ผู้จัดการรายวัน – “วีระศักดิ์” เตรียมแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ประกาศปี 51-52 เป็นปีแห่งการท่องเที่ยวและลงทุน ขอเวลา 6 เดือนปั้นนโยบายให้เป็นรูปธรรม เรียกความเชื่อมั่น ดึงนักท่องเที่ยวและนักลงทุนตบเท้าเข้าประเทศไทย ขณะที่ ททท.ขอลุยอีสานอีกครั้งประกาศแผน 3 ปี เป็นปีท่องเที่ยวอีสาน
นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ได้เตรียมเสนอต่อรัฐบาลเพื่อแถลงนโยบายต่อรัฐสภาในสัปดาห์หน้า โดยจะประกาศให้ปี 2551-2552 เป็นปีแห่งการท่องเที่ยวและการลงทุน ภายใต้คำขวัญ “ประทับใจไทยแลนด์” เพื่อส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของโลก กระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวทั้งคนต่างชาติและตลาดคนไทยเที่ยวในประเทศ โดยจะมีแผนการทำงานที่ชัดเจนเป็นขั้นตอน จะต้องมีแผนการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ผลกำไรที่เกิดจากการลงทุนนั้นผันกลับมาเป็นเงินลงทุนเพิ่มเติม โดยยังไม่ถูกโอนถ่ายกลับไปยังต่างประเทศ
เบื้องต้นต้องทำบัญชีสำรวจแหล่งท่องเที่ยวทั่วประเทศทั้งประเทศภายใน 1 เดือน เพื่อต้องการเอ็กซเรย์ทุกพื้นที่ว่า ยังมีความต้องการด้านการพัฒนาในสิ่งใดบ้าง เช่น ระบบสาธารณูปโภคพื้นฐาน การพัฒนาและฟื้นฟูแหล่งท่องเที่ยว โดยกระทรวงฯจะร่วมมือทำงานกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และกระทรวงที่มีหน้าที่ดูแลพื้นที่นั้นๆ
นอกจากนั้นต้องเสริมสร้างความตระหนักรู้ของคนไทยให้เกิดความภูมิใจในการเป็นเจ้าของแหล่งท่องเที่ยวทางด้านทรัพยากรทางธรรมชาติและทางด้านวัฒนธรรม ส่วนด้านความปลอดภัยจะต้องเฝ้าระวังความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของนักท่องเที่ยว และความปลอดภัยในสถานที่ท่องเที่ยว เช่นบริเวณแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นหน้าผา เหว และน้ำตก เป็นต้น เร่งจัดระบบมาตรฐานแหล่งท่องเที่ยวและมาตรการด้านความปลอดภัยให้เห็นเป็นรูปธรรมให้ได้ภายใน 6 เดือน เมื่อภาคเอกชนและนักลงทุนทั้งคนไทยและต่างชาติเห็นความชัดเจนของนโยบายก็จะก่อให้เกิดการลงทุนในเรื่องของการบริการ เช่น โรงแรม ร้านอาหาร และสินค้าท่องเที่ยวอื่นๆ
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของตลาดคนไทย เตรียมจัดทำคู่มือ 12 เล่ม แบ่งเจาะในแต่ละกลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ เที่ยวกับผู้สูงวัย ,เที่ยวกับเด็ก ,เที่ยวกับผู้พิการ,เที่ยวพร้อมสัตว์เลี้ยงแสนรัก ,เที่ยวรอบกรุงฯ,เที่ยวนอกกรุงฯ ,ท่องเที่ยวทางจิตวิญญาณ(เที่ยวทางบุญ),เที่ยวโหด มัน ฮา...ท้าความแกร่ง ,ท้องก็เที่ยว...เปรี้ยวปาก, กางเต็นท์ที่ไหน ปลอดภัยได้วิวสวย,บินถูก เที่ยวมันส์ และ เที่ยวถูกๆ
**ประกาศแผน 3 ปี โปรโมตอีสาน***
ทางด้านการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) นางพรศิริ มโนหาญ ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า ในวันที่ 18 มีนาคม 2551 ซึ่งจะเป็นวันครบรอบการก่อตั้ง ททท.ครบ 48 ปี ได้เตรียมประกาศให้ปี 2551-2553 เป็นปีท่องเที่ยวอีสาน และเตรียมจัดพิมพ์คู่มือเดินทาง “48 เส้นทางแห่งความสุข” รวบรวม เส้นทางท่องเที่ยวทุกภาคของไทยมานำเสนอคาดว่าจะใช้เวลา 2 เดือน จะสามารถออกวางจำหน่ายได้
ทั้งนี้ในส่วนของภาคอีสาน ได้สั่งการให้งานด้านตลาดในประเทศและสำนักงาน ททท. ในภาคดังกล่าว คิดสร้างกิจกรรมที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางเข้าไป รวมถึงทำกิจกรรมที่มีอยู่แล้ว ให้ยิ่งใหญ่ขึ้น เช่น งานช้าง จังหวัดสุรินทร์ เป็นต้น
นายวันเสด็จ ถาวรสุข รองผู้ว่าการ ด้านตลาดในประเทศ ททท. กล่าวว่า เป็นครั้งแรก ที่ ททท. ประกาศแผน 3 ปี เพื่อโปรโมตท่องเที่ยวภาคอีสานอย่างต่อเนื่อง จากที่ผ่านมา ททท.ก็โปรโมตภาคนี้ แต่ไม่ชัดเจนเช่นแผนงานนี้ ปีแรกจะใช้งบ 25 ล้านบาท คิกออฟแคมเปญ นำเสนอสินค้าใน 4 กลุ่ม หลัก คือ กลุ่มสนใจพิเศษเพื่อการเรียนรู้ ,กลุ่มวัฒนธรรม, กลุ่มศาสนา และกลุ่มแต่งงาน ฮันนีมูน
โดยตั้งเป้าหมายให้นักท่องเที่ยวเติบโตปีละ 10% จากปกติภาคนี้นักท่องเที่ยวเติบโตปีละไม่ถึง 7% โดยปี 2550 ช่วง 9 เดือนแรก(ม.ค.-ก.ย.) มีนักท่องเที่ยวเดินทางไปอีสาน 11.32 ล้านคนครั้ง เกิดรายได้ 23,898 ล้านบาท โดยในส่วนของจำนวนลดลง 0.21% แต่รายได้เพิ่มขึ้น 3.16% นักท่องเที่ยวภาคนี้ 90% เป็นคนไทย อีก 10% เป็นประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งเป้าหมายจะขยายตลาดไปประเทศอื่น เช่น มาเลเซีย ออสเตรเลีย และ ยุโรป กลางเดือนมีนาคมศกนี้ เตรียมเปิดตัวโครงการ”เที่ยวอีสานสุขใจ ตระหนักภัยโลกร้อน” โดยจะร่วมกับ ภาคเอกชนท่องเที่ยว โรงแรม ร้านค้า ลด เลิก การกระทำที่ก่อเกิดภาวะโลกร้อน พร้อมแจกสติกเกอร์ให้แก่ผู้ที่เข้าร่วมโครงการ จากนั้นจะนำรายชื่อผู้เข้าร่วมส่งไปสำนักงาน ททท.ในต่างประเทศ ช่วยโปรโมท
ขอโทษนะคะช้าไปหน่อย เครื่องเสียต้องเปลี่ยนเครื่องตั้ง 4 ครั้งกว่าจะเสร็จ ข่าวยาวไปหน่อยนะคะแต่รับรองคุณภาพ
4000
ผู้จัดการรายวัน – “วีระศักดิ์”เตรียมแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ประกาศปี51-52 เป็นปีแห่งการท่องเที่ยวและลงทุน ขอเวลา 6 เดือนปั้นนโยบายให้เป็นรูปธรรม เรียกความเชื่อมั่น ดึงนักท่องเที่ยวและนักลงทุนตบเท้าเข้าประเทศไทย ขณะที่ ททท.ขอลุยอีสานอีกครั้งประกาศแผน 3 ปี เป็นปีท่องเที่ยวอีสาน
นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ได้เตรียมเสนอต่อรัฐบาลเพื่อแถลงนโยบายต่อรัฐสภาในสัปดาห์หน้า โดยจะประกาศให้ปี 2551-2552 เป็นปีแห่งการท่องเที่ยวและการลงทุน ภายใต้คำขวัญ “ประทับใจไทยแลนด์” จุดประสงค์เพื่อส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของโลก สามารถกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวทั้งคนต่างชาติและตลาดคนไทยเที่ยวในประเทศ โดยจะมีแผนการทำงานที่ชัดเจนเป็นขั้นตอน เพื่อเรียกความเชื่อมั่นต่อนักลงทุนให้เกิดขึ้นและหันเข้ามาลงทุนในประเทศไทย จากนั้นจะต้องมีแผนการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ผลกำไรที่เกิดจากการลงทุนนั้น ผันกลับมาเป็นเงินลงทุนเพิ่มเติม โดยยังไม่ถูกโอนถ่ายกลับไปยังต่างประเทศ
สำหรับวิธีการทำงานเบื้องต้นต้องทำบัญชีสำรวจแหล่งท่องเที่ยวทั่วประเทศทั้งประเทศภายใน 1 เดือน เพื่อต้องการเอ็กซเรย์ทุกพื้นที่ ว่า ยังมีความต้องการด้านการพัฒนาในสิ่งใดบ้าง เช่น ระบบสาธารณูปโภคพื้นฐาน การพัฒนาและฟื้นฟูแหล่งท่องเที่ยว โดยกระทรวงฯจะร่วมมือทำงานกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และกระทรวงที่มีหน้าที่ดูแลพื้นที่นั้นๆ เช่น กระทรวงทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นต้น
นอกจากนั้นต้องเสริมสร้างความตระหนักรู้ของคนไทยให้เกิดความภูมิใจในการเป็นเจ้าของแหล่งท่องเที่ยวทางด้านทรัพยากรทางธรรมชาติและทางด้านวัฒนธรรม สร้างจิตสำนึกให้แก่ชุมชนรู้รักสิ่งแวดล้อมและเป็นชุมชนเข้มแข็ง เพื่อให้เกิดภาพลักษณ์ที่ดี มีความสะดวก สะอาด ปลอดภัย และเข้าถึงเอกลักษณ์ ซึ่งด้านความปลอดภัยจะต้องเฝ้าระวังความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของนักท่องเที่ยว และ ความปลอดภัยในสถานที่ท่องเที่ยว เช่นบริเวณแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นหน้าผา เหว และน้ำตก เป็นต้น
“เราต้องเร่งจัดระบบมาตรฐานแหล่งท่องเที่ยวและมาตรการด้านความปลอดภัยให้เห็นเป็นรูปธรรมให้ได้ภายใน 6 เดือนนับจากนี้ เมื่อภาคเอกชนและนักลงทุนทั้งคนไทยและต่างชาติ เห็นความชัดเจนของนโยบายก็จะก่อให้เกิดการลงทุนในเรื่องของการบริการ เช่น โรงแรม ร้านอาหาร และสินค้าท่องเที่ยวอื่นๆ ”
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของตลาดคนไทย เตรียมจัดทำคู่มือ 12 เล่ม แบ่งเจาะในแต่ละกลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ เที่ยวกับผู้สูงวัย ,เที่ยวกับเด็ก ,เที่ยวกับผู้พิการ,เที่ยวพร้อมสัตว์เลี้ยงแสนรัก ,เที่ยวรอบกรุงฯ,เที่ยวนอกกรุงฯ ,ท่องเที่ยวทางจิตวิญญาณ(เที่ยวทางบุญ),เที่ยวโหด มัน ฮา...ท้าความแกร่ง ,ท้องก็เที่ยว...เปรี้ยวปาก, กางเต็นท์ที่ไหน ปลอดภัยได้วิวสวย,บินถูก เที่ยวมันส์ และ เที่ยวถูกๆ
**ประกาศแผน 3 ปี โปรโมตอีสาน***
ทางด้านการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) นางพรศิริ มโนหาญ ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า ในวันที่ 18 มีนาคม 2551 ซึ่งจะเป็นวันครบรอบการก่อตั้ง ททท.ครบ 48 ปี ได้เตรียมประกาศให้ปี 2551-2553 เป็นปีท่องเที่ยวอีสาน และเตรียมจัดพิมพ์คู่มือเดินทาง “48 เส้นทางแห่งความสุข” รวบรวม เส้นทางท่องเที่ยวทุกภาคของไทยมานำเสนอคาดว่าจะใช้เวลา 2 เดือน จะสามารถออกวางจำหน่ายได้
ทั้งนี้ในส่วนของภาคอีสาน ได้สั่งการให้งานด้านตลาดในประเทศและสำนักงาน ททท. ในภาคดังกล่าว คิดสร้างกิจกรรมที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางเข้าไป รวมถึงทำกิจกรรมที่มีอยู่แล้ว ให้ยิ่งใหญ่ขึ้น เช่น งานช้าง จังหวัดสุรินทร์ เป็นต้น ตั้งเป้าหมายเพิ่มนักท่องเที่ยวเข้าสู่ภูมิภาคนี้
นายวันเสด็จ ถาวรสุข รองผู้ว่าการ ด้านตลาดในประเทศ ททท. กล่าวว่า เป็นครั้งแรก ที่ ททท. ประกาศแผน 3 ปี เพื่อโปรโมตท่องเที่ยวภาคอีสานอย่างต่อเนื่อง จากที่ผ่านมา ททท.ก็โปรโมตภาคนี้ แต่ไม่ชัดเจนเช่นแผนงานนี้ ปีแรกจะใช้งบ 25 ล้านบาท คิกออฟแคมเปญ นำเสนอสินค้าใน 4 กลุ่ม หลัก คือ กลุ่มสนใจพิเศษเพื่อการเรียนรู้เช่น ธรณีวิทยา และ ไดโนเสาร์ เป็นต้น ,กลุ่มวัฒนธรรม เช่น ปราสาทหิน ต่างๆ ,ศาสนา ทัวร์ไหว้พระ ปฎิบัติธรรม และ กลุ่มแต่งงาน ฮันนีมูน เพราะมีหลายแหล่งท่องเที่ยวโรแมนติก เหมาะกับคู่รัก เช่น ตามลุ่มแม่น้ำโขง และ อุทยานแห่งชาติต่างๆ และสถานที่พัก เช่น ที่ จ.เลย และ จังหวัดนครราชสีมา มีโรงแรมบูติก ที่บรรยากาศโรแมนติกหลายแห่ง
โดยตั้งเป้าหมายให้นักท่องเที่ยวเติบโตปีละ 10% จากปกติภาคนี้นักท่องเที่ยวเติบโตปีละไม่ถึง 7% โดยปี 2550 ช่วง 9 เดือนแรก(ม.ค.-ก.ย.) มีนักท่องเที่ยวเดินทางไปอีสาน 11.32 ล้านคนครั้ง เกิดรายได้ 23,898 ล้านบาท โดยในส่วนของจำนวนลดลง 0.21% แต่รายได้เพิ่มขึ้น 3.16% นักท่องเที่ยวภาคนี้ 90% เป็นคนไทย อีก 10% เป็นประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งเป้าหมายจะขยายตลาดไปประเทศอื่น เช่น มาเลเซีย ออสเตรเลีย และ ยุโรป กลางเดือนมีนาคมศกนี้ เตรียมเปิดตัวโครงการ”เที่ยวอีสานสุขใจ ตระหนักภัยโลกร้อน” โดยจะร่วมกับ ภาคเอกชนท่องเที่ยว โรงแรม ร้านค้า ลด เลิก การกระทำที่ก่อเกิดภาวะโลกร้อน พร้อมแจกสติกเกอร์ให้แก่ผู้ที่เข้าร่วมโครงการ จากนั้นจะนำรายชื่อผู้เข้าร่วมส่งไปสำนักงาน ททท.ในต่างประเทศ ช่วยโปรโมท
นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ได้เตรียมเสนอต่อรัฐบาลเพื่อแถลงนโยบายต่อรัฐสภาในสัปดาห์หน้า โดยจะประกาศให้ปี 2551-2552 เป็นปีแห่งการท่องเที่ยวและการลงทุน ภายใต้คำขวัญ “ประทับใจไทยแลนด์” เพื่อส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของโลก กระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวทั้งคนต่างชาติและตลาดคนไทยเที่ยวในประเทศ โดยจะมีแผนการทำงานที่ชัดเจนเป็นขั้นตอน จะต้องมีแผนการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ผลกำไรที่เกิดจากการลงทุนนั้นผันกลับมาเป็นเงินลงทุนเพิ่มเติม โดยยังไม่ถูกโอนถ่ายกลับไปยังต่างประเทศ
เบื้องต้นต้องทำบัญชีสำรวจแหล่งท่องเที่ยวทั่วประเทศทั้งประเทศภายใน 1 เดือน เพื่อต้องการเอ็กซเรย์ทุกพื้นที่ว่า ยังมีความต้องการด้านการพัฒนาในสิ่งใดบ้าง เช่น ระบบสาธารณูปโภคพื้นฐาน การพัฒนาและฟื้นฟูแหล่งท่องเที่ยว โดยกระทรวงฯจะร่วมมือทำงานกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และกระทรวงที่มีหน้าที่ดูแลพื้นที่นั้นๆ
นอกจากนั้นต้องเสริมสร้างความตระหนักรู้ของคนไทยให้เกิดความภูมิใจในการเป็นเจ้าของแหล่งท่องเที่ยวทางด้านทรัพยากรทางธรรมชาติและทางด้านวัฒนธรรม ส่วนด้านความปลอดภัยจะต้องเฝ้าระวังความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของนักท่องเที่ยว และความปลอดภัยในสถานที่ท่องเที่ยว เช่นบริเวณแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นหน้าผา เหว และน้ำตก เป็นต้น เร่งจัดระบบมาตรฐานแหล่งท่องเที่ยวและมาตรการด้านความปลอดภัยให้เห็นเป็นรูปธรรมให้ได้ภายใน 6 เดือน เมื่อภาคเอกชนและนักลงทุนทั้งคนไทยและต่างชาติเห็นความชัดเจนของนโยบายก็จะก่อให้เกิดการลงทุนในเรื่องของการบริการ เช่น โรงแรม ร้านอาหาร และสินค้าท่องเที่ยวอื่นๆ
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของตลาดคนไทย เตรียมจัดทำคู่มือ 12 เล่ม แบ่งเจาะในแต่ละกลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ เที่ยวกับผู้สูงวัย ,เที่ยวกับเด็ก ,เที่ยวกับผู้พิการ,เที่ยวพร้อมสัตว์เลี้ยงแสนรัก ,เที่ยวรอบกรุงฯ,เที่ยวนอกกรุงฯ ,ท่องเที่ยวทางจิตวิญญาณ(เที่ยวทางบุญ),เที่ยวโหด มัน ฮา...ท้าความแกร่ง ,ท้องก็เที่ยว...เปรี้ยวปาก, กางเต็นท์ที่ไหน ปลอดภัยได้วิวสวย,บินถูก เที่ยวมันส์ และ เที่ยวถูกๆ
**ประกาศแผน 3 ปี โปรโมตอีสาน***
ทางด้านการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) นางพรศิริ มโนหาญ ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า ในวันที่ 18 มีนาคม 2551 ซึ่งจะเป็นวันครบรอบการก่อตั้ง ททท.ครบ 48 ปี ได้เตรียมประกาศให้ปี 2551-2553 เป็นปีท่องเที่ยวอีสาน และเตรียมจัดพิมพ์คู่มือเดินทาง “48 เส้นทางแห่งความสุข” รวบรวม เส้นทางท่องเที่ยวทุกภาคของไทยมานำเสนอคาดว่าจะใช้เวลา 2 เดือน จะสามารถออกวางจำหน่ายได้
ทั้งนี้ในส่วนของภาคอีสาน ได้สั่งการให้งานด้านตลาดในประเทศและสำนักงาน ททท. ในภาคดังกล่าว คิดสร้างกิจกรรมที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางเข้าไป รวมถึงทำกิจกรรมที่มีอยู่แล้ว ให้ยิ่งใหญ่ขึ้น เช่น งานช้าง จังหวัดสุรินทร์ เป็นต้น
นายวันเสด็จ ถาวรสุข รองผู้ว่าการ ด้านตลาดในประเทศ ททท. กล่าวว่า เป็นครั้งแรก ที่ ททท. ประกาศแผน 3 ปี เพื่อโปรโมตท่องเที่ยวภาคอีสานอย่างต่อเนื่อง จากที่ผ่านมา ททท.ก็โปรโมตภาคนี้ แต่ไม่ชัดเจนเช่นแผนงานนี้ ปีแรกจะใช้งบ 25 ล้านบาท คิกออฟแคมเปญ นำเสนอสินค้าใน 4 กลุ่ม หลัก คือ กลุ่มสนใจพิเศษเพื่อการเรียนรู้ ,กลุ่มวัฒนธรรม, กลุ่มศาสนา และกลุ่มแต่งงาน ฮันนีมูน
โดยตั้งเป้าหมายให้นักท่องเที่ยวเติบโตปีละ 10% จากปกติภาคนี้นักท่องเที่ยวเติบโตปีละไม่ถึง 7% โดยปี 2550 ช่วง 9 เดือนแรก(ม.ค.-ก.ย.) มีนักท่องเที่ยวเดินทางไปอีสาน 11.32 ล้านคนครั้ง เกิดรายได้ 23,898 ล้านบาท โดยในส่วนของจำนวนลดลง 0.21% แต่รายได้เพิ่มขึ้น 3.16% นักท่องเที่ยวภาคนี้ 90% เป็นคนไทย อีก 10% เป็นประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งเป้าหมายจะขยายตลาดไปประเทศอื่น เช่น มาเลเซีย ออสเตรเลีย และ ยุโรป กลางเดือนมีนาคมศกนี้ เตรียมเปิดตัวโครงการ”เที่ยวอีสานสุขใจ ตระหนักภัยโลกร้อน” โดยจะร่วมกับ ภาคเอกชนท่องเที่ยว โรงแรม ร้านค้า ลด เลิก การกระทำที่ก่อเกิดภาวะโลกร้อน พร้อมแจกสติกเกอร์ให้แก่ผู้ที่เข้าร่วมโครงการ จากนั้นจะนำรายชื่อผู้เข้าร่วมส่งไปสำนักงาน ททท.ในต่างประเทศ ช่วยโปรโมท
ขอโทษนะคะช้าไปหน่อย เครื่องเสียต้องเปลี่ยนเครื่องตั้ง 4 ครั้งกว่าจะเสร็จ ข่าวยาวไปหน่อยนะคะแต่รับรองคุณภาพ
4000
ผู้จัดการรายวัน – “วีระศักดิ์”เตรียมแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ประกาศปี51-52 เป็นปีแห่งการท่องเที่ยวและลงทุน ขอเวลา 6 เดือนปั้นนโยบายให้เป็นรูปธรรม เรียกความเชื่อมั่น ดึงนักท่องเที่ยวและนักลงทุนตบเท้าเข้าประเทศไทย ขณะที่ ททท.ขอลุยอีสานอีกครั้งประกาศแผน 3 ปี เป็นปีท่องเที่ยวอีสาน
นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ได้เตรียมเสนอต่อรัฐบาลเพื่อแถลงนโยบายต่อรัฐสภาในสัปดาห์หน้า โดยจะประกาศให้ปี 2551-2552 เป็นปีแห่งการท่องเที่ยวและการลงทุน ภายใต้คำขวัญ “ประทับใจไทยแลนด์” จุดประสงค์เพื่อส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของโลก สามารถกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวทั้งคนต่างชาติและตลาดคนไทยเที่ยวในประเทศ โดยจะมีแผนการทำงานที่ชัดเจนเป็นขั้นตอน เพื่อเรียกความเชื่อมั่นต่อนักลงทุนให้เกิดขึ้นและหันเข้ามาลงทุนในประเทศไทย จากนั้นจะต้องมีแผนการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ผลกำไรที่เกิดจากการลงทุนนั้น ผันกลับมาเป็นเงินลงทุนเพิ่มเติม โดยยังไม่ถูกโอนถ่ายกลับไปยังต่างประเทศ
สำหรับวิธีการทำงานเบื้องต้นต้องทำบัญชีสำรวจแหล่งท่องเที่ยวทั่วประเทศทั้งประเทศภายใน 1 เดือน เพื่อต้องการเอ็กซเรย์ทุกพื้นที่ ว่า ยังมีความต้องการด้านการพัฒนาในสิ่งใดบ้าง เช่น ระบบสาธารณูปโภคพื้นฐาน การพัฒนาและฟื้นฟูแหล่งท่องเที่ยว โดยกระทรวงฯจะร่วมมือทำงานกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และกระทรวงที่มีหน้าที่ดูแลพื้นที่นั้นๆ เช่น กระทรวงทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นต้น
นอกจากนั้นต้องเสริมสร้างความตระหนักรู้ของคนไทยให้เกิดความภูมิใจในการเป็นเจ้าของแหล่งท่องเที่ยวทางด้านทรัพยากรทางธรรมชาติและทางด้านวัฒนธรรม สร้างจิตสำนึกให้แก่ชุมชนรู้รักสิ่งแวดล้อมและเป็นชุมชนเข้มแข็ง เพื่อให้เกิดภาพลักษณ์ที่ดี มีความสะดวก สะอาด ปลอดภัย และเข้าถึงเอกลักษณ์ ซึ่งด้านความปลอดภัยจะต้องเฝ้าระวังความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของนักท่องเที่ยว และ ความปลอดภัยในสถานที่ท่องเที่ยว เช่นบริเวณแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นหน้าผา เหว และน้ำตก เป็นต้น
“เราต้องเร่งจัดระบบมาตรฐานแหล่งท่องเที่ยวและมาตรการด้านความปลอดภัยให้เห็นเป็นรูปธรรมให้ได้ภายใน 6 เดือนนับจากนี้ เมื่อภาคเอกชนและนักลงทุนทั้งคนไทยและต่างชาติ เห็นความชัดเจนของนโยบายก็จะก่อให้เกิดการลงทุนในเรื่องของการบริการ เช่น โรงแรม ร้านอาหาร และสินค้าท่องเที่ยวอื่นๆ ”
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของตลาดคนไทย เตรียมจัดทำคู่มือ 12 เล่ม แบ่งเจาะในแต่ละกลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ เที่ยวกับผู้สูงวัย ,เที่ยวกับเด็ก ,เที่ยวกับผู้พิการ,เที่ยวพร้อมสัตว์เลี้ยงแสนรัก ,เที่ยวรอบกรุงฯ,เที่ยวนอกกรุงฯ ,ท่องเที่ยวทางจิตวิญญาณ(เที่ยวทางบุญ),เที่ยวโหด มัน ฮา...ท้าความแกร่ง ,ท้องก็เที่ยว...เปรี้ยวปาก, กางเต็นท์ที่ไหน ปลอดภัยได้วิวสวย,บินถูก เที่ยวมันส์ และ เที่ยวถูกๆ
**ประกาศแผน 3 ปี โปรโมตอีสาน***
ทางด้านการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) นางพรศิริ มโนหาญ ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า ในวันที่ 18 มีนาคม 2551 ซึ่งจะเป็นวันครบรอบการก่อตั้ง ททท.ครบ 48 ปี ได้เตรียมประกาศให้ปี 2551-2553 เป็นปีท่องเที่ยวอีสาน และเตรียมจัดพิมพ์คู่มือเดินทาง “48 เส้นทางแห่งความสุข” รวบรวม เส้นทางท่องเที่ยวทุกภาคของไทยมานำเสนอคาดว่าจะใช้เวลา 2 เดือน จะสามารถออกวางจำหน่ายได้
ทั้งนี้ในส่วนของภาคอีสาน ได้สั่งการให้งานด้านตลาดในประเทศและสำนักงาน ททท. ในภาคดังกล่าว คิดสร้างกิจกรรมที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางเข้าไป รวมถึงทำกิจกรรมที่มีอยู่แล้ว ให้ยิ่งใหญ่ขึ้น เช่น งานช้าง จังหวัดสุรินทร์ เป็นต้น ตั้งเป้าหมายเพิ่มนักท่องเที่ยวเข้าสู่ภูมิภาคนี้
นายวันเสด็จ ถาวรสุข รองผู้ว่าการ ด้านตลาดในประเทศ ททท. กล่าวว่า เป็นครั้งแรก ที่ ททท. ประกาศแผน 3 ปี เพื่อโปรโมตท่องเที่ยวภาคอีสานอย่างต่อเนื่อง จากที่ผ่านมา ททท.ก็โปรโมตภาคนี้ แต่ไม่ชัดเจนเช่นแผนงานนี้ ปีแรกจะใช้งบ 25 ล้านบาท คิกออฟแคมเปญ นำเสนอสินค้าใน 4 กลุ่ม หลัก คือ กลุ่มสนใจพิเศษเพื่อการเรียนรู้เช่น ธรณีวิทยา และ ไดโนเสาร์ เป็นต้น ,กลุ่มวัฒนธรรม เช่น ปราสาทหิน ต่างๆ ,ศาสนา ทัวร์ไหว้พระ ปฎิบัติธรรม และ กลุ่มแต่งงาน ฮันนีมูน เพราะมีหลายแหล่งท่องเที่ยวโรแมนติก เหมาะกับคู่รัก เช่น ตามลุ่มแม่น้ำโขง และ อุทยานแห่งชาติต่างๆ และสถานที่พัก เช่น ที่ จ.เลย และ จังหวัดนครราชสีมา มีโรงแรมบูติก ที่บรรยากาศโรแมนติกหลายแห่ง
โดยตั้งเป้าหมายให้นักท่องเที่ยวเติบโตปีละ 10% จากปกติภาคนี้นักท่องเที่ยวเติบโตปีละไม่ถึง 7% โดยปี 2550 ช่วง 9 เดือนแรก(ม.ค.-ก.ย.) มีนักท่องเที่ยวเดินทางไปอีสาน 11.32 ล้านคนครั้ง เกิดรายได้ 23,898 ล้านบาท โดยในส่วนของจำนวนลดลง 0.21% แต่รายได้เพิ่มขึ้น 3.16% นักท่องเที่ยวภาคนี้ 90% เป็นคนไทย อีก 10% เป็นประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งเป้าหมายจะขยายตลาดไปประเทศอื่น เช่น มาเลเซีย ออสเตรเลีย และ ยุโรป กลางเดือนมีนาคมศกนี้ เตรียมเปิดตัวโครงการ”เที่ยวอีสานสุขใจ ตระหนักภัยโลกร้อน” โดยจะร่วมกับ ภาคเอกชนท่องเที่ยว โรงแรม ร้านค้า ลด เลิก การกระทำที่ก่อเกิดภาวะโลกร้อน พร้อมแจกสติกเกอร์ให้แก่ผู้ที่เข้าร่วมโครงการ จากนั้นจะนำรายชื่อผู้เข้าร่วมส่งไปสำนักงาน ททท.ในต่างประเทศ ช่วยโปรโมท