xs
xsm
sm
md
lg

ไฟใต้ทำเอกชนทิ้งงานถนนเข้าเมืองยะลา ทหารช่างรับไม้ต่อสร้างเสร็จ 5 ธันวาฯนี้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ – กรมทางหลวงโอนโครงการสร้างทางหลวงหมายเลข 418 สายบ้านคลองขุด-บ้านท่าสาป จ.ยะลา ซึ่งเป็นเส้นทางเดียวที่เข้าสู่ตัวเมืองยะลา งบก่อสร้าง 1,040.8 ล้านบาทให้กรมการทหารช่างก่อสร้างต่อ หลังจากผู้รับเหมาทิ้งงาน เพราะสถานการณ์ความไม่สงบ ขีดเส้นตายเสร็จก่อนวันที่ 5 ธันวาคมปีนี้ ด้านภาคเอกชนผลักดันโครงการสร้างสะพานข้ามอ่างเก็บน้ำบางลาง และโครงการก่อสร้างอุโมงค์ถนนทางหลวงสาย 410 สู่ด่านเบตงเปิดประตูส่งออกสินค้า 3 จชต. สู่เพื่อนบ้าน

โครงการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 418 สายบ้านคลองขุด-บ้านท่าสาป จ.ยะลา ขนาด 4 ช่องจราจร ระยะทาง 29.448 กิโลเมตร (รวมทางแยกเข้าบ้านดอนยาง) เป็นอีกหนึ่งผลกระทบจากเหตุความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งผู้รับเหมาเริ่มดำเนินการก่อสร้างเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2545 และกำหนดสิ้นสุดสัญญาวันที่ 30 กันยายน 2548 โดยกรมทางหลวงได้ประกวดราคาก่อสร้างในวงเงิน 703.5 ล้านบาท จากราคากลาง 945.0 ล้านบาท แต่ท้ายที่สุดก็ต้องบอกเลิกสัญญาหลังจากสถานการณ์ความไม่สงบทวีความรุนแรงขึ้นตั้งแต่ปี 2547 เป็นต้นมา

ถนนเส้นดังกล่าว มีความสำคัญทั้งทางด้านเศรษฐกิจและสังคมอย่างยิ่ง เพราะเป็นเส้นทางมาตรฐานเดียวที่เชื่อมไปยัง จ.ยะลา หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงร่วมกันหารือเพื่อผลักดันให้โครงการดำเนินการได้ต่อเนื่อง หลังจากล่วงเลยกำหนดการเดิมร่วมปี ต่อมาคณะรัฐมนตรีมีมติในคราวประชุมเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2549 ให้กรมการทหารช่างก่อสร้างส่วนที่เหลือ วงเงิน 1,040.8 ล้านบาท เพื่อให้โครงการก่อสร้างถนนดังกล่าวเสร็จเพื่อประโยชน์ของประชาชนต่อไป

นายฟุ้ง สุขเสรีทรัพย์ ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดยะลา เปิดเผยว่า ปัญหาหลักของโครงการก่อสร้างถนนเส้นนี้ เพราะผู้รับเหมาไม่มั่นใจในความปลอดภัย เนื่องจากมีคนงานเสียชีวิตลง 3 รายจากเหตุทำร้ายร่างกาย จึงบอกเลิกสัญญาทั้งที่ดำเนินการได้เพียง 25% เท่านั้น นอกจากนี้ยังประสบปัญหาวัสดุราคาสูง โดยเฉพาะภาครัฐมีความเข้มงวดในการอนุญาตใช้ยุทธภัณฑ์ระเบิดหิน ทำให้ขาดแคลนและราคาแพง เมื่อถนