมติเลือกมีการโหวตถึง 4 ครั้ง ซึ่งถือว่าใช้เวลานาน เนื่องจากกรรมการเห็นไม่ตรงกัน แต่ก็ได้ ส.ว.สรรหา ครบแล้ว 74 คน โดยมีสัดส่วนของสุภาพสตรีได้รับการคัดเลือกเข้าไปในสัดส่วนที่ใกล้เคียงกับที่ตั้งไว้ และมีผู้พิการที่ถือว่าเป็นผู้ด้อยโอกาสได้รับการสรรหาด้วย แต่มีจำนวนไม่มาก เพราะมีการเสนอรายชื่อเข้ามาน้อย นอกจากนี้ยังมีอดีตสนช. นักวิชาการ นักธุรกิจ อดีตข้าราชการ ตัวแทนศาสนาได้รับการคัดเลือกด้วย ถือว่า ส.ว.สรรหาที่ได้รับเลือกมีหลากหลาย
สำหรับรายชื่อ ส.ว.ที่ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการส่วนใหญ่เท่าที่ดู รายชื่อแล้วเห็นว่าเป็นบุคคลที่มีความรู้ ความสามารถ และเป็นที่ยอมรับของสังคม ซึ่งมั่นใจว่า ว่าที่ ส.ว.จะไม่ขี้เหร่อย่างแน่นอน และสังคมจะยอมรับได้
"อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการสรรหาก็พูดคุยกันว่าหลังจากที่ประกาศรายชื่อแล้ว คงมีเสียงวิจารณ์แน่นอน แต่ก็ยืนยันว่าได้พิจารณาอย่างรอบรอบ อีกทั้งยังมีการส่งข้อมูลไปตรวจสอบกับองค์กรต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้คณะกรรมการสรรหาทั้ง 7 คน ก็ไม่ได้ทำงานภายใต้ภาวะกดดันใดๆ ทุกคนใช้ความรู้ ความสามารถดุลยพินิจ และความเป็นอิสระในการทำหน้าที่"
ทั้งนี้ในวันนี้ ( 18 ก.พ.) นายวิรัช ลิ้มวิชัย ประธานศาลฏีกา ในฐานะประธานคณะกรรมการสรรหาจะนัดประชุม เพื่อตรวจสอบความเรียบร้อย การเรียงลำดับตัวอักษร และเรียงลำดับรายภาค ในเวลา 13.00 น. จากนั้นจะนำรายชื่อส่งมอบให้ประธาน กกต. เพื่อนำเข้าที่ประชุมกกต.เพื่อรับทราบ แต่คงไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้ เมื่อที่ประชุมกกต.เห็นชอบแล้ว จะนำรายชื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งถือว่าสิ้นสุดกระบวนการแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรรมการสรรหาเกรงจะถูกวิจารณ์ในประเด็นใดมากที่สุด นายสุทธิพล กล่าวว่า คงเป็นประเด็นที่กรรมการสรรหาพิจารณาชี้ชะตาสรรหาส.ว.กันเพียง 7 คน แต่ก็ถือว่าทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย อย่างไรก็ตามในระหว่างที่มีการ โหวตคัดเลือกส.ว.ตนในฐานะเลขานุการกรรมฯก็รวบรวมข้อมูลการโหวตคะแนนไว้อย่างละเอียด ใครลงคะแนนให้ใครอย่างไร มีมติกี่รอบ ส่วนจะเปิดเผยได้หรือไม่ ต้องขึ้นอยู่กับที่ประชุมกรรมการสรรหา โดยต้องดูพ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารของราชการ และที่สำคัญต้องดูว่าการเปิดเผยข้อมูลจะไปกระทบต่อบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อ แต่ไม่ได้รับเลือกหรือไม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการผู้ได้รับการสรรหาจากคณะกรรมการสรรหา เมื่อวันที่ 16 ก.พที่ผ่านมาหากไม่รวมภาคเอกชน พบว่ามีผู้หญิงได้รับเลือกเข้ามา 8 คนแล้ว และยังมีผู้พิการได้รับการสรรหาเข้ามาอีก 1 คน จากผู้ที่เข้ารับการสรรหา3 คน นอกจากนี้ยังมีสนช.สายสื่อมวลชนได้รับการสรรหาเข้ามาด้วย
