xs
xsm
sm
md
lg

โจ๋เสนอหลักสูตร “เพศ” รับวาเลนไทน์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ถือเป็นสุดสัปดาห์สุดท้ายก่อนถึงเทศกาลแห่งความรักประจำปีนี้ บรรดาผู้ใหญ่ใจดีหลายๆ ฝ่าย จึงได้ให้การสนับสนุนเครือข่ายเยาวชน ให้จัดกิจกรรมวาเลนไทน์ขึ้น ภายใต้ชื่อหัวข้อกิจกรรมว่า “วาเลนไทน์วัย X ต้อง Sex Education” จุดประสงค์ก็เพื่อสมองมันๆ จากมันสมองของเยาวชนคนวัยเอ็กซ์ แลกเปลี่ยนความคิดและทัศนคติในประเด็น “เพศศึกษาแบบไหนที่วัยรุ่นอยากเรียน” โดยมีตัวแทนวัยโจ๋ทั้งหญิงและชาย ร่วมเสวนาในประเด็นดังกล่าวด้วย

ชลลี่ หรือ ชล วัจจานานนท์ นางเอกวัยรุ่นจากภาพยนตร์ “สวยลากไส้” ได้บอกเล่าประสบการณ์ในห้องเรียนวิชาสุขศึกษาเรื่องเพศศึกษาที่เธอเคยเรียน ว่า การสอนของอาจารย์จะสอนความต่างของเพศชายและเพศหญิงแบบผิวเผินไม่มากนัก แต่จะลงลึกในส่วนของการคุมกำเนิด และเรื่องเพศศึกษาเชิงวิชาการอื่นๆ

“มันทำให้หนู ซึ่งเป็นนักเรียนในขณะนั้นก็รู้สึกเหมือนกันว่ามันมีบางส่วนที่หายไป มี Space ที่ตกหล่นที่ไม่ได้หยิบยกขึ้นมาพูดหรือสอนกัน”

นางเอกสาวจากภาพยนตร์ชื่อสยอง ยังได้เสนอแนวการสอนเพศศึกษาที่เธอเชื่อว่าน่าจะเป็นประโยชน์ต่อเด็กรุ่นใหม่ตามแนวคิดของเธอว่า ควรเริ่มสอนเพศศึกษาในโรงเรียนตั้งแต่ชั้นเล็กๆ และเรียนต่อเนื่องไปตลอดทุกปี โดยเนื้อหาก็ปรับให้ตามความเหมาะสมที่เด็กวัยนั้นๆ เรียนรู้

“เช่น ชั้นเล็กๆ ก็ปูพื้นฐานให้เขาก่อน ให้เขารู้ว่าความต่างของเพศระหว่างหญิงและชายมีอะไรบ้าง จากนั้นก็ปล่อยให้เด็กหญิงและชายจับกลุ่มกันเพื่ออภิปราย เด็กชายก็จะได้มุมมองของเพื่อนเพศตรงข้าม ในขณะที่เด็กหญิงก็จะได้มุมมองจากเพศตรงข้ามเช่นเดียวกัน” น้องชลกล่าว

ส่วนประเด็นสำคัญอีกเรื่องหนึ่ง คือ เรื่องความรักใคร่ในวัยรุ่นในช่วงวาเลนไทน์นั้น น้องชลลี่กล่าวว่า ตามแนวคิดของฝั่งตะวันตก เทศกาลวาเลนไทน์ถือเป็นเทศกาลแห่งความรัก ซึ่งไทยก็ได้รับเอาวัฒนธรรมวันนี้เข้ามา แต่มุมมองความรักในวัยรุ่นนั้นมักจะมีเรื่องของเรื่องทางเพศเข้ามาปะปนด้วย

“คุณแม่ของหนูพูดเสมอว่า พวกวัยรุ่นอย่างพวกเธอนี่แทบจะ any where ant time ทุกที่ทุกเวลาหากเกิดอยากจะทำขึ้นมา ไปห้ามตรงนั้นก็จะแอบไปทำตรงโน้น คิดว่า ยากมากที่จะไปจับตาดูว่าเขาจะไปทำอะไรตรงไหน มันแทบจะเป็นไปไม่ได้ที่จะไปนั่งเฝ้าหรือเดินตามทุกก้าว

หนูว่าที่สำคัญที่สุด ก็คือ ทำอย่างไรให้เขาเข้าใจในความเป็นห่วงของพ่อแม่ผู้ปกครอง และรักตัวเอง ทำอย่างไรให้คำเตือนด้วยความหวังดีของเรา อยู่ในจิตสำนึกของเขา ในวินาทีที่เขาอยู่ในภาวะล่อแหลม อาจจะอยู่ในภาวะตัดสินใจว่าจะยอมมีเพศสัมพันธ์กับแฟนดีไหม ให้เขาคิดถึงหน้าพ่อหน้าแม่ คิดถึงว่าท่านจะเป็นห่วงไหม จะเสียใจไหม สอนให้เขามีสำนึกตรงนี้จะดีที่สุด เขาจะได้รู้จักยับยั้งชั่งใจได้ด้วยตัวเอง” น้องชลลี่ กล่าว

ด้านหนุ่มน้อยวัยทำงานอย่าง “สิงห์” วรรณสิงห์ ประเสริฐกุล นักเขียนและนักพัฒนารุ่นใหม่ไฟแรง ได้เล่าย้อนไปถึงสมัยที่เขาศึกษาอยู่ในชั้นมัธยมที่มีการสอนเพศศึกษา ว่า จะเรียนเป็นเชิงวิชาการเช่นเดียวกับชลลี่

“เรียนเรื่องวิธีการตั้งครรภ์ เช่น สเปิร์มมาจากทางไหน เจอเอ็มบริโอได้ยังไง การทำกิฟต์มีวิธีและขั้นตอนอะไร ซึ่งสำหรับผม ผมว่ามันหลุดออกจากความเป็นจริง คือ มันอาจจะเป็นขั้นตอนข้อเท็จจริงทางวิทยาศาสตร์ แต่ว่ามันห่างไกลจากความเป็นจริงจากที่เด็กอยากรู้และพบเจอในชีวิตประจำวันเมื่อถึงวัยที่เราต้องมีเพศสัมพันธ์”

วรรณสิงห์ ได้นำเสนอมุมมองจากแนวคิดแบบผู้ชายๆ ว่า ส่วนตัวแล้วเขาอยากให้มีการเรียนแบบเปิดกว้าง เปิดเผย ถ้าจำเป็นจะต้องดูวีดีโอการมีเพศสัมพันธ์ที่คัดแล้วว่าเนื้อหาเพื่อการศึกษา ก็อยากให้เด็กมีโอกาสได้ดู

“วิดีโอการมีเพศสัมพันธ์นะครับ ไม่ใช่หนังโป๊ คือ ผมเชื่อว่าเด็กจะมีกระบวนการคิด คือ ถ้าเป็นวิดีโอที่เปิดในชั้น มีครูคุมอยู่ เด็กจะรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องของการศึกษา ไม่ใช่เรื่องที่ปกปิดมากนัก เขาจะได้ไม่ไปแอบดูเองที่อื่น ซึ่งในขณะเดียวกันหากเป็นวีดีโอม้วนเดียวกัน เด็กไปแอบดูกันเอง แน่นอนว่าจะต้องนั่งหัวเราะคิกคัก วิจารณ์นั่นนี่ไปตามอารมณ์คะนองของเด็ก ซึ่งผิดกับอารมณ์ที่อยู่ในชั้นเรียน”

วรรณสิงห์ กล่าวต่อในประเด็นของทัศนคติวัยโจ๋กับการแสดงความรักในวันวาเลนไทน์ ว่า ถึงเป็นวันธรรมดาเด็กวัยรุ่นก็จะแสดงความรักต่อกัน เพราะขณะนี้สังคมเปลี่ยนไป ไม่ใช่เฉพาะเด็กไทยเท่านั้น แต่เป็นเด็กวัยรุ่นทั่วโลกที่สนใจเรื่องเพศ เพราะมีค่านิยมที่คิดว่าเป็นเรื่องโก้เก๋

“ต้องเปลี่ยนทัศนคติครับ แต่ก็เป็นเรื่องที่ยากมาก เปลี่ยนกฎหมายง่ายกว่า คือ ต้องเปลี่ยนมุมมองว่า ไม่ใช่มีกิ๊กเยอะแล้วเท่ ไม่ใช่มีประสบการณ์ทางเพศเยอะแล้วจะถือว่าเจ๋ง หรือไม่ใช่ว่ามีแฟนแล้วมีเพศสัมพันธ์กับแฟนเป็นเรื่องที่แน่ มันต้องเปลี่ยนไปมองว่า ประดิษฐ์หุ่นยนต์ได้เป็นเรื่องเท่ เรียนได้ 4.00 เป็นเรื่องที่โก้ ถ้าเราเปลี่ยนทัศนคติเด็กได้ ปัญหานี้จะลดน้อยลงครับ

สำหรับทัศนคติและความเห็นของวัยรุ่นอื่นๆ ที่มาร่วมงานนั้น ได้แสดงผ่านกระดาษโพสต์อิทที่แจกให้เขียน และแปะไว้บนกระดานที่เตรียมเอาไว้ โดยเด็กวัยรุ่นที่มาร่วมกิจกรรม ได้มีโอกาสเขียนแสดงความคิดเห็น “เพศศึกษาที่วัยรุ่นอยากเรียน” ส่วนใหญ่จะเป็นการแสดงความคิดเห็นไปในแนวเดียวกัน คือ อยากให้ครู พ่อแม่ ผู้ใหญ่ และสังคมเปิดกว้างกว่านี้ และมีตัวอย่างอุปกรณ์ในการสอนเพศศึกษา เช่น อวัยวะเพศเทียมเพื่อการศึกษา เพื่อให้เห็นภาพจริงอย่างชัดเจน
กำลังโหลดความคิดเห็น