“เลขาธิการ กกต.” ระบุ การรับสมัคร ส.ว.ไม่คึกคัก เพราะ กม.กำหนดคุณสมบัติอย่างเคร่งครัด ไม่ให้เกี่ยวพันกับพรรคการเมืองและนักการเมือง คาด 19 ก.พ.คณะกรรมการสรรหาจะได้รายชื่อผู้ถูกเสนอชื่อสมควรเป็น ส.ว.74 คน เสนอต่อ กกต.ประกาศผล
วันนี้ (25 ม.ค.) นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ กกต.กล่าวถึงการรับสมัคร ส.ว.ที่มีผู้สมัครค่อนข้างเงียบ ไม่คึกคักเท่าที่ควร ว่า เรื่องนี้มีผลจากปัจจัยต่างๆ เช่น รัฐธรรมนูญได้กำหนดคุณสมบัติผู้สมัครเคร่งครัด โดยเฉพาะประเด็นที่ไม่ให้ผู้สมัครเป็นพ่อ แม่ คู่สมรส หรือบุตรดำรงตำแหน่ง ส.ส.เพราะไม่ต้องการให้ ส.ว.มีความเกี่ยวพันกับนักการเมือง พรรคการเมือง ซึ่งเชื่อว่าเงื่อนไขนี้ทำให้คนที่สนใจที่อยู่ในแวดวงนักการเมืองไม่สามารถลงสมัครได้ นอกจากนี้ กฎหมายกำหนดไม่ให้สมาชิกหรือผู้ดำรงตำแหน่งในพรรคการเมือง หรือเคยเป็นสมาชิก หรือเคยดำรงตำแหน่งทางการเมือง โดยต้องพ้นไม่น้อยกว่า 5 ปีนับถึงวันรับสมัครรับเลือกตั้ง
เลขา กกต.กล่าวถึงความคืบหน้าในส่วนของ ส.ว.สรรหา ว่า ในวันที่ 21 มค.คณะกรรมการอำนวยการดำเนินการได้นำรายชื่อที่ลงทะเบียน ต่อคณะกรรมการสรรหาแล้ว ทั้งนี้ ได้นำเสนอชื่อบุคคลทั้งหมด 1,087 องค์กร แยกเป็นองค์กรภาครัฐ 114 องค์กร ภาคเอกชน 443 องค์กร ภาควิชาการ 123 องค์กร ภาควิชาชีพ 152 องค์กรและภาคอื่นๆ 255 องค์กร ทั้งนี้ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และการได้มาซึ่ง ส.ว.2550 มาตรา 130 กำหนดให้คณะกรรมการสรรหาต้องพิจารณาสรรหาบุคคลให้แล้วเร็จ และส่งให้คณะกรรมการเลือกตั้งภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับรายชื่อผู้เข้ารับการสรรหา
ทั้งนี้ คณะกรรมการสรรหาจะพิจารณาในวันที่ 6, 13, 18 ก.พ.โดยคาดว่า ในวันที่ 19 ก.พ.คณะกรรมการสรรหาพิจารณาสรรหาได้รายชื่อผู้ถูกเสนอชื่อควรเป็น ส.ว.จำนวน 74 คน และส่งรายชื่อนี้ให้ กกต.เพื่อประกาศผลการสรรหาและแจ้งผลต่อประธานรัฐสภาทราบและประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป
รัฐธรรมนูญกำหนดให้มีสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) มีจำนวน 150 แยกเป็น ส.ว.ที่มาจากการสรรหาจำนวน 74 คน และ ส.ว.ระบบเลือกตั้ง 76 คน (ตามจำนวนจังหวัด 76 จังหวัด) สำหรับ ส.ว.ระบบเลือกตั้ง ได้เปิดให้มีการสมัครรับเลือกตั้งระหว่างวันที่ 21-25 ม.ค.นี้ และกำหนดวันเลือกตั้งในวันที่ 2 มี.ค.นี้