xs
xsm
sm
md
lg

แอ้ดบ่นย้อนได้ไม่เป็นนายกฯ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา14.30 น. วานนี้ (31 ม.ค.) พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ รักษาการนายกรัฐมนตรี เปิดโอกาสให้ข้าราชการประจำทำเนียบรัฐบาลและข้าราชการระดับปลัดกระทรวงต่างๆ เข้าอำลาในโอกาสที่หมดวาระการปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยมีนายแก้วขวัญ วัชรโรทัย เลขาธิการพระราชวัง กล่าวอวยพรนำในนามหัวหน้าส่วนราชการระดับปลัดกระทรวงโดยมีใจความสำคัญว่ารู้สึกประทับใจ ต่อนายกรัฐมนตรีเป็นอย่างสูง ที่เสียสละอุทิศเวลาอันมีค่าเพื่อทำประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติในยุคที่สถานการณ์เปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันจนสามารถทำให้สถานการณ์บ้านเมืองสงบสุขได้ดังเดิม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี(สลน.) ได้มอบ ภาพวาดสีน้ำมันรูปตึกไทยคู่ฟ้า ซึ่งพล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวตอบรับว่า “เอาไว้ดูเล่น” พร้อมกับหัวเราะ นอกจากนี้ยังมีซีดีประมวลภาพการทำงานตั้งแต่พล.อ.สุรยุทธ์ เข้ารับตำแหน่ง ขณะที่ ทางสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด(ปปส.) ได้มอบพระพุทธชนาภิบาลทศพลนยานมุณี เป็นที่ระลึก
พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า มีความรู้สึกสบายใจที่เห็นท่านทั้งหลายและรับทราบว่า ทุกท่านพยามอย่างยิ่งในการสานต่อกาทำงานบ้านเมืองของเราให้ผ่านพ้นหัวเลี้ยวหัวต่อ ถือว่า ขณะนี้ไม่เป็นเวลาที่วิกฤติแล้ว เพียงเป็นเวลาเปลี่ยนผ่านรัฐบาลที่ได้รับการแต่งตั้งไปสู่รัฐบาลที่ได้รับการเลือกตั้ง ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่เหมาะที่ควรที่จะให้บ้านเมืองเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบอบประชาธิปไตย ตามที่ทุกท่านคิดว่าเป็นแนวทาง ที่น่าจะเลวน้อยที่สุดของบ้านเมืองเรา
พล.อ.สุรยุทธ์ ให้สัมภาษณ์ว่า ยังไม่ได้พบกับนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ที่ตนเคยบอกว่าจะคัยกันระหว่างส่งมอบงาน แต่ก็คงไม่ใช่เรื่องที่เร่งด่วนอะไร คิดว่ามีโอกาสจะพบกับนายสมัครในโอกาสข้างหน้าต่อไป
“คงไม่มีอะไรคุยกันเป็นพิเศษ คงเป็นการคุยกันธรรมดา ขึ้นอยู่กับว่านายกรัฐมนตรีท่านใหม่จะมีอะไรสอบถามผมบ้าง ก็พร้อมจะชี้แจงให้ทราบ”
ผู้สื่อข่าวถามว่าในช่วงการบริหารประเทศปีกว่า ช่วงไหนที่มีความสุขที่สุด และช่วงไหนที่หนักใจที่สุด พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า ช่วงเวลาที่มีความสุข คือช่วงเวลาที่นอน ได้นอนยาวๆ ก็มีความสุข ส่วนห้วงเวลาที่หนักจำเป็นจะต้องพบปะพูดคุยทำความเข้าใจ ทั้งคนของเราเองและผู้นำของต่างประเทศ ถือเป็นช่วงเวลาที่จะต้องรวบรวมทั้งความคิดและสมาธิในการที่จะพูดให้น้อยที่สุด แต่ให้ผู้ที่ได้รับฟังนั้น เข้าใจว่า เรามีความมุ่งหมายอะไรที่จะทำให้เขาเกิดความเชื่อมั่นว่าเราสามารถจะนำพาชาติบ้านเมืองของเราไปสู่ครรลองของประชาธิปไตยได้
