"ที่รัก สตูดิโอ" ครวญ เศรษฐกิจย่ำแย่ ฉุดรายได้ปีก่อนไม่ตามเป้า คู่แต่งงานใช้งบกับการแต่งงานลดลง ล่าสุดปีนี้ชูกลยุทธ์ เวดดิ้ง แพลนเนอร์ หวังเป็นตัวเรียกรายได้เข้ามาอีกทาง เชื่อดึงคู่รักใช้บริการเพิ่มขึ้น 20% จาก 500 คู่ ในแต่ละเดือนของปีก่อน
นายแอนโทนี่ เมง กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ที่รัก สตูดิโอ จำกัด เปิดเผยว่า เศรษฐกิจปีที่ผ่านมา ยอมรับว่าไม่ค่อยดีเท่าที่ควร ส่งผลให้รายได้รวมปิดที่ประมาณ 100 ล้านบาท ซึ่งเป็นยอดที่ไม่เป็นไปตามเป้า เนื่องจากพฤติกรรมคู่แต่งงานในปีก่อน มีการจำกัดค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง เฉลี่ยอยู่ที่ 30,000-40,000 บาท ขณะที่ปีนี้มองว่าเศรษฐกิจน่าจะดีขึ้น หรือลูกค้ามีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นเป็น 50,000 บาทแทน
ส่งผลให้ปีนี้บริษัทฯเตรียมจัดแพกเกจการแต่งงารรองรับคู่แต่งงานไว้หลายรูปแบบ เช่น แพกเกจออนลี่วัน ราคา 99,000 บาท เน้นรูปแบบการแต่งงานของคู่แต่งงานที่มีไลฟ์สไตล์มากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการตีกอล์ฟ ถ่ายภาพ ดังนั้นแต่ละแพกเกจที่จัดขึ้น ทางบริษัทฯจึงได้หาพันธมิตรเข้าร่วมากมาย เช่น เอไอเอส, สปา, รองเท้าเจ้าสาวเซลีน่า และ Pasaya ภายใต้งบประมาณทั้งหมดที่วางไว้ในปีนี้ที่ 5 ล้านบาท
นอกจากนี้บริษัทฯยังได้ชูกลยุทธ์ เวดดิ้ง แพลนเนอร์ ให้กับคู่แต่งงานที่เข้ามาใช้บริการด้วย ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่จะช่วยให้คู่แต่งงานได้รับความสะดวกในการจัดงานแต่งงานครบทุกขั้นตอน คาดว่าจะได้รับการตอบที่ดีจากลูกค้า หรือทำให้บริษัทฯมีลูกค้าเพิ่มขึ้นอีก 20% จาก 500 คู่ในแต่ละเดือน
ล่าสุดปีนี้บริษัทฯมีแผนที่จะปรับปรุงที่รัก สตูดิโอ สาขาทองหล่อ ที่มีอยู่ 2 สาขา โดยจะปรับให้เป็น 1 สาขา ซึ่งจะใช้เป็นสตูดิโอ หน้าร้านของทางที่รัก สตูดิโอ ทั้งหมดที่มีอยู่ ภายใต้พื้นที่กว่า 1,000 ตารางเมตร ซึ่งใช้งบประมาณในการปรับปรุงไปกว่า 5 ล้านบาท ภายในเดือนมีนาคมนี้ จะเปิดโอเพ่นนิ่ง อย่างเป็นทางการได้
อย่างไรก็ตาม จากที่มีการปรับสาขาทองหล่อเหลือเพียง 1 สาขา ส่งผลให้ ที่รัก สตูดิโอ ขณะนี้มีเพียง 4 สาขา เท่านั้น คือ ทองหล่อ บางแค รามอินทรา และร่มเกล้า ส่วนสาขาต่างจังหวัดนั้น ยังคงชะลอแผนต่อไป ซึ่งต้องดูสถานการณ์ทางเศรษฐกิจก่อน จึงจะนำแผนที่จะเปิดให้ได้จังหวัดละ 1 สาขา รวมถึงหัวเมืองใหญ่ กลับมาพิจารณาอีกครั้ง หรือทั้งนี้อาจจะเห็นการขยายสาขาไปยังต่างจังหวัดได้ในช่วงสิ้นปีนิ้
นายแอนโทนี่ เมง กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ที่รัก สตูดิโอ จำกัด เปิดเผยว่า เศรษฐกิจปีที่ผ่านมา ยอมรับว่าไม่ค่อยดีเท่าที่ควร ส่งผลให้รายได้รวมปิดที่ประมาณ 100 ล้านบาท ซึ่งเป็นยอดที่ไม่เป็นไปตามเป้า เนื่องจากพฤติกรรมคู่แต่งงานในปีก่อน มีการจำกัดค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง เฉลี่ยอยู่ที่ 30,000-40,000 บาท ขณะที่ปีนี้มองว่าเศรษฐกิจน่าจะดีขึ้น หรือลูกค้ามีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นเป็น 50,000 บาทแทน
ส่งผลให้ปีนี้บริษัทฯเตรียมจัดแพกเกจการแต่งงารรองรับคู่แต่งงานไว้หลายรูปแบบ เช่น แพกเกจออนลี่วัน ราคา 99,000 บาท เน้นรูปแบบการแต่งงานของคู่แต่งงานที่มีไลฟ์สไตล์มากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการตีกอล์ฟ ถ่ายภาพ ดังนั้นแต่ละแพกเกจที่จัดขึ้น ทางบริษัทฯจึงได้หาพันธมิตรเข้าร่วมากมาย เช่น เอไอเอส, สปา, รองเท้าเจ้าสาวเซลีน่า และ Pasaya ภายใต้งบประมาณทั้งหมดที่วางไว้ในปีนี้ที่ 5 ล้านบาท
นอกจากนี้บริษัทฯยังได้ชูกลยุทธ์ เวดดิ้ง แพลนเนอร์ ให้กับคู่แต่งงานที่เข้ามาใช้บริการด้วย ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่จะช่วยให้คู่แต่งงานได้รับความสะดวกในการจัดงานแต่งงานครบทุกขั้นตอน คาดว่าจะได้รับการตอบที่ดีจากลูกค้า หรือทำให้บริษัทฯมีลูกค้าเพิ่มขึ้นอีก 20% จาก 500 คู่ในแต่ละเดือน
ล่าสุดปีนี้บริษัทฯมีแผนที่จะปรับปรุงที่รัก สตูดิโอ สาขาทองหล่อ ที่มีอยู่ 2 สาขา โดยจะปรับให้เป็น 1 สาขา ซึ่งจะใช้เป็นสตูดิโอ หน้าร้านของทางที่รัก สตูดิโอ ทั้งหมดที่มีอยู่ ภายใต้พื้นที่กว่า 1,000 ตารางเมตร ซึ่งใช้งบประมาณในการปรับปรุงไปกว่า 5 ล้านบาท ภายในเดือนมีนาคมนี้ จะเปิดโอเพ่นนิ่ง อย่างเป็นทางการได้
อย่างไรก็ตาม จากที่มีการปรับสาขาทองหล่อเหลือเพียง 1 สาขา ส่งผลให้ ที่รัก สตูดิโอ ขณะนี้มีเพียง 4 สาขา เท่านั้น คือ ทองหล่อ บางแค รามอินทรา และร่มเกล้า ส่วนสาขาต่างจังหวัดนั้น ยังคงชะลอแผนต่อไป ซึ่งต้องดูสถานการณ์ทางเศรษฐกิจก่อน จึงจะนำแผนที่จะเปิดให้ได้จังหวัดละ 1 สาขา รวมถึงหัวเมืองใหญ่ กลับมาพิจารณาอีกครั้ง หรือทั้งนี้อาจจะเห็นการขยายสาขาไปยังต่างจังหวัดได้ในช่วงสิ้นปีนิ้