xs
xsm
sm
md
lg

กลุ่มสิทธิมนุษยชนฉะสหรัฐฯ-อียู หนุนผู้เผด็จการอ้างปชต.บังหน้า

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เอเอฟพี - ฮิวแมนไรท์สวอตช์ ตำหนิสหรัฐฯและชาติยุโรปยอมปล่อยให้ผู้นำเผด็จการที่อ้างประชาธิปไตยบังหน้า แสวงหาผลประโยชน์ส่วนตนมากขึ้น มองรัฐบาลในหลายประเทศซึ่งรวมถึงประเทศไทยยังคิดว่าแค่จัดการเลือกตั้งก็สามารถอ้างได้ว่าเป็นประเทศประชาธิปไตย จี้นานาชาติบีบจีนแก้ปัญหาสิทธิมนุษยชน ชี้การจัดกีฬาโอลิมปิกในปีนี้ยิ่งทำให้ปัญหาสิทธิมนุษยชนเลวร้ายยิ่งขึ้น

ฮิวแมนไรท์สวอตช์ เผยแพร่รายงานสิทธิมนุษยชนทั่วโลกประจำปี2008 เมื่อวานนี้(31) ระบุว่าสหรัฐฯ สหภาพยุโรป และชาติประชาธิปไตยผู้ทรงอิทธิพลอื่นๆ ปล่อยปละละเลยมากขึ้นให้พวกเผด็จการอ้างประชาธิปไตยบังหน้า ขึ้นบริหารประเทศ โดยไม่เรียกร้องให้บุคคลเหล่านี้ส่งเสริมสิทธิทางการเมืองและสิทธิของพลเมือง ซึ่งทำให้ประชาธิปไตยมีความหมายมากขึ้น สิ่งนี้อาจทำให้สหรัฐฯ สหภาพยุโรป และชาติประชาธิปไตยผู้ทรงอิทธิพลอื่นๆ มีแนวโน้มบ่อนทำลายสิทธิมนุษยชนทั่วโลก

"ในปีที่แล้ว มีรัฐบาลในหลายประเทศมากเกินไปแล้ว อาทิเช่น บาห์เรน จอร์แดน ไนจีเรีย รัสเซีย และประเทศไทย ที่ทำราวกับว่า เพียงแค่จัดการเลือกตั้งก็เพียงพอที่จะพิสูจน์ได้ว่าประเทศตนเป็น'ประชาธิปไตย' ขณะรัฐบาลสหรัฐฯ อียู และชาติยุโรปแต่ละประเทศ ก็เอาอย่างตาม" ฮิวแมนไรท์สวอตช์ ตำหนิ

เคนเนธ ร็อท ผู้อำนวยการใหญ่แห่งกลุ่มฮิวแมนไรท์สวอตช์ กล่าวว่า ปัจจุบันนี้ถือเป็นเรื่องง่ายเกินไปแล้วที่พวกเผด็จการเอาตัวรอดไปได้จากการขี่แนวทางประชาธิปไตยจอมปลอม เนื่องจากรัฐบาลชาติตะวันตกจำนวนมากยืนยันให้จัดการเลือกตั้งแล้วก็หยุดเพียงแค่นั้น ชาติตะวันตกไม่ได้กดดันรัฐบาลชาติต่างๆในประเด็นสำคัญๆเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชน ที่ทำให้ประชาธิปไตยเดินหน้าต่อไปได้ ประเด็นสำคัญเหล่านี้ก็เช่น สื่ออิสระ การประชุมสภาที่สงบเรียบร้อย และประชาสังคมที่ทำหน้าที่ได้จริงซึ่งสามารถท้าทายอำนาจได้จริง

ร็อทยังเรียกร้องให้ประเทศต่างๆร่วมกันเพิ่มแรงกดดันต่อจีนซึ่งปีนี้เป็นเจ้าภาพจัดกีฬาโอลิมปิก ให้เคารพสิทธิมนุษยชนมากขึ้น ทั้งนี้ ฮิวแมนไรท์สวอตช์กล่าวว่ากีฬาโอลิมปิกยิ่งทำให้ปัญหาการเวนคืนที่ดิน การละเมิดสิทธิแรงงานอพยพ การกักบริเวณผู้ที่กระด้างกระเดื่องต่อรัฐให้อยู่แต่ในบ้าน รุนแรงมากขึ้น

ในรายงานฉบับนี้ ฮิวแมนไรท์สวอตช์ยังประณามการละเมิดสิทธิมนุษยชนโดยอ้างเรื่องการทำสงครามต่อต้านการก่อการร้าย ในฝรั่งเศส ปากีสถาน อังกฤษ และสหรัฐฯ

ฮิวแมนไรท์สวอตช์เผยว่ายังมีนักโทษ 275 คน ถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำในฐานทัพสหรัฐฯ ที่อ่าวกวนตานาโม คิวบา โดยไม่มีการตั้งข้อหานักโทษเหล่านี้ นักโทษคนอื่นๆยังถูกคุมขังที่นั่นหลังจากที่สหรัฐฯปล่อยตัว เนื่องจากไม่สามารถส่งนักโทษเหล่านี้กลับบ้าน อีกทั้งก็ไม่มีประเทศใดจัดหาที่พักพิงแห่งใหม่ให้กับนักโทษ

ฮิวแมนไรท์สวอตช์กล่าวเสริมว่าสหรัฐฯยังคงเป็นประเทศที่มีอัตราคุมขังนักโทษมากที่สุดในโลก โดยมีคนผิวดำถูกคุมขังมากกว่าคนผิวขาว กว่า 6 เท่า

รายงานฉบับนี้ยังอ้างถึงสิ่งที่เรียกว่า "การโกงเลือกตั้งผ่านทางวิธีต่างๆ" เช่น การทุจริตอย่างโจ่งแจ้ง (ในชาด จอร์แดน คาซัคสถาน ไนจีเรีย อุซเบกิสถาน) การควบคุมกลไกเลือกตั้ง (ในอาเซอร์ไบจาน บาห์เรน มาเลเซีย ประเทศไทย ซิมบับเว) การปิดกั้นหรือขัดขวางผู้สมัครจากฝ่ายค้าน (เบลารุส คิวบา อียิปต์ อิหร่าน อิสราเอลในเขตยึดครองดินแดนปาเลสไตน์ ลิเบีย เติร์กเมนิสถาน ยูกันดา) ความรุนแรงทางการเมือง (กัมพูชา สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก เอธิโอเปีย เลบานอน) การปิดปากสื่อและประชาสังคม (รัสเซีย ตูนิเซีย) และการบ่อนทำลายหลักนิติธรรม (จีน ปากีสถาน)
กำลังโหลดความคิดเห็น