ศูนย์ข่าวศรีราชา -กลุ่มซีวิล แอนด์ อินทีเรีย เนรมิตทำเลทอง 61 ไร่ติดเมืองพัทยา โดยทุ่ม 600 ล้านบาทผุด 3 โครงการบ้านหรูในเครือ "พรีม่ากรุ๊ป" หวังจับตลาดผู้อยู่อาศัยในระดับบน เชื่อศักยภาพและการขยายตัวรวมทั้งกำลังซื้อในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เมืองพัทยายังมีสูง มั่นใจ 2โครงการแรกทั้งพรีม่าฮิลล์และพรีม่าโฮม จะปิดยอดขายได้ในเวลา 6 เดือน ขณะที่การดำเนินงานก่อสร้างทั้งหมดจะแล้วเสร็จภายใน 2 ปี
นายเอกทรงลาภ ปภพชัยสิน กรรมการผู้จัดการบริษัท ซีวิล แอนด์ อินทีเรีย จำกัด เจ้าของโครงการหมู่บ้านหรูในเครือพรีม่ากรุ๊ป ซึ่งเปิดดำเนินการในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต เผยถึงการขยายธุรกิจเข้ามาในเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรีว่า เป็นเพราะมองเห็นศักยภาพและการขยายตัวของตลาดที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะกลุ่มผู้อยู่อาศัยในระดับบนของเมืองพัทยาที่ยังมีอยู่สูง
ดังนั้น จึงทุ่มงบประมาณถึง 600 ล้านบาท เนรมิต 3 โครงการบ้านระดับหรู ประกอบด้วย โครงการพรีม่าลากูน พรีม่าฮิลล์ และพรีม่าโฮมว่า ในทำเลติดธรรมชาติที่สวยงาม ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ตำบลห้วยใหญ่ ใกล้เมืองพัทยา อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี ภายใต้พื้นที่รวม 61 ไร่ รองรับกำลังซื้อของตลาดระดับบน
โครงการพรีม่าลากูน จะใช้เนื้อที่ 28 ไร่ เพื่อก่อสร้างบึงขนาดใหญ่ 5 ไร่ และกันพื้นที่อีกส่วนสำหรับจัดสร้างทะเลสาบ 2 แห่ง ขณะที่รูปแบบการก่อสร้างเน้นความเป็นธรรมชาติ สะดวกสบายและทันสมัย โครงการนี้จะมีทั้งสิ้น 27 ยูนิต ส่วนโครงการพรีม่าโฮม มีจำนวน 37 ยูนิตในพื้นที่รวม 15 ไร่ และพรีม่าฮิลล์ มีจำนวน 57 ยูนิต ในพื้นที่รวม 18 ไร่ ซึ่งบ้านจัดสรรทั้ง 3 โครงการมีพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 68 ตารางวา เรื่อยไปจนถึง 1 ไร่ ราคาเริ่มต้น 4.2 -40 ล้านบาท
ด้านนางอรัญญา อิสสระอานัติพงษ์ ผู้อำนวยการโครงการพรีม่ากรุ๊ป ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ทั้ง 3 โครงการมีจุดขายที่แตกต่างเพื่อสนองตอบความพึงพอใจของลูกค้า สำหรับจุดเด่นของพรีม่ากรุ๊ป อยู่ที่การให้ความสำคัญต่อผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ ลักษณะการออกแบบและดีไซน์ที่ทันสมัย รวมทั้งพื้นที่ตั้งโครงการจะใช้ที่ดินแปลงใหญ่ติดธรรมชาติที่มีความสวยงาม หลีกหนีสภาพแวดล้อมที่แออัดแต่ไม่ไกลจากตัวเมือง โดยคาดว่าประมาณปลายปี 2553 ทั้ง 3 โครงการจะดำเนินการแล้วเสร็จอย่างเป็นรูปธรรม
"ขณะนี้เราเปิดจองทั้ง 3 โครงการแล้ว พบว่าได้รับการตอบรับจากลูกค้าค่อนข้างดี เพราะเราทำการตลาดกับกลุ่มโบรกเกอร์ และตัวแทนเอเยนซีต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่จะดูแลลูกค้าระดับพรีเมี่ยม และเอ็กซ์คลูซีฟ ประกอบกับการบอกต่อแบบปากต่อปากของลูกค้าเดิม ทำให้มั่นใจว่าโครงการพรีม่ากรุ๊ปจะไปได้สวย และในเวลาประมาณ 6 เดือน น่าจะปิดการขายในส่วนโครงการพรีม่าโฮม และพรีม่าฮิลล์ได้อย่างแน่นอน" นางอรัญญา กล่าว
ขณะที่ นายกฤษนัย ส่งถาวร อีกหนึ่งในผู้บริหารโครงการ กล่าวถึงที่มาของพรีม่ากรุ๊ปว่า เกิดจากความคลุกคลีในธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง และธุรกิจอสังหาริม ทรัพย์มานาน โดยที่ผ่านมาบริษัทเคยดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดภูเก็ต และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ขณะที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์ของเมืองพัทยา ถือเป็นตลาดที่น่าจับตามองและมีความท้าทาย เพราะแตกต่างจากตลาดที่เคยทำมา แต่เชื่อแน่ว่าการตอบรับของลูกค้าจะดีเนื่องจากตลาดบ้านจัดสรรในพัทยายังมีศักยภาพ ลูกค้าเป็นกลุ่ม ที่มีกำลังซื้อสูง โดยปัจจุบันลูกค้าโครงการเป็นกลุ่มนักธุรกิจชาวต่างชาติ และคนไทยที่มีกำลังทุน รวมถึงกลุ่มลูกค้าระดับเอ็กซ์คลูซีฟ
“ส่วนการพัฒนาระบบสาธารณูปโภค เพื่อรองรับการขยายตัวของเมืองพัทยานั้น พรีม่ากรุ๊ป ได้วางแผนไว้ล่วงหน้า เพราะจากการสำรวจข้อมูลทางการลงทุนพบว่า เมืองพัทยาประสบปัญหาน้ำใช้ขาดแคลน จึงติดตั้งถังสำรองน้ำขนาดความจุ 1,600-2,000 ลิตรให้ทุกยูนิต นอกจากนี้ยังดำเนินการในเรื่องของระบบกักเก็บน้ำสำรองไว้อีกขั้นตอนหนึ่ง เพื่อให้ลูกค้าหมดกังวลในเรื่องปัญหาน้ำขาดแคลน” นายกฤษนัย กล่าว
