ศูนย์ข่าวภูเก็ต -ทุนไทย-ต่างชาติยังขนเงินมาลงทุนในภูเก็ต ตลอดปี 2550 ขอจดทะเบียนนิติบุคคลกว่า 1,300 ราย ทุนกว่า 3,400 ล้านบาท ธุรกิจเรียลเอสเตทและท่องเที่ยวนำโด่ง เผย 70% เป็นการร่วมลงทุนระหว่างไทยกับต่างชาติ
นายวีระชัย ตันติวัฒนวัลลภ หัวหน้าสำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้าจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยถึงการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทนิติบุคคล เพื่อเข้ามาลงทุนในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตในรอบปี 2550 ว่า จากสถิติการจดทะเบียนนิติบุคคลตั้งแต่เดือนมกราคม-ธันวาคม 2550 ของสำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้าจังหวัดภูเก็ต ปรากฏว่าตลอดปีที่ผ่านมา มีนักลงทุนมาจดทะเบียนนิติบุคคลตั้งบริษัทและห้างหุ้นส่วนใหม่ทั้งสิ้น 1,394 แห่ง แบ่งเป็นจดทะเบียนบริษัท 1,067 แห่ง ห้างหุ้นส่วนจำกัด 327 แห่ง เงินทุนจดทะเบียนทั้งสิ้น 3,408,965,100 บาท มีการยกเลิกกิจการไปทั้งสิ้น 319 ล้านบาท
ทำให้ขณะนี้จังหวัดภูเก็ตมีบริษัทที่ดำเนินธุรกิจอยู่ทั้งสิ้น 10,152 แห่ง ห้างหุ้นส่วนจำกัด 3,468 แห่ง ห้างหุ้นส่วนสามัญบุคคล 17 แห่ง รวมทั้งสิ้น 13,637 แห่ง
นายวีระชัย กล่าวอีกว่า สาเหตุที่มีการจดทะเบียนนิติบุคคลในภูเก็ตเป็นจำนวนมาก เนื่องจากภูเก็ตยังเป็นที่สนใจของนักลงทุนไทยและต่างชาติในการเข้ามาลงทุน เพราะมองเห็นศักยภาพและการคืนทุนที่รวดเร็ว โดยธุรกิจที่มีการจดทะเบียนดำเนินการมาก 5 อันดับแรกในภูเก็ต ประกอบด้วย ธุรกิจเรียลเอสเตท มาเป็นอันดับ 1 ธุรกิจด้านการท่องเที่ยวทุกประเภท ทั้งดำน้ำ จำหน่ายตั๋วเครื่องบิน ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างที่รองรับการเติบโตของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจจัดสรรที่ดิน ที่เกิดขึ้นเป็นจำนวนมากและเกือบจะทุกพื้นที่ในภูเก็ต และธุรกิจรักษาความปลอดภัยก็เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่เกิดขึ้นมากในขณะนี้ เพื่อรองรับการเกิดขึ้นของบ้านจัดสรร บ้านหรู ศูนย์การค้า เป็นต้น
สำหรับทุนจดทะเบียน จะเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดไม่ต่ำกว่า 2 ล้านบาท เพราะตามระเบียบกฎหมายคนต่างชาติที่จะขอใบอนุญาตทำงานได้นั้นจะต้องมีการจัดตั้งบริษัทด้วยทุนจดทะเบียนไม่ต่ำกว่า 2 ล้านบาทขึ้นไปจึงจะจ้างคนต่างด้าวได้ และการจดทะเบียนในปัจจุบันจะจดขึ้นมาเพื่อขอใบอนุญาตทำงานโดยไม่ได้ประกอบกิจการไม่ได้ จะต้องแจ้งยกเลิกทันที และทุนจดทะเบียนจะมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับกิจการที่แจ้งดำเนินการ
นายวีระชัย กล่าวด้วยว่า การจดทะเบียนบริษัทไม่ต่ำกว่า 70% เป็นการร่วมลงทุนระหว่างคนไทยกับคนต่างชาติโดยคนไทยถือหุ้น 51% และคนต่างชาติถือหุ้น 49% และขณะนี้ได้มีการออกระเบียบการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทที่ป้องกันไม่ให้คนไทยเป็นนอมินีให้แก่คนต่างชาติ โดยกำหนดให้คนไทยจะต้องมีหนังสือและหลักฐานในการลงทุนจริงๆ มาแสดงด้ว ยหรือไม่ก็ต้องแสดงบัญชีธนาคารด้วย โดยคนต่างชาติที่เข้ามาลงทุน ส่วนใหญ่จะอยู่ในกลุ่มเรียลเอสเตทและท่องเที่ยว ซึ่งมาจากทั่วโลก แต่ที่มีการลงทุนสูงจะเป็นกลุ่มอังกฤษ เยอรมนี จีน เกาหลี และอิตาลี เป็นต้น
ส่วนแนวโน้มการขอจดทะเบียนในปี 2551 นายวีระชัย กล่าวว่า การจดทะเบียนนิติบุคคลในภูเก็ตปีนี้คาดว่าไม่น่าจะต่ำกว่าปีที่แล้ว เพราะภูเก็ตยังเป็นพื้นที่เป้าหมาย ที่นักลงทุนทั้งไทยและต่างชาติต้องการเข้ามาลงทุน และโดยเฉพาะธุรกิจเรียลเอสเตท และท่องเที่ยวมีการขยายตัวสูงมาก