กกต.ให้ผู้สมัคร ส.ว.หาเสียงเรื่องหน้าที่ได้เต็มที่ ไม่ห้ามซื้อสื่อโฆษณาตัวเอง แค่ห้าม วาง โปรยในลักษณะ ใบปลิว
นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ กกต.กล่าวว่า กกต.ได้ออกระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการหาเสียง ข้อควรปฏิบัติ และข้อห้ามมิให้ปฏิบัติในส่วนที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา และการดำเนินการใดๆ ของผู้สมัครรับเลือกตั้งและผู้มีสิทธิเลือกตั้ง พ.ศ.2551 โดยยึดหลักการหาเสียงเลือกตั้ง ส.ว. สามารถหาเสียงได้ก็แต่เฉพาะที่เกี่ยวกับการปฏิบัติงานในหน้าที่ของวุฒิสภา เช่น อำนาจในด้านนิติบัญญัติ อำนาจในการควบคุมการตรากฎหมายที่ขัด หรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ การควบคุม การบริหารราชการแผ่นดิน การให้ความเห็นชอบในเรื่องสำคัญๆ ที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของแผ่นดิน การพิจารณาเลือกตั้ง แต่งตั้งให้คำแนะนำ ให้ความเห็นชอบบุคคลในองค์กรต่างๆ อำนาจในการถอดถอนบุคคลออกจากตำแหน่ง การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ เป็นต้น
สำหรับวิธีการในการหาเสียงนั้น สามารถ แจกเอกสาร หรือเทป หรือวัสดุโทรทัศน์ที่เกี่ยวกับการหาเสียงเลือกตั้งสามารถมีชื่อ รูปถ่าย หมายเลขประจำตัวผู้สมัคร ข้อมูลประวัติเฉพาะที่เกี่ยวกับตัวผู้สมัคร และข้อความหาเสียงที่เกี่ยวกับบทบาทหน้าที่ ส.ว. ในเขตชุมชน รวมทั้งใช้ยานพาหนะ เครื่องขยายเสียง และจัดทำประกาศหรือโปสเตอร์ ที่จะปิดได้ต้องมีขนาดกว้างไม่เกิน 30 เซนติเมตร และมีขนาดยาวไม่เกิน 42 เซนติเมตร (ขนาดกระดาษประมาณ A 3) ส่วนป้ายหรือคัตเอาต์ ต้องมีขนาดกว้างไม่เกิน 130 เซนติเมตร และมีขนาดยาวไม่เกิน 245 เซนติเมตร สามารถติดในสถานที่เอกชนได้ โดยห้ามแจกจ่ายเอกสารด้วยวิธีการวาง หรือโปรยในที่สาธารณะ
นอกจากนี้ยังสามารถโฆษณาหาเสียงเลือกตั้งทางวิทยุ โทรทัศน์ เว็บไซต์ จดหมาย สื่อสิ่งพิมพ์ และสื่ออิเล็กทรอนิกส์ รวมทั้งสามารถจัดทำเอกสารที่มีการกากบาทในช่องลงคะแนนเลือกตั้งให้กับตนเอง เพื่อใช้ในการหาเสียงเลือกตั้งให้กับตนเองได้ แต่ต้องไม่มีขนาด ลักษณะ หรือสีที่คล้ายกับบัตรเลือกตั้ง และต้องไม่ปรากฏหมายเลขประจำตัวของผู้สมัครอื่นด้วย
เลขาธิการ กกต. กล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้สมัครควรหาเสียงโดยปฏิบัติดังต่อไปนี้ คือ จัดฝึกอบรมให้กับบุคคลผู้ช่วยในการหาเสียงเลือกตั้ง โดยให้ความรู้เกี่ยวกับกฎหมายเลือกตั้ง หลีกเลี่ยงการใช้วิชาชีพหรือการประกอบอาชีพเกี่ยวกับรายการวิทยุโทรทัศน์ วิทยุกระจายเสียง สื่อสารมวลชน สื่อโฆษณา เช่น นักแสดง นักร้อง นักดนตรี พิธีกร สื่อมวลชน และต้องหาเสียงโดยใช้ถ้อยคำที่สุภาพ
นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ กกต.กล่าวว่า กกต.ได้ออกระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการหาเสียง ข้อควรปฏิบัติ และข้อห้ามมิให้ปฏิบัติในส่วนที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา และการดำเนินการใดๆ ของผู้สมัครรับเลือกตั้งและผู้มีสิทธิเลือกตั้ง พ.ศ.2551 โดยยึดหลักการหาเสียงเลือกตั้ง ส.ว. สามารถหาเสียงได้ก็แต่เฉพาะที่เกี่ยวกับการปฏิบัติงานในหน้าที่ของวุฒิสภา เช่น อำนาจในด้านนิติบัญญัติ อำนาจในการควบคุมการตรากฎหมายที่ขัด หรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ การควบคุม การบริหารราชการแผ่นดิน การให้ความเห็นชอบในเรื่องสำคัญๆ ที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของแผ่นดิน การพิจารณาเลือกตั้ง แต่งตั้งให้คำแนะนำ ให้ความเห็นชอบบุคคลในองค์กรต่างๆ อำนาจในการถอดถอนบุคคลออกจากตำแหน่ง การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ เป็นต้น
สำหรับวิธีการในการหาเสียงนั้น สามารถ แจกเอกสาร หรือเทป หรือวัสดุโทรทัศน์ที่เกี่ยวกับการหาเสียงเลือกตั้งสามารถมีชื่อ รูปถ่าย หมายเลขประจำตัวผู้สมัคร ข้อมูลประวัติเฉพาะที่เกี่ยวกับตัวผู้สมัคร และข้อความหาเสียงที่เกี่ยวกับบทบาทหน้าที่ ส.ว. ในเขตชุมชน รวมทั้งใช้ยานพาหนะ เครื่องขยายเสียง และจัดทำประกาศหรือโปสเตอร์ ที่จะปิดได้ต้องมีขนาดกว้างไม่เกิน 30 เซนติเมตร และมีขนาดยาวไม่เกิน 42 เซนติเมตร (ขนาดกระดาษประมาณ A 3) ส่วนป้ายหรือคัตเอาต์ ต้องมีขนาดกว้างไม่เกิน 130 เซนติเมตร และมีขนาดยาวไม่เกิน 245 เซนติเมตร สามารถติดในสถานที่เอกชนได้ โดยห้ามแจกจ่ายเอกสารด้วยวิธีการวาง หรือโปรยในที่สาธารณะ
นอกจากนี้ยังสามารถโฆษณาหาเสียงเลือกตั้งทางวิทยุ โทรทัศน์ เว็บไซต์ จดหมาย สื่อสิ่งพิมพ์ และสื่ออิเล็กทรอนิกส์ รวมทั้งสามารถจัดทำเอกสารที่มีการกากบาทในช่องลงคะแนนเลือกตั้งให้กับตนเอง เพื่อใช้ในการหาเสียงเลือกตั้งให้กับตนเองได้ แต่ต้องไม่มีขนาด ลักษณะ หรือสีที่คล้ายกับบัตรเลือกตั้ง และต้องไม่ปรากฏหมายเลขประจำตัวของผู้สมัครอื่นด้วย
เลขาธิการ กกต. กล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้สมัครควรหาเสียงโดยปฏิบัติดังต่อไปนี้ คือ จัดฝึกอบรมให้กับบุคคลผู้ช่วยในการหาเสียงเลือกตั้ง โดยให้ความรู้เกี่ยวกับกฎหมายเลือกตั้ง หลีกเลี่ยงการใช้วิชาชีพหรือการประกอบอาชีพเกี่ยวกับรายการวิทยุโทรทัศน์ วิทยุกระจายเสียง สื่อสารมวลชน สื่อโฆษณา เช่น นักแสดง นักร้อง นักดนตรี พิธีกร สื่อมวลชน และต้องหาเสียงโดยใช้ถ้อยคำที่สุภาพ