ปชป.เปิดตัว ครม.เงากร่อย เมินโชว์ตัวคณะรัฐมนตรี ส่งโฆษกพรรคแถลง “อภิสิทธิ์” เงานายกฯ ควบ รมว.ศึกษาฯ “กรณ์ จาติกวณิช” ขุนคลัง “เกียรติ สิทธีอมร” รมว.พาณิชย์ “ชัยวุฒิ” รมว.อุตฯ “สุเทพ” มท.1ประกบ “เฉลิม” ประเดิมชำแหละนโยบายรัฐบาล “มาร์ค” นัดประชุมจันทรนี้เพื่อเสนอแนะการแก้ปัญหาให้รัฐบาล เลขาฯพปช.ระบุ ครม.เป็นเป็นเรื่องเก่าในอดีต ทรท.เคยทำมาแล้ว ขณะที่ โฆษกฯ พปช.อ้างปชป.ทำประชาชนสับสนเพราะในอดีตไม่เคยมีการตั้ง ครม.เงามาก่อน
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคพลังประชาชน แถลงหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อพิจารณาและรับทราบ ผลการประชุม ส.ส.และกรรมการบริหารพรรค ที่จังหวัดชลบุรี เมื่อปลายเดือนที่ผ่านมาที่ประชุมเห็นด้วยที่จะใช้กลไกการติดตามตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลในรูปแบบของคณะรัฐมนตรี (ครม.) เงา โดยรายชื่อ ครม.เงา ประกอยด้วย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวพรรค เป็นผู้นำ ครม.เงา รองนายกรัฐมนตรีประกอบด้วย นายสุทัศน์ เงินหมื่น นายโพธิพงษ์ ล่ำซำ นายอลงกรณ์ พลบุตร นายพิเชษฐ์ พันธุ์วิชาติกุล และนายกษิต ภิรมย์
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ และ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ เป็น รัฐมนตรีประจำสำนัก นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็น รมว.ศึกษาธิการ นายกนก วงศ์ตระหง่าน และนายชินวรณ์ บุญยเกียรติ เป็นรมช. ศึกษาธิการ นายกรณ์ จาติกวณิช เป็นรมว.คลัง นายสรรเสริญ สมะลาภา และนายจุติ ไกรฤกษ์ เป็นรมช.คลัง นายเกียรติ สิทธีอมร เป็น รมว.พาณิชย์ นายสาธิต ปิตุเตชะ เป็นรมช.พาณิชย์ นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ เป็น รมว.อุตสาหกรรม
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เป็น รมว.มหาดไทย นายถาวร เสนเนียม เป็น รมช.มหาดไทย นายพีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค เป็น รมว.ยุติธรรม พล.อ.พิชาญเมธ ม่วงมณ อดีต แม่ทัพภาคที่ 3 เป็น รมว.กลาโหม ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร เป็น รมว.ต่างประเทศ นายกษิต ภิรมย์ เป็น รมช.ต่างประเทศ นายเทอดพงษ์ ไชยนันท์ เป็น รมว.สาธารณสุข นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ เป็น รมช.สาธารณสุข
คุณหญิกัลยา โสภณพานิช เป็น รมว.วิทยาศาสตร์ฯ นายธีระ สลักเพชร เป็น รมว.วัฒนธรรม พ.อ.วินัย สมพงษ์ เปน รมว.คมนาคม นายนิพนธ์ บุญญามณี เป็น รมช.คมนาคม นายไกรศักดิ์ ชุรหะวัณ เป็น รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายไตรรงค์ สุวรรณคิรี เป็น รมว.เกษตรและสหกรณ์ นายอาคม เอ่งฉ่วน เป็น รมช.เกษตรฯ นายวิฑูรย์ นามบุตร เป็น รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ เป็น รมว.พลังงาน นายวิทยา แก้วภราดัย เป็น รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย เป็น รมว.เทคโนโลยีและการสื่อสาร และนายไพฑูรย์ แก้วทอง เป็น รมว.แรงงาน
