xs
xsm
sm
md
lg

บริดจสโตนทุ่มซื้อเชลล์ฯ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน - "บริดจสโตน" หวังกินเรียบตลาดดูแลบำรุงรักษารถยนต์ ทุ่มเงินซื้อ "เชลล์ออโตเซิร์ฟ" ในไทยและมาเลเซีย รวม 72 สาขา จากค่ายน้ำมันชื่อดัง "เชลล์" ทั้งที่มีศูนย์บริการ "ค็อกพิท"อยู่แล้ว เท่านั้นไม่พอเดินหน้าลงทุน 3.5 พันล้านบาท เพิ่มกำลังการผลิตยางเรเดียลในไทย หลังจากควักกว่า 1.2 พันล้านบาท สร้างศูนย์ทดสอบยางรถยนต์ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคนี้ไปก่อนหน้านี้

รายงานจาก บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ (4 ก.พ.) บริษัทฯ ได้เซ็นสัญญาตกลงขยายธุรกิจเชลล์ ออโต้เซิร์ฟ ในประเทศไทย และมาเลเซีย ซึ่งมีเครือข่ายสาขาให้บริการดูแลรักษารถยนต์ บริการด้านยางรถยนต์ และน้ำมันเครื่อง ให้กับบริษัท บริดจสโตน โฮลดิ้ง ประเทศไทย (BSHT) และบริษัท บริดจสโตน ไทร์ เซลส์ (มาเลเซีย) SDN.BHD โดยทั้งสองบริษัทอยู่ในเครือของ บริษัท บริดจสโตน คอร์ปอเรชั่น แต่รายละเอียดของสัญญาซื้อขายครั้งนี้ยังไม่เป็นที่เปิดเผย
การตกลงซื้อขายธุรกิจเชลล์ออโต้เซิร์ฟครั้งนี้ ประกอบด้วยเครือข่ายทั้งหมด 64 สาขาในประเทศไทย และอีก 8 สาขาในมาเลเซีย นอกจากนี้ทั้งสองบริษัทยังบรรลุข้อตกลง ที่จะให้บริษัทเชลล์เป็นผู้จัดหาน้ำมันเครื่องในระยะยาวให้กับเชลล์ ออโต้เซิร์ฟ ต่อไป
นายสุรศักดิ์ โฆษะทัต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เชลล์ ออโต้เซิร์ฟ จำกัด กล่าวว่า การขายหุ้นครั้งนี้จะไม่มีผลกระทบกับธุรกิจอื่นๆ ของบริษัทเชลล์ในประเทศไทย ซึ่งบริษัทยังคงเป็นผู้ลงทุนสำคัญในอุตสาหกรรมน้ำมันของไทย เห็นได้จากการลงทุนหลักๆที่ผ่านมาในธุรกิจค้าปลีกน้ำมัน เช่น การปรับโฉมสถานีบริการน้ำมันเชลล์ การเปิดตัวผลิตภัณฑ์น้ำมันใหม่ ตลอดจนการลงทุนเปิดและขยายโรงงานผลิตน้ำมันเครื่องเชลล์
การตัดสินใจครั้งนี้สอดคล้องกับแผนกลยุทธ์ของบริษัท ที่จะจัดสรรและบริการการลงทุนให้มีความเหมาะสม ซึ่งระหว่างการขายกิจการครั้งนี้ บริษัทหวังว่าทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องทั้ง พนักงาน ลูกค้า จะได้รับผลกระทบน้อยที่สุด ขณะเดียวกันก็สามารถให้บริการลูกค้าด้วยมาตรฐานดีเช่นเดิมนายสุรศักดิ์ กล่าว
แหล่งข่าวจากบริษัท บริดจสโตน เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า การตกลงซื้อกิจการเชลล์ออโตเซิร์ฟของบริดจสโตนครั้งนี้ ผู้บริหารไทยเพิ่งทราบเมื่อเช้าวันที่ 4 ก.พ.เช่นเดียวกัน แต่ได้มีความเคลื่อนไหวมาระยะหนึ่งแล้ว เพราะมีคนบริดจสโตนจากประเทศญี่ปุ่น เข้ามาประจำอยู่ที่ไทยมากผิดปกติ
ส่วนการซื้อเชลล์ออโตเซิร์ฟในไทย จะทำให้บริดจสโตนมีความเข้มแข็ง ในตลาดดูแลบำรุงรักษารถยนต์มากขึ้น จากปัจจุบันที่บริดจสโตนมีศูนย์ค็อกพิทให้บริการอยู่แล้ว ซึ่งการซื้อศูนย์บริการเชลล์ ออโตเซิร์ฟ ที่มีฐานลูกค้าจำนวนมาก เชื่อว่าจะส่งผลดีต่อบริดจสโตนอย่างแน่นอน
ขณะเดียวกันบริษัท ไทยบริดจสโตน จำกัด ผู้ผลิตยางบริดจสโตนในประเทศไทย ได้เปิดเผยถึงแผนการลงทุนโรงงานผลิตรถยางรถยนต์ในไทยว่า ไทยบริดจสโตนได้รับการอนุมัติจากบริษัทแม่ บริดจสโตน คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีนายโชชิ อารากาวา เป็นประธานบริษัท ให้เพิ่มการผลิตยางเรเดียลสำหรับรถยนต์นั่งส่วนบุคล ที่โรงงานหนองแค จังหวัดสระบุรี เพื่อรองรับการขยายตัวของตลาดทั้งในและต่างประเทศ
แผนการขยายการลงทุนครั้งนี้ มีมูลค่าลงทุนทั้งสิ้น 1 หมื่นล้านเยน หรือ 3 พันล้านบาท ซึ่งจะเพิ่มกำลังผลิตอีกวันละ 6,000 เส้น ภายในปี 2553 ส่งผลให้ที่โรงงานหนองแคมีกำลังการผลิตรวม 36,500 เส้นต่อวัน
สำหรับโรงงานหนองแคปัจจุบัน ได้ผลิตยางเรเดียลสำหรับรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ส่งจำหน่ายตลาดยางทดแทน (REM) และตลาดโรงงานประกอบรถยนต์(OEM) ทั้งในประเทศและส่งออกไปประเทศต่างๆ ในทวีปเอเชีย ยุโรป และอเมริกาเหนือ ซึ่งการตัดสินใจขยายกำลังการผลิตครั้งนี้ เนื่องจากมีการคาดการณ์ว่า ความต้องการยางเรเดียลสำหรับรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ของตลาดในประเทศและตลาดส่งออกจะเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันไทยบริดจสโตนเตรียมเพิ่มการผลิตยางสมรรถนะสูง(UHP) และยางที่ใช้ในฤดูหนาวด้วย โดยจะเน้นไปที่การส่งออกเป็นหลัก
อนึ่งเมื่อปีที่ผ่านมา ไทยบริดจสโตนได้มีการลงทุนประมาณ 1,200 ล้านบาท เพื่อก่อสร้างสนามทดสอบยางรถยนต์แห่งใหม่ในไทย บริเวณใกล้เคียงกับโรงงานผลิตยางรถยนต์ที่หนองแค ซึ่งผลจากการลงทุนดังกล่าวทำให้สนามทดสอบยางรถยนต์แห่งใหม่ มีขนาดใหญ่และทันสมัยที่สุดในภูมิภาคนี้
กำลังโหลดความคิดเห็น