นายศรีราชา เจริญพานิช เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการเพื่อพิจารณากลั่นกรองการเสนอชื่อบุคคลเข้ารับการสรรหาภาคองค์กรวิชาการ กล่าวถึงความคืบหน้าในการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ได้รับการเสนอชื่อว่า วันที่ 31 ม.ค. คณะอนุกรรมการฯ จะมีการประชุมที่สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน เพื่อหารือและทำข้อสังเกตเกี่ยวกับคุณสมบัติของผู้ถูกเสนอชื่อต่างๆ ให้กับคณะกรรมการสรรหาฯ โดยขณะนี้ก็พบปัญหาว่า บางองค์กรที่เสนอชื่อมาไม่ได้เป็นองค์กรภาควิชาการ หรือคนที่ถูกเสนอชื่อจากองค์กรวิชาการ ก็ไม่ได้มีความเกี่ยวพันกับองค์กร เช่น บางคนก็เป็นศิษย์เก่าของสถาบันทางวิชาการเท่านั้น ขณะที่บางคนก็เป็นทหาร ตำรวจ ไมได้เป็นนักวิชาการ
ดังนั้นก็จะเสนอข้อสังเกตอย่างรอบด้านให้คณะกรรมการสรรหาฯ ได้พิจารณาและตัดสินด้วยตามดุลพินิจ เพราะทางคณะอนุกรรมการฯ ไม่มีอำนาจในการตัดสินใจแทน จึงจะเสนอประเด็นไปทั้งหมดว่าแต่ละบุคคลมีคุณสมบัติตรงตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดหรือไม่ เนื่องจากหากให้คณะกรรมการฯมาตรวจคุณสมบัติเองทั้ง 1,087 คน คงทำไม่ได้ แต่ก็ไม่แน่บางทีนายทหารหรือนายตำรวจอาจจะเป็นนักวิชาการก็ได้
" ผมยอมรับว่า การตรวจสอบว่า บุคคลที่ถูกเสนอชื่อเกี่ยวพันกับผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือไม่นั้นเป็นเรื่องยาก เพราะบางคนก็ไม่ได้ใช้นามสกุลเหมือนกัน แต่อาจจะเกี่ยวพันกันด้านอื่น ดังนั้นต้องอาศัยให้ประชาชน ที่ได้รับข่าวสารส่งข้อมูลมาให้คณะอนุกรรมการฯ เพื่อนำมาประกอบการพิจารณา ซึ่งคาดว่าภายในวันที่ 6 ก.พ.นี้ เราจะสามารถส่งรายชื่อที่ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติให้คณะกรรมการฯได้"
ขณะที่นายศราวุธ เมนะเศวต เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในฐานะคณะอนุกรรมการเพื่อพิจารณากลั่นกรองการเสนอชื่อบุคคลเข้ารับการสรรหา ส.ว.ขององค์กรภาครัฐ เปิดเผยด้วยว่า ขณะนี้กำลังรวบรวมข้อมูลของผู้ได้รับการเสนอชื่อแต่ละคน โดยอยู่ระหว่างการกรอกข้อมูลของแต่ละคนลงแบบฟอร์มที่กำหนด ซึ่งก็เท่ากับว่าเป็นการตรวจสอบคุณสมบัติไปในตัว และยังไม่พบปัญหาหรืออุปสรรคในการตรวจสอบคุณสมบัติแต่อย่างใด ทั้งนี้คณะอนุกรรมการฯ จะมีการประชุมใน วันที่ 4 ก.พ.นี้ และคาดว่าจะเสนอผลการตรวจสอบคุณสมบัติให้กับคณะกรรมการสรรหาทั้ง 7 คนได้ในวันที่ 6 ก.พ.นี้
ดังนั้นก็จะเสนอข้อสังเกตอย่างรอบด้านให้คณะกรรมการสรรหาฯ ได้พิจารณาและตัดสินด้วยตามดุลพินิจ เพราะทางคณะอนุกรรมการฯ ไม่มีอำนาจในการตัดสินใจแทน จึงจะเสนอประเด็นไปทั้งหมดว่าแต่ละบุคคลมีคุณสมบัติตรงตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดหรือไม่ เนื่องจากหากให้คณะกรรมการฯมาตรวจคุณสมบัติเองทั้ง 1,087 คน คงทำไม่ได้ แต่ก็ไม่แน่บางทีนายทหารหรือนายตำรวจอาจจะเป็นนักวิชาการก็ได้
" ผมยอมรับว่า การตรวจสอบว่า บุคคลที่ถูกเสนอชื่อเกี่ยวพันกับผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือไม่นั้นเป็นเรื่องยาก เพราะบางคนก็ไม่ได้ใช้นามสกุลเหมือนกัน แต่อาจจะเกี่ยวพันกันด้านอื่น ดังนั้นต้องอาศัยให้ประชาชน ที่ได้รับข่าวสารส่งข้อมูลมาให้คณะอนุกรรมการฯ เพื่อนำมาประกอบการพิจารณา ซึ่งคาดว่าภายในวันที่ 6 ก.พ.นี้ เราจะสามารถส่งรายชื่อที่ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติให้คณะกรรมการฯได้"
ขณะที่นายศราวุธ เมนะเศวต เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในฐานะคณะอนุกรรมการเพื่อพิจารณากลั่นกรองการเสนอชื่อบุคคลเข้ารับการสรรหา ส.ว.ขององค์กรภาครัฐ เปิดเผยด้วยว่า ขณะนี้กำลังรวบรวมข้อมูลของผู้ได้รับการเสนอชื่อแต่ละคน โดยอยู่ระหว่างการกรอกข้อมูลของแต่ละคนลงแบบฟอร์มที่กำหนด ซึ่งก็เท่ากับว่าเป็นการตรวจสอบคุณสมบัติไปในตัว และยังไม่พบปัญหาหรืออุปสรรคในการตรวจสอบคุณสมบัติแต่อย่างใด ทั้งนี้คณะอนุกรรมการฯ จะมีการประชุมใน วันที่ 4 ก.พ.นี้ และคาดว่าจะเสนอผลการตรวจสอบคุณสมบัติให้กับคณะกรรมการสรรหาทั้ง 7 คนได้ในวันที่ 6 ก.พ.นี้