นายองอาจ กล่าวว่า ครม.เงาถือเป็นกลไกในการตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล พรรคประชาธิปัตย์ไม่มีเจตนาในการเปรียบเทียบ ครม.จริงของรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช กับ ครม.เงา และไม่ได้เป็นเกมการเมืองการเมืองแต่อย่างใด แต่ถือเป็นวิวัฒนาการทางการเมืองและเป็นมิติใหม่ในการตรวจสอบติดตามการทำงาน ของรัฐบาล ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนทั้งประเทศ และเป็นผลดีต่อการเมืองของไทยด้วย
นายองอาจ กล่าวว่าผลดีของ ครม.เงา คือการกระตุ้นให้รัฐบาลสร้างผลงาน ประชาชนได้ประโยชน์ และทำให้พรรคฝ่ายค้านและรัฐบาลตื่นตัวในการทำงานมากขึ้น ครม.เงามีหน้าที่ในการเสนอแนะการทำงานกับรัฐบาลสร้างสรรค์เพื่อให้ประชาชนได้เกิดการเปรียบเทียบการเสนอเสนอความเห็นของรัฐบาลกับพรรคฝ่ายค้าน เป็นการเสริมสร้างระบบการทำงานในรัฐสภาให้มีความเข้มแข็งมากขึ้น ขณะเดียวกันเป็นการสร้างความเข้มแข็งให้กับฝ่ายบริหารด้วย ทำให้รัฐบาลและพรรคฝ่ายค้าน ได้ถูกตรวจสอบจากสังคม
ทั้งยังเป็นการกระจายทำงานของบุคคลากรภายในพรรคนอกจากการเป็น กรรมาธิการตามกลไกในระบบรัฐสภา ประสานงานกับรัฐสภาในส่วนของกรรมาธิการ เพื่อทำให้การทำงานมีความเข้มแข็งมากขึ้น มีความรับผิดชอบตลอดเวลา ที่สำคัญ ครม.เงา จะเป็นบรรทัดฐานทางการเมืองต่อไปในอนาคตว่าหากพรรคการเมืองใด ได้เป็นพรรคฝ่ายค้านจะต้องมีการตั้ง ครม.เงา ขึ้นมาติดตามการทำงานของรัฐบาล เพื่อผลประโยชน์ของประชาชนส่วนร่วมอย่างแท้จริง
นายองอาจ กล่าวว่า ครม.เงาจะเริ่มประชุมและทำงานอย่างเป็นทางการในวันที่ 11 ก.พ.นี้ เพื่อติดตามนโยบายของรัฐบาลที่จะแถลงต่อรัฐสภาในวันที่ 18 ก.พ.นี้ พร้อมทั้งติดตามภาพรวมการบริหารงานของรัฐบาลทั้งหมดภายใต้นโยบาย ที่ได้แถลงต่อรัฐสภา
อย่างไรก็ตามในการอภิปรายการแถลงนโยบายของรัฐบาล พรรคไม่ได้กำหนด เฉพาะ ครม.เงาเท่านั้น แต่ ส.ส.ทุกคนของพรรคสามารถที่จะอภิปรายได้อย่าง เท่าเทียมกัน ซึ่งขึ้นอยู่กับมติของที่ประชุมพรรคว่าจะตัดสินใจให้ใครรับหน้าที่อภิปราย เพื่อให้เกิดความชัดเจนมากขึ้น ที่สำคัญ ครม.เงาจะมีการประชุมเพื่อนำข้อหารือ มาแถลงกับสื่อมวลชนอย่างเป็นทางการเพื่อให้เป็นจุดยืนและแนวคิดทางการเมือง ของพรรค ไม่ใช่จุดยืนส่วนตัว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การแถลงเปิดตัว ครม.เงาของพรรคประชาธิปัตย์ ครั้งนี้ค่อนข้างสร้างความผิดหวังให้กับสื่อมวลชนที่มารอทำข่าวเป็นอย่ามาก เพราะมีทั้งผู้สื่อข่าวต่างประเทศและภายในประเทศมารอติดตามการแถลงข่าวอย่างคึกคัก แต่ปรากฏว่าพอถึงเวลาการแถลง พรรคประชาธิปัตย์ กับมอบหมายหน้าที่ให้ ทีมโฆษพรรคแถลง นำโดยนายองอาจ โดยไม่มีแกนนำพรรค รวมถึง ครม.เงา มาร่วมแถลงและปรากฏตัวต่อสื่อมวลชนแต่อย่างใด
