เดลิเมล์ – ผู้หญิงบางคนอาจรู้สึกผิดที่กินช็อกโกแลตเพราะกลัวหุ่นไม่สวย แต่ข่าวร้ายล่าสุดสำหรับสาวที่พิศมัยขนมหวานชนิดนี้คือ การกินเป็นประจำอาจนำไปสู่โลกกระดูกพรุน
นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเวสเทิร์น ออสเตรเลีย พบว่าผู้หญิงที่กินช็อกโกแลตทุกวัน มีความหนาแน่นของมวลกระดูกน้อยกว่าผู้หญิงที่กินเพียงสัปดาห์ละครั้ง
ดร.โจนาธาน ฮอดจ์สัน ผู้นำการวิจัย กล่าวว่าแม้มีการโปรโมทกันอึกทึกครึกโครมว่า โกโก้และช็อกโกแลตมีคุณประโยชน์ต่อหัวใจ แต่ช็อกโกแลตก็สามารถเป็นพิษเป็นภัยต่อระบบอวัยวะอื่นๆ ได้เช่นเดียวกัน ดังนั้น การค้นพบนี้จึงอาจมีนัยสำคัญต่อการป้องกันภาวะกระดูกหักจากโรคกระดูกพรุนได้
ในการศึกษา นักวิจัยให้ความสำคัญกับปริมาณช็อกโกแลตที่ผู้หญิงอายุ 70-85 ปี 1,001 คน กินในช่วงหลายสัปดาห์ พร้อมทั้งวัดความหนาแน่นและความแข็งแรงของกระดูกของกลุ่มตัวอย่างแต่ละคนโดยใช้เครื่องเอ็กซ์เรย์
นักวิจัยพบว่า ผู้หญิงที่กินช็อกโกแลตน้อยกว่าสัปดาห์ละครั้ง กระดูกจะแข็งแรงกว่าคนที่กินทุกวันอย่างเห็นได้ชัด
กระดูกที่มีความหนาแน่นต่ำพบมากบริเวณสะโพก คอ หน้าแข้ง และส้นเท้าของกลุ่มตัวอย่าง
นักวิจัยเชื่อว่า สาเหตุอาจเนื่องมาจากการที่ช็อกโกแลตมีสารอ็อกซาเลต ที่สามารถลดการดูดซึมแคลเซียม น้ำตาล ซึ่งเกี่ยวพันกับภาวะที่ร่างกายขับถ่ายแคลเซียมออกมา
ทั้งนี้ เป็นที่ทราบกันดีว่าแคลเซียมช่วยรักษาและเสริมสร้างกระดูก
รายงานฉบับนี้ที่ตีพิมพ์อยู่ในวารสารอเมริกัน เจอร์นัล ออฟ คลินิคัล นิวทริเชียนประจำเดือนนี้ เผยแพร่ออกมาหลังจากที่วารสารแลนเซ็ตของทางฝั่งอังกฤษ เตือนผู้ที่เชื่อว่าช็อกโกแลตดีต่อสุขภาพไม่ทันถึงเดือน
บทความในแลนเซ็ตระบุว่า ผู้บริโภคส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าผู้ผลิตมักตัดสารฟลาวานอลที่มีประโยชน์ทิ้ง เนื่องจากทำให้ช็อกโกแลตมีรสขม
ผลลัพธ์คือ ดาร์กช็อกโกแลตอาจไม่มีสารชนิดนี้เจือปนอยู่เลย แต่ยังอุดมด้วยไขมันและน้ำตาล ที่เป็นอันตรายต่อหัวใจและหลอดเลือดเช่นเดิม
“ผู้บริโภคยังหลงเชื่อว่าดาร์กช็อกโกแลตมีฟลาวานอล เพราะผู้ผลิตแทบไม่ยอมให้ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้บนฉลากผลิตภัณฑ์”
ขณะเดียวกัน ก่อนหน้านี้ไม่นาน วารสารเซอร์คูเลชันรายงานว่า ช็อกโกแลตที่อุดมด้วยฟลาวานอลมีประโยชน์ต่อการไหลเวียนของโลหิต
ในการศึกษาที่จัดทำโดยศูนย์หัวใจและหลอดเลือดหัวใจในซูริก สวิตเซอร์แลนด์ พบว่าช็อกโกแลตที่อุดมด้วยฟลาวานอลทำให้หลอดเลือดขยาย และทำให้หัวใจของผู้ป่วยที่รับการปลูกถ่ายหัวใจ 11 คนทำงานดีขึ้น
นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเวสเทิร์น ออสเตรเลีย พบว่าผู้หญิงที่กินช็อกโกแลตทุกวัน มีความหนาแน่นของมวลกระดูกน้อยกว่าผู้หญิงที่กินเพียงสัปดาห์ละครั้ง
ดร.โจนาธาน ฮอดจ์สัน ผู้นำการวิจัย กล่าวว่าแม้มีการโปรโมทกันอึกทึกครึกโครมว่า โกโก้และช็อกโกแลตมีคุณประโยชน์ต่อหัวใจ แต่ช็อกโกแลตก็สามารถเป็นพิษเป็นภัยต่อระบบอวัยวะอื่นๆ ได้เช่นเดียวกัน ดังนั้น การค้นพบนี้จึงอาจมีนัยสำคัญต่อการป้องกันภาวะกระดูกหักจากโรคกระดูกพรุนได้
ในการศึกษา นักวิจัยให้ความสำคัญกับปริมาณช็อกโกแลตที่ผู้หญิงอายุ 70-85 ปี 1,001 คน กินในช่วงหลายสัปดาห์ พร้อมทั้งวัดความหนาแน่นและความแข็งแรงของกระดูกของกลุ่มตัวอย่างแต่ละคนโดยใช้เครื่องเอ็กซ์เรย์
นักวิจัยพบว่า ผู้หญิงที่กินช็อกโกแลตน้อยกว่าสัปดาห์ละครั้ง กระดูกจะแข็งแรงกว่าคนที่กินทุกวันอย่างเห็นได้ชัด
กระดูกที่มีความหนาแน่นต่ำพบมากบริเวณสะโพก คอ หน้าแข้ง และส้นเท้าของกลุ่มตัวอย่าง
นักวิจัยเชื่อว่า สาเหตุอาจเนื่องมาจากการที่ช็อกโกแลตมีสารอ็อกซาเลต ที่สามารถลดการดูดซึมแคลเซียม น้ำตาล ซึ่งเกี่ยวพันกับภาวะที่ร่างกายขับถ่ายแคลเซียมออกมา
ทั้งนี้ เป็นที่ทราบกันดีว่าแคลเซียมช่วยรักษาและเสริมสร้างกระดูก
รายงานฉบับนี้ที่ตีพิมพ์อยู่ในวารสารอเมริกัน เจอร์นัล ออฟ คลินิคัล นิวทริเชียนประจำเดือนนี้ เผยแพร่ออกมาหลังจากที่วารสารแลนเซ็ตของทางฝั่งอังกฤษ เตือนผู้ที่เชื่อว่าช็อกโกแลตดีต่อสุขภาพไม่ทันถึงเดือน
บทความในแลนเซ็ตระบุว่า ผู้บริโภคส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าผู้ผลิตมักตัดสารฟลาวานอลที่มีประโยชน์ทิ้ง เนื่องจากทำให้ช็อกโกแลตมีรสขม
ผลลัพธ์คือ ดาร์กช็อกโกแลตอาจไม่มีสารชนิดนี้เจือปนอยู่เลย แต่ยังอุดมด้วยไขมันและน้ำตาล ที่เป็นอันตรายต่อหัวใจและหลอดเลือดเช่นเดิม
“ผู้บริโภคยังหลงเชื่อว่าดาร์กช็อกโกแลตมีฟลาวานอล เพราะผู้ผลิตแทบไม่ยอมให้ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้บนฉลากผลิตภัณฑ์”
ขณะเดียวกัน ก่อนหน้านี้ไม่นาน วารสารเซอร์คูเลชันรายงานว่า ช็อกโกแลตที่อุดมด้วยฟลาวานอลมีประโยชน์ต่อการไหลเวียนของโลหิต
ในการศึกษาที่จัดทำโดยศูนย์หัวใจและหลอดเลือดหัวใจในซูริก สวิตเซอร์แลนด์ พบว่าช็อกโกแลตที่อุดมด้วยฟลาวานอลทำให้หลอดเลือดขยาย และทำให้หัวใจของผู้ป่วยที่รับการปลูกถ่ายหัวใจ 11 คนทำงานดีขึ้น
