ผู้จัดการรายวัน - ขุนคลังส่งเทียบเชิญบิ๊กตลาดหุ้น ทั้งประธานฯ และกรรมการผู้จัดการ เข้าหารือแผนผลักดันตลาดทุนและมาตรการส่งเสริมนักลงทุน ส่วนการนำรัฐวิสาหกิจเข้าจดทะเบียน ยังไม่กล้าหนุนเต็มปาก ขณะที่ตลาดหลักทรัพย์ขอให้รัฐบาลสนับสนุนโดยเสนอโครงการพัฒนาตลาดหลักทรัพย์ให้เป็นเสาหลักของเศรษฐกิจที่แท้จริง
นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง เปิดเผยว่า ในเร็วๆ นี้จะหารือร่วมกับนายปกรณ์ มาลากุล ณ อยุธยา ประธานตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) และนางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เกี่ยวกับแนวทางในการพัฒนาตลาดทุนไทย ตนมองว่าตลาดทุนเป็นแหล่งสำคัญในการลงทุนของประเทศ ซึ่งจะต้องพัฒนาให้มีการเติบโตต่อไป แต่ต้องไม่ให้ตลาดทุนมีการเก็งกำไรหรือสร้างภาพลวงทางเศรษฐกิจขึ้น
อย่างไรก็ตาม เรื่องของการผลักดันให้รัฐวิสาหกิจเข้าตลาดหลักทรัพย์นั้น ซึ่งเรื่องนี้ไม่ใช่เป้าหมายหลักในการพัฒนารัฐวิสาหกิจการสร้างประสิทธิภาพในการทำงานถือเป็นสิ่งที่สำคัญกว่า แต่การสนับสนุนให้บริษัทต่างๆ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์มากขึ้นถือเป็นเรื่องที่ดี
สำหรับการยกเลิกมาตรการกันสำรอง 30% ตามเสียงเรียกร้องของนักลงทุนนั้น น.พ.สุรพงษ์กล่าวว่า ขณะนี้ทางธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ยังไม่ได้ส่งข้อมูลเพิ่มเติมที่กระทรวงการคลังต้องการในการพิจารณาการยกเลิกมาตรการกันสำรอง 30% มาให้ จึงไม่สามารถตอบรายละเอียดดังกล่าวได้ว่าเป็นเมื่อไร ซึ่งขณะนี้กระทรวงการคลังยังไม่ได้มีการนัดหมายกับ ธปท.อย่างชัดเจนว่าจะมีการเข้าประชุมกันอีกครั้งเมื่อไหร่
เมื่อวันที่ 11 ก.พ. ที่ผ่านมา นายปกรณ์ มาลากุล ณ อยุธยา ประธานกรรมการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯอยู่ระหว่างขอเข้าพบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อยื่นสมุดปกขาวซึ่งจัดทำโดยตลาดหลักทรัพย์และสภาธุรกิจตลาดทุนไทย ซึ่งในสมุดปกขาวจะมีรายละเอียดเกี่ยวกับบทบาทของตลาดหลักทรัพย์ ที่มีประโยชน์ต่อเศรษฐกิจการเงินของประเทศและศักภาพของตลาดหลักทรัพย์ในปัจจุบัน รวมถึงพัฒนาการของตลาดหลักทรัพย์ในช่วงที่ผ่านมา
จะนำเสนอโครงการพัฒนาตลาดหลักทรัพย์ ให้เป็นเสาหลักของเศรษฐกิจที่แท้จริง ซึ่งจะสรุปรายละเอียดว่าตลาดหลักทรัพย์จะมีการดำเนินการอย่างไร และข้อเสนอในการให้ตลาดหลักทรัพย์เป็นเสาหลักของเศรษฐกิจ โดยต้องการขอให้รัฐบาลสนับสนุนในเรื่องดังกล่าว
โครงการพัฒนาตลาดหลักทรัพย์และกลุ่มบริษัทในเครือในอีก 5 ปีข้างหน้า ธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) จะมีการให้ความสนับสนุนทางด้านเทคนิคในการพัฒนาตลาดหลักทรัพย์โดยจะจัดหาผู้เชี่ยวชาญตลาดทุนระดับโลก ซึ่งมีประสบการณ์ในการนำตลาดหุ้นขนาดใหญ่ของโลกแปลงสภาพและนำเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ มาเป็นผู้ให้คำปรึกษาในเรื่องการแปรรูปตลาดหลักทรัพย์
นอกจากนี้ จากการที่ตลาดหลักทรัพย์จะมีการเดินทางไปนำเสนอข้อมูล (โรดโชว์) ต่างประเทศ ในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ที่ญี่ปุ่น จะมีการเชิญรัฐบาลร่วมเดินทางไปด้วย ทั้งนี้ จะมีการประชุมคณะอนุกรรมการเกี่ยวกับการขยายฐานนักลงทุน เพื่อกำหนดแผนในการไปโรดโชว์ต่างประเทศ ซึ่งจะเป็นการขยายฐานนักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ และในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ นี้ สถาบันวิทยาการตลาดทุน (วตท.)จะมีการจัดสัมมนา ตลาดทุนไทย...ใครจะผ่าตัด โดยจะเชิญ รมว.คลังมาเป็นผู้ปาถกฐาพิเศษด้วย
ขณะที่นายก้องเกียรติ โอภาสวงการ ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย กล่าวว่า ภายในเดือนนี้คาดว่า สมาชิกภาคตลาดทุนในนามสภาธุรกิจตลาดทุนไทยจะเข้าเสนอนโยบายในการพัฒนาตลาดทุนไทยต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการปรับปรุงข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับตัวเลขเพื่อให้มีความทันสมัยที่สุด อาจจะมีการเสนอให้มีการแก้ไขกฎเกณฑ์ ระเบียบในบางเรื่องที่เคยเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาตลาดทุนไทย.
นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง เปิดเผยว่า ในเร็วๆ นี้จะหารือร่วมกับนายปกรณ์ มาลากุล ณ อยุธยา ประธานตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) และนางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เกี่ยวกับแนวทางในการพัฒนาตลาดทุนไทย ตนมองว่าตลาดทุนเป็นแหล่งสำคัญในการลงทุนของประเทศ ซึ่งจะต้องพัฒนาให้มีการเติบโตต่อไป แต่ต้องไม่ให้ตลาดทุนมีการเก็งกำไรหรือสร้างภาพลวงทางเศรษฐกิจขึ้น
อย่างไรก็ตาม เรื่องของการผลักดันให้รัฐวิสาหกิจเข้าตลาดหลักทรัพย์นั้น ซึ่งเรื่องนี้ไม่ใช่เป้าหมายหลักในการพัฒนารัฐวิสาหกิจการสร้างประสิทธิภาพในการทำงานถือเป็นสิ่งที่สำคัญกว่า แต่การสนับสนุนให้บริษัทต่างๆ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์มากขึ้นถือเป็นเรื่องที่ดี
สำหรับการยกเลิกมาตรการกันสำรอง 30% ตามเสียงเรียกร้องของนักลงทุนนั้น น.พ.สุรพงษ์กล่าวว่า ขณะนี้ทางธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ยังไม่ได้ส่งข้อมูลเพิ่มเติมที่กระทรวงการคลังต้องการในการพิจารณาการยกเลิกมาตรการกันสำรอง 30% มาให้ จึงไม่สามารถตอบรายละเอียดดังกล่าวได้ว่าเป็นเมื่อไร ซึ่งขณะนี้กระทรวงการคลังยังไม่ได้มีการนัดหมายกับ ธปท.อย่างชัดเจนว่าจะมีการเข้าประชุมกันอีกครั้งเมื่อไหร่
เมื่อวันที่ 11 ก.พ. ที่ผ่านมา นายปกรณ์ มาลากุล ณ อยุธยา ประธานกรรมการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯอยู่ระหว่างขอเข้าพบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อยื่นสมุดปกขาวซึ่งจัดทำโดยตลาดหลักทรัพย์และสภาธุรกิจตลาดทุนไทย ซึ่งในสมุดปกขาวจะมีรายละเอียดเกี่ยวกับบทบาทของตลาดหลักทรัพย์ ที่มีประโยชน์ต่อเศรษฐกิจการเงินของประเทศและศักภาพของตลาดหลักทรัพย์ในปัจจุบัน รวมถึงพัฒนาการของตลาดหลักทรัพย์ในช่วงที่ผ่านมา
จะนำเสนอโครงการพัฒนาตลาดหลักทรัพย์ ให้เป็นเสาหลักของเศรษฐกิจที่แท้จริง ซึ่งจะสรุปรายละเอียดว่าตลาดหลักทรัพย์จะมีการดำเนินการอย่างไร และข้อเสนอในการให้ตลาดหลักทรัพย์เป็นเสาหลักของเศรษฐกิจ โดยต้องการขอให้รัฐบาลสนับสนุนในเรื่องดังกล่าว
โครงการพัฒนาตลาดหลักทรัพย์และกลุ่มบริษัทในเครือในอีก 5 ปีข้างหน้า ธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) จะมีการให้ความสนับสนุนทางด้านเทคนิคในการพัฒนาตลาดหลักทรัพย์โดยจะจัดหาผู้เชี่ยวชาญตลาดทุนระดับโลก ซึ่งมีประสบการณ์ในการนำตลาดหุ้นขนาดใหญ่ของโลกแปลงสภาพและนำเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ มาเป็นผู้ให้คำปรึกษาในเรื่องการแปรรูปตลาดหลักทรัพย์
นอกจากนี้ จากการที่ตลาดหลักทรัพย์จะมีการเดินทางไปนำเสนอข้อมูล (โรดโชว์) ต่างประเทศ ในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ที่ญี่ปุ่น จะมีการเชิญรัฐบาลร่วมเดินทางไปด้วย ทั้งนี้ จะมีการประชุมคณะอนุกรรมการเกี่ยวกับการขยายฐานนักลงทุน เพื่อกำหนดแผนในการไปโรดโชว์ต่างประเทศ ซึ่งจะเป็นการขยายฐานนักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ และในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ นี้ สถาบันวิทยาการตลาดทุน (วตท.)จะมีการจัดสัมมนา ตลาดทุนไทย...ใครจะผ่าตัด โดยจะเชิญ รมว.คลังมาเป็นผู้ปาถกฐาพิเศษด้วย
ขณะที่นายก้องเกียรติ โอภาสวงการ ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย กล่าวว่า ภายในเดือนนี้คาดว่า สมาชิกภาคตลาดทุนในนามสภาธุรกิจตลาดทุนไทยจะเข้าเสนอนโยบายในการพัฒนาตลาดทุนไทยต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการปรับปรุงข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับตัวเลขเพื่อให้มีความทันสมัยที่สุด อาจจะมีการเสนอให้มีการแก้ไขกฎเกณฑ์ ระเบียบในบางเรื่องที่เคยเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาตลาดทุนไทย.