ตลาดถุงยางอนามัย 700 ล้านบาท หวังคึกคักรับวาเลนไทน์ ผนวกผู้ประกอบการหลายแบรนด์-หน้าใหม่เล่นเรื่องราคา ยิ่งส่งผลให้ซื้อง่ายขึ้น
นายเลิศศักดิ์ งานทวี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทย ไฮยีน โปรดักต์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายถุงยางอนามัย แบรนด์ "แฟร์" และ "ฮันนี่มูน" เปิดเผยกับ "ผู้จัดการรายวัน" ว่า ในช่วงเทศกาลวันวาเลนไทน์นี้ คาดว่าตลาดถุงยางอนามัยจะเป็นอีกตลาดหนึ่งที่มีความคึกคักไม่แพ้ตลาดดอกกุหลาบหรือของขวัญอื่นที่เกี่ยวกับความรัก และถือเป็นหน้าขายอีกช่วงหนึ่งของถุงยางอนามัยด้วย เนื่องจากมีการกระตุ้นเกี่ยวกับเรื่องเทศกาลของความรักจากหลายหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ที่มีการจัดกิจกรรมต่างๆฉลองเทศกาลความรัก
นอกจากนั้นยังเป็นผลมาจากที่ผู้ประกอบการมีการแข่งขันทางด้านราคากันอย่างมาก ทำให้ราคาต่ำลง โดยเฉลี่ยขณะนี้ที่ขายดีในตลาดคือ ระดับราคา 20- 40 บาทต่อกล่อง (ขนาด 3 แพก) ซึ่งทำให้ผู้บริโภคโดยเฉพาะวัยรุ่นมีการตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น ซึ่งการแข่งขันด้านราคาค่อนข้างสูง โดยเป็นผลมาจากที่มีผู้ประกอบการรายใหม่เข้ามาทำตลาดและใช้เรื่องราคาเป็นจุดขาย เพราะไม่ได้ทำการตลาดมากและมีการโฆษณามากเท่าใด ทำให้ต้นทุนต่ำสามารถเล่นเรื่องราคาได้
ขณะที่ผู้ประกอบการรายใหญ่บางรายก็มีการออกไฟท์ติ้งแบรนด์เข้ามาทำตลาดเพื่อปกป้องรักษาตลาดของตัวเองด้วย เนื่องจาก แบรนด์เดิมนั้นมีระดับราคาที่สูงไม่สามารถลงมาเล่นเรื่องราคาได้ จะทำให้เสียภาพพจน์ ที่ผ่านมามีรายใหม่เข้ามาทำตลาดทั้งจากของภาครัฐเอง เช่น OOP หรือเอกชนเช่น ดูแคร์ เป็นต้น
สำหรับแผนตลาดของบริษัทฯในช่วงนี้ ไม่ได้มีการจัดกิจกรรมต้อนรับวันวาเลนไทน์แต่อย่างใด เพียงแต่ร่วมมือกับหน่วยงานและองค์กรต่างๆ ในการแจกสินค้าให้ใช้ฟรี เพื่อเป็นการรณรงค์ป้องกันโรคเอดส์และสร้างพฤติกรรมการมีเพศสัมพันธ์ที่ถูกต้องให้กับผู้บริโภคด้วย
ทั้งนี้ในปีนี้บริษัทฯจะออกสินค้าใหม่ 2 ตัวคือ 1.แผ่นยางอนามัย ซึ่งใช้สำหรับป้องกันโรคติดต่อในระหว่างมีเพศสัมพันธ์ ส่วนผลิตภัณฑ์ใหม่อีกตัวยังไม่สามารถเปิดเผยได้
ปัจจุบันบริษัทฯมีถุงยางอนามัย 2 แบรนด์คือ "แฟร์" มีทั้งหมด 7 รุ่น และแบรนด์ "ฮันนี่มูน" ซึ่งถือเป็นไฟท์ติ้งแบรนด์ ซึ่งเร็วๆนี้จะออกรุ่นใหม่ชื่อว่า ฮันนี่มูนวาเลนไทน์ ซึ่งเดิมจะออกในช่วงวาเลนไทน์แต่เนื่องจากไม่ทัน โดยมีแชร์ตลาดรวมประมาณ 15-17%
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลาดถุงยางอนามัยในปัจจุบันมีมูลค่าประมาณ 600-700 ล้านบาท โดยมีรายใหญ่เช่น ดูเร็กซ์ คิงเท็กซ์ แฟร์ เป็นต้น โดยมีอัตราการเติบโตไม่มากนัก และตลาดก็ค่อนข้างทรงตัวมาหลายปีแล้ว แต่คาดว่าปีนี้ตลาดรวมอาจจะเติบโตขึ้นบ้างเนื่องจากว่าปัญหาต่างๆเริ่มคลี่คลาย เช่น การเมืองที่ชัดเจนมีรัฐบาลแล้ว ราคาถุงยางที่ถูกลงเพราะการแข่งขันที่รุนแรง
นายเลิศศักดิ์ งานทวี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทย ไฮยีน โปรดักต์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายถุงยางอนามัย แบรนด์ "แฟร์" และ "ฮันนี่มูน" เปิดเผยกับ "ผู้จัดการรายวัน" ว่า ในช่วงเทศกาลวันวาเลนไทน์นี้ คาดว่าตลาดถุงยางอนามัยจะเป็นอีกตลาดหนึ่งที่มีความคึกคักไม่แพ้ตลาดดอกกุหลาบหรือของขวัญอื่นที่เกี่ยวกับความรัก และถือเป็นหน้าขายอีกช่วงหนึ่งของถุงยางอนามัยด้วย เนื่องจากมีการกระตุ้นเกี่ยวกับเรื่องเทศกาลของความรักจากหลายหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ที่มีการจัดกิจกรรมต่างๆฉลองเทศกาลความรัก
นอกจากนั้นยังเป็นผลมาจากที่ผู้ประกอบการมีการแข่งขันทางด้านราคากันอย่างมาก ทำให้ราคาต่ำลง โดยเฉลี่ยขณะนี้ที่ขายดีในตลาดคือ ระดับราคา 20- 40 บาทต่อกล่อง (ขนาด 3 แพก) ซึ่งทำให้ผู้บริโภคโดยเฉพาะวัยรุ่นมีการตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น ซึ่งการแข่งขันด้านราคาค่อนข้างสูง โดยเป็นผลมาจากที่มีผู้ประกอบการรายใหม่เข้ามาทำตลาดและใช้เรื่องราคาเป็นจุดขาย เพราะไม่ได้ทำการตลาดมากและมีการโฆษณามากเท่าใด ทำให้ต้นทุนต่ำสามารถเล่นเรื่องราคาได้
ขณะที่ผู้ประกอบการรายใหญ่บางรายก็มีการออกไฟท์ติ้งแบรนด์เข้ามาทำตลาดเพื่อปกป้องรักษาตลาดของตัวเองด้วย เนื่องจาก แบรนด์เดิมนั้นมีระดับราคาที่สูงไม่สามารถลงมาเล่นเรื่องราคาได้ จะทำให้เสียภาพพจน์ ที่ผ่านมามีรายใหม่เข้ามาทำตลาดทั้งจากของภาครัฐเอง เช่น OOP หรือเอกชนเช่น ดูแคร์ เป็นต้น
สำหรับแผนตลาดของบริษัทฯในช่วงนี้ ไม่ได้มีการจัดกิจกรรมต้อนรับวันวาเลนไทน์แต่อย่างใด เพียงแต่ร่วมมือกับหน่วยงานและองค์กรต่างๆ ในการแจกสินค้าให้ใช้ฟรี เพื่อเป็นการรณรงค์ป้องกันโรคเอดส์และสร้างพฤติกรรมการมีเพศสัมพันธ์ที่ถูกต้องให้กับผู้บริโภคด้วย
ทั้งนี้ในปีนี้บริษัทฯจะออกสินค้าใหม่ 2 ตัวคือ 1.แผ่นยางอนามัย ซึ่งใช้สำหรับป้องกันโรคติดต่อในระหว่างมีเพศสัมพันธ์ ส่วนผลิตภัณฑ์ใหม่อีกตัวยังไม่สามารถเปิดเผยได้
ปัจจุบันบริษัทฯมีถุงยางอนามัย 2 แบรนด์คือ "แฟร์" มีทั้งหมด 7 รุ่น และแบรนด์ "ฮันนี่มูน" ซึ่งถือเป็นไฟท์ติ้งแบรนด์ ซึ่งเร็วๆนี้จะออกรุ่นใหม่ชื่อว่า ฮันนี่มูนวาเลนไทน์ ซึ่งเดิมจะออกในช่วงวาเลนไทน์แต่เนื่องจากไม่ทัน โดยมีแชร์ตลาดรวมประมาณ 15-17%
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลาดถุงยางอนามัยในปัจจุบันมีมูลค่าประมาณ 600-700 ล้านบาท โดยมีรายใหญ่เช่น ดูเร็กซ์ คิงเท็กซ์ แฟร์ เป็นต้น โดยมีอัตราการเติบโตไม่มากนัก และตลาดก็ค่อนข้างทรงตัวมาหลายปีแล้ว แต่คาดว่าปีนี้ตลาดรวมอาจจะเติบโตขึ้นบ้างเนื่องจากว่าปัญหาต่างๆเริ่มคลี่คลาย เช่น การเมืองที่ชัดเจนมีรัฐบาลแล้ว ราคาถุงยางที่ถูกลงเพราะการแข่งขันที่รุนแรง