ส่วนขณะนี้ประเทศมีปัญหาอะไรที่เป็นเรื่องเร่งด่วน สำคัญ และมีผลกระทบต่อประชาชนที่รัฐบาลใหม่เข้ามาแล้วจะต้องเร่งทำ พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า รัฐบาลใหม่ทราบดีอยู่แล้ว เท่าที่ฟังจากการให้สัมภาษณ์คิดว่า ฝ่ายการเมือง มีความเข้าใจว่ามีสิ่งใดบ้างที่จะต้องดำเนินการ คงไม่ไปพูดในเรื่องเหล่านี้ เพราะตนเคารพในความคิดของแต่ละบุคคลอยู่แล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่าถ้าย้อนเวลาไปได้มีอะไรที่อยากจะแก้ไข พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า หากย้อนเวลากลับได้คือ ไม่ต้องเป็นนายกรัฐมนตรีเพราะเป็นเรื่องที่ต้องรับผิดชอบ อย่างมากอย่างที่ตนบอกแล้วว่า ไม่ได้มีความคิดที่จะมาทำงานทางการเมือง แต่เมื่อเป็นความจำเป็นจะต้องมาทำ ก็ยอมรับด้วยความลำบากใจ หากย้อนเวลาได้ ก็คือ ไม่อยากลำบากใจคงไม่จำเป็นต้องมารับงานนี้ อย่างไรก็ตามหลังจากนี้คิดว่า ไม่มีงานที่เป็นส่วนสำคัญ วันพรุ่งนี้(1 มี.ค.)คงไม่ต้องเข้ามาที่ทำเนียบรัฐบาลแล้ว
ต่อข้อถามว่า 1 ปีที่ผ่านมาประชาชนได้อะไรจากการปฏิวัติ พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะพูดและตอบคำถามได้ในระยะเวลาสั้นๆ เราคงต้องใช้เวลาที่จะมาประเมินผล และวิเคราะห์กันในหลายๆ ด้านว่าอะไรบ้างที่เป็นประโยชน์ อะไรบ้างที่ดูแล้วไม่ควรทำ จะต้องมาวิเคราะห์ว่า มีส่วนไหนที่เป็นส่วนดี มีส่วนใด ที่เป็นส่วนเสียบ้าง คงไม่สามารถตอบได้ในระยะเวลาสั้นๆ คงอาศัยจากหลายๆ มุมมองด้วยกัน ในเชิงวิชาการ เชิงผู้ปฏิบัติหน้าที่แม้กระทั่งจากสื่อมวลชนที่จะสะท้อนภาพให้เห็นว่า สิ่งที่ท่านได้เห็นมานั้นมีอะไรที่จะต้องแก้ไขอย่างไรบ้าง แต่เราสามารถที่จะนำพาประเทศชาติของเรากลับเข้าสู่ครรลองของประชาธิปไตย ได้โดยที่ไม่มีปัญหา ในเรื่องของความไม่สงบเรียบร้อย
ผู้สื่อข่าวถามว่าเป็นห่วงเรื่องการล้างแค้นของแต่ละฝ่ายหรือไม่ ที่อาจจะทำให้สถานการณ์บ้านเมืองอาจจะเกิดความวุ่นวาย พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า ตนคงไม่กลับมาลำบาก ไปแล้วก็คงไปเลย คิดว่า สังคมของเราไม่ควรจะเป็นสังคมอย่างนั้น อย่างที่เคยพูดมาตลอดเวลา มันเป็นเรื่องอย่างนั้น บางส่วนก็เสียชีวิต บางส่วน ก็ไม่ได้กลับบ้านเมือง ทำอย่างไรที่เราจะแก้ไขปัญหาด้วยความคิดเห็นทางการเมือง แก้ไขปัญหาโดยสันติวิธี ไม่อยากเห็นการใช้ความรุนแรง หรือวิธีการอย่างบางประเทศที่ใช้ความรุนแรง เพราะนั่นไม่ได้เป็นวิธีการทางการเมือง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนที่พล.อ.สุรยุทธ์ จะเดินขึ้นรถออกจากทำเนียบรัฐบาล ได้มีข้าราชการทำเนียบฯจากหลายส่วนยืนรอเพื่อมอบดอกกุหลาบสีแดง อำลา และแสดงความเคารพพร้อมกับขอถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึกแม้แต่ทีมรักษาความปลอดภัยก็ขอถ่ายรูปร่วมกับพล.อ.สุรยุทธ์ ด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ขณะที่รถได้เคลื่อนออกจากตึกไทยคู่ฟ้า พล.อ.สุรยุทธ์ ได้เลื่อนกระจกลงโบกมือให้กับข้าราชการและสื่อมวลชนที่มารอส่งหน้าตึกไทยคู่ฟ้า โดยพูดกับสื่อว่า “พบกันที่เขา.... ยังไม่ได้หายไปไหนยังวนเวียนอยู่ตรงนี้แหละ”
กำลังโหลดความคิดเห็น