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุถึงการทำงานของรัฐบาลว่า ต้องการให้รัฐบาลแสดงท่าทีที่ชัดเจนนโยบายด้านต่างๆ โดยในวันจันทร์ที่ 11 ก.พ.นี้ พรรคประชาธิปัตย์จะมีการประชุมนัดแรก เพื่อทำความเข้าใจในการทำงาน และเสนอแนะปัญหาของประเทศแก่รัฐบาล นอกจากจะให้ความสำคัญในการแก้ปัญหาด้านเศรษฐกิจแล้ว ยังต้องแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และด้านการศึกษาด้วย และขอให้รัฐบาลใช้เวลาช่วงนี้ตั้งหลักการแก้ปัญหาใหญ่ๆมากกว่าการพูดเป็นรายโครงการ และขอร้องรัฐบาลพิจารณาข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์อย่าได้รังเกียจเพราะเห็นว่าเป็นพรรคฝ่ายค้าน
นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง กล่าวว่า เรื่องครม.เงา ไม่ใช่เรื่องใหม่ ในปี 2543 พรรคไทยรักไทยได้เคยตั้งครม.เงามาแล้ว และตนเอง ก็เคยเป็นครม.เงาของกระทรวงสาธารณะสุขในครั้งนั้นและมีการประชุมทุกๆ สัปดาห์เช่นเดียวกัน ดังนั้นเป็นเรื่องที่เคยทำกันทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศหลายประเทศ อาทิ อังกฤษ
“ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีที่จะช่วยกันตรวจสอบหรือเสนอแนะ และถ้าเป็นการทำงาน อย่างสร้างสรรค์ก็จะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้งานการเมืองและประชาธิปไตยของไทยรุดหน้าต่อไป”
ขณะที่ ร.ท.กุเทพ ใสกระจ่าง โฆษกพรรคพลังประชาชน กล่าวว่า รูปแบบการตั้ง ครม.เงาของฝ่ายค้านทำให้ประชาชนสับสน เพราะระบบการเมืองไทยไม่เคยมีมาก่อน ทำให้เกิดความคิดว่าต่อไปจะต้องเป็นบรรทัดฐานเมื่อมี ครม ตั้งรัฐบาลแล้วต้องมีครม.เงาหรือไม่ รวมทั้งยังเป็นเรื่องยากที่จะอธิบายต่อประชาชน ทำให้ประชาชนมองว่าพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ ยังอยากมาเป็นรัฐบาลอีก ทั้งๆที่ในระบบการเมืองไทย มีการตรวจสอบโดยผ่านกรรมาธิการต่างๆ ซึ่งตรงนี้มีกฎหมายรองรับชัดเจน แต่ ครม.เงาของพรรคประชาธิปัตย์ไม่มีกฎหมายรองรับ ไม่มีอำนาจเรียก ข้าราชการมาชี้แจงทำได้แค่หาข้อมูลนอกกรอบ
“ถ้าใช้คำว่ารัฐบาลเงา ตรงนี้ก็เห็นชัดว่าไม่ใช่ของจริง เป็นเพียงเงาที่จะตั้ง อย่างไรก็ได้ให้ดูดี จะไปหาคนที่มีประวัติดีมาเทียบกับ ครม.จริงก็ได้ นอกจากนี้การตั้ง ครม.จริงมีข้อจำกัดมากกว่าไม่ได้ทำเพียงผิวเผิน หากเปรียบ ครม.เงาของพรรคประชาธิปัตย์ก็เปรียบเหมือน หนังตะลุงของภาคใต้ ที่ตัดตัวละคร ตัวการ์ตูนแล้วใช้เงา มาแสดง ตรงนี้เป็นที่นิยมในภาคใต้ก็จริงแต่ก็นิยมเฉพาะภาคใต้ แต่ไม่นิยมในวงกว้าง โดยเฉพาะการสื่อสารว่าจริงๆแล้วสถานะทางสังคมของรัฐบาลเงาคืออะไรกันแน่ ต้องให้เรียกว่าท่านคณะรัฐมนตรีเงาด้วยหรือไม่”
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคพลังประชาชน แถลงหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อพิจารณาและรับทราบ ผลการประชุม ส.ส.และกรรมการบริหารพรรค ที่จังหวัดชลบุรี เมื่อปลายเดือนที่ผ่านมาที่ประชุมเห็นด้วยที่จะใช้กลไกการติดตามตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลในรูปแบบของคณะรัฐมนตรี (ครม.) เงา โดยรายชื่อ ครม.เงา ประกอยด้วย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวพรรค เป็นผู้นำ ครม.เงา รองนายกรัฐมนตรีประกอบด้วย นายสุทัศน์ เงินหมื่น นายโพธิพงษ์ ล่ำซำ นายอลงกรณ์ พลบุตร นายพิเชษฐ์ พันธุ์วิชาติกุล และนายกษิต ภิรมย์
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ และ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ เป็น รัฐมนตรีประจำสำนัก นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็น รมว.ศึกษาธิการ นายกนก วงศ์ตระหง่าน และนายชินวรณ์ บุญยเกียรติ เป็นรมช. ศึกษาธิการ นายกรณ์ จาติกวณิช เป็นรมว.คลัง นายสรรเสริญ สมะลาภา และนายจุติ ไกรฤกษ์ เป็นรมช.คลัง นายเกียรติ สิทธีอมร เป็น รมว.พาณิชย์ นายสาธิต ปิตุเตชะ เป็นรมช.พาณิชย์ นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ เป็น รมว.อุตสาหกรรม
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เป็น รมว.มหาดไทย นายถาวร เสนเนียม เป็น รมช.มหาดไทย นายพีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค เป็น รมว.ยุติธรรม พล.อ.พิชาญเมธ ม่วงมณ อดีต แม่ทัพภาคที่ 3 เป็น รมว.กลาโหม ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร เป็น รมว.ต่างประเทศ นายกษิต ภิรมย์ เป็น รมช.ต่างประเทศ นายเทอดพงษ์ ไชยนันท์ เป็น รมว.สาธารณสุข นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ เป็น รมช.สาธารณสุข
คุณหญิกัลยา โสภณพานิช เป็น รมว.วิทยาศาสตร์ฯ นายธีระ สลักเพชร เป็น รมว.วัฒนธรรม พ.อ.วินัย สมพงษ์ เปน รมว.คมนาคม นายนิพนธ์ บุญญามณี เป็น รมช.คมนาคม นายไกรศักดิ์ ชุรหะวัณ เป็น รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายไตรรงค์ สุวรรณคิรี เป็น รมว.เกษตรและสหกรณ์ นายอาคม เอ่งฉ่วน เป็น รมช.เกษตรฯ นายวิฑูรย์ นามบุตร เป็น รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ เป็น รมว.พลังงาน นายวิทยา แก้วภราดัย เป็น รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย เป็น รมว.เทคโนโลยีและการสื่อสาร และนายไพฑูรย์ แก้วทอง เป็น รมว.แรงงาน
นายองอาจ กล่าวว่า ครม.เงาถือเป็นกลไกในการตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล พรรคประชาธิปัตย์ไม่มีเจตนาในการเปรียบเทียบ ครม.จริงของรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช กับ ครม.เงา และไม่ได้เป็นเกมการเมืองการเมืองแต่อย่างใด แต่ถือเป็นวิวัฒนาการทางการเมืองและเป็นมิติใหม่ในการตรวจสอบติดตามการทำงาน ของรัฐบาล ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนทั้งประเทศ และเป็นผลดีต่อการเมืองของไทยด้วย
นายองอาจ กล่าวว่าผลดีของ ครม.เงา คือการกระตุ้นให้รัฐบาลสร้างผลงาน ประชาชนได้ประโยชน์ และทำให้พรรคฝ่ายค้านและรัฐบาลตื่นตัวในการทำงานมากขึ้น ครม.เงามีหน้าที่ในการเสนอแนะการทำงานกับรัฐบาลสร้างสรรค์เพื่อให้ประชาชนได้เกิดการเปรียบเทียบการเสนอเสนอความเห็นของรัฐบาลกับพรรคฝ่ายค้าน เป็นการเสริมสร้างระบบการทำงานในรัฐสภาให้มีความเข้มแข็งมากขึ้น ขณะเดียวกันเป็นการสร้างความเข้มแข็งให้กับฝ่ายบริหารด้วย ทำให้รัฐบาลและพรรคฝ่ายค้าน ได้ถูกตรวจสอบจากสังคม
ทั้งยังเป็นการกระจายทำงานของบุคคลากรภายในพรรคนอกจากการเป็น กรรมาธิการตามกลไกในระบบรัฐสภา ประสานงานกับรัฐสภาในส่วนของกรรมาธิการ เพื่อทำให้การทำงานมีความเข้มแข็งมากขึ้น มีความรับผิดชอบตลอดเวลา ที่สำคัญ ครม.เงา จะเป็นบรรทัดฐานทางการเมืองต่อไปในอนาคตว่าหากพรรคการเมืองใด ได้เป็นพรรคฝ่ายค้านจะต้องมีการตั้ง ครม.เงา ขึ้นมาติดตามการทำงานของรัฐบาล เพื่อผลประโยชน์ของประชาชนส่วนร่วมอย่างแท้จริง
นายองอาจ กล่าวว่า ครม.เงาจะเริ่มประชุมและทำงานอย่างเป็นทางการในวันที่ 11 ก.พ.นี้ เพื่อติดตามนโยบายของรัฐบาลที่จะแถลงต่อรัฐสภาในวันที่ 18 ก.พ.นี้ พร้อมทั้งติดตามภาพรวมการบริหารงานของรัฐบาลทั้งหมดภายใต้นโยบาย ที่ได้แถลงต่อรัฐสภา
อย่างไรก็ตามในการอภิปรายการแถลงนโยบายของรัฐบาล พรรคไม่ได้กำหนด เฉพาะ ครม.เงาเท่านั้น แต่ ส.ส.ทุกคนของพรรคสามารถที่จะอภิปรายได้อย่าง เท่าเทียมกัน ซึ่งขึ้นอยู่กับมติของที่ประชุมพรรคว่าจะตัดสินใจให้ใครรับหน้าที่อภิปราย เพื่อให้เกิดความชัดเจนมากขึ้น ที่สำคัญ ครม.เงาจะมีการประชุมเพื่อนำข้อหารือ มาแถลงกับสื่อมวลชนอย่างเป็นทางการเพื่อให้เป็นจุดยืนและแนวคิดทางการเมือง ของพรรค ไม่ใช่จุดยืนส่วนตัว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การแถลงเปิดตัว ครม.เงาของพรรคประชาธิปัตย์ ครั้งนี้ค่อนข้างสร้างความผิดหวังให้กับสื่อมวลชนที่มารอทำข่าวเป็นอย่ามาก เพราะมีทั้งผู้สื่อข่าวต่างประเทศและภายในประเทศมารอติดตามการแถลงข่าวอย่างคึกคัก แต่ปรากฏว่าพอถึงเวลาการแถลง พรรคประชาธิปัตย์ กับมอบหมายหน้าที่ให้ ทีมโฆษพรรคแถลง นำโดยนายองอาจ โดยไม่มีแกนนำพรรค รวมถึง ครม.เงา มาร่วมแถลงและปรากฏตัวต่อสื่อมวลชนแต่อย่างใด
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุถึงการทำงานของรัฐบาลว่า ต้องการให้รัฐบาลแสดงท่าทีที่ชัดเจนนโยบายด้านต่างๆ โดยในวันจันทร์ที่ 11 ก.พ.นี้ พรรคประชาธิปัตย์จะมีการประชุมนัดแรก เพื่อทำความเข้าใจในการทำงาน และเสนอแนะปัญหาของประเทศแก่รัฐบาล นอกจากจะให้ความสำคัญในการแก้ปัญหาด้านเศรษฐกิจแล้ว ยังต้องแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และด้านการศึกษาด้วย และขอให้รัฐบาลใช้เวลาช่วงนี้ตั้งหลักการแก้ปัญหาใหญ่ๆมากกว่าการพูดเป็นรายโครงการ และขอร้องรัฐบาลพิจารณาข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์อย่าได้รังเกียจเพราะเห็นว่าเป็นพรรคฝ่ายค้าน
นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง กล่าวว่า เรื่องครม.เงา ไม่ใช่เรื่องใหม่ ในปี 2543 พรรคไทยรักไทยได้เคยตั้งครม.เงามาแล้ว และตนเอง ก็เคยเป็นครม.เงาของกระทรวงสาธารณะสุขในครั้งนั้นและมีการประชุมทุกๆ สัปดาห์เช่นเดียวกัน ดังนั้นเป็นเรื่องที่เคยทำกันทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศหลายประเทศ อาทิ อังกฤษ
“ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีที่จะช่วยกันตรวจสอบหรือเสนอแนะ และถ้าเป็นการทำงาน อย่างสร้างสรรค์ก็จะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้งานการเมืองและประชาธิปไตยของไทยรุดหน้าต่อไป”
ขณะที่ ร.ท.กุเทพ ใสกระจ่าง โฆษกพรรคพลังประชาชน กล่าวว่า รูปแบบการตั้ง ครม.เงาของฝ่ายค้านทำให้ประชาชนสับสน เพราะระบบการเมืองไทยไม่เคยมีมาก่อน ทำให้เกิดความคิดว่าต่อไปจะต้องเป็นบรรทัดฐานเมื่อมี ครม ตั้งรัฐบาลแล้วต้องมีครม.เงาหรือไม่ รวมทั้งยังเป็นเรื่องยากที่จะอธิบายต่อประชาชน ทำให้ประชาชนมองว่าพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ ยังอยากมาเป็นรัฐบาลอีก ทั้งๆที่ในระบบการเมืองไทย มีการตรวจสอบโดยผ่านกรรมาธิการต่างๆ ซึ่งตรงนี้มีกฎหมายรองรับชัดเจน แต่ ครม.เงาของพรรคประชาธิปัตย์ไม่มีกฎหมายรองรับ ไม่มีอำนาจเรียก ข้าราชการมาชี้แจงทำได้แค่หาข้อมูลนอกกรอบ
“ถ้าใช้คำว่ารัฐบาลเงา ตรงนี้ก็เห็นชัดว่าไม่ใช่ของจริง เป็นเพียงเงาที่จะตั้ง อย่างไรก็ได้ให้ดูดี จะไปหาคนที่มีประวัติดีมาเทียบกับ ครม.จริงก็ได้ นอกจากนี้การตั้ง ครม.จริงมีข้อจำกัดมากกว่าไม่ได้ทำเพียงผิวเผิน หากเปรียบ ครม.เงาของพรรคประชาธิปัตย์ก็เปรียบเหมือน หนังตะลุงของภาคใต้ ที่ตัดตัวละคร ตัวการ์ตูนแล้วใช้เงา มาแสดง ตรงนี้เป็นที่นิยมในภาคใต้ก็จริงแต่ก็นิยมเฉพาะภาคใต้ แต่ไม่นิยมในวงกว้าง โดยเฉพาะการสื่อสารว่าจริงๆแล้วสถานะทางสังคมของรัฐบาลเงาคืออะไรกันแน่ ต้องให้เรียกว่าท่านคณะรัฐมนตรีเงาด้วยหรือไม่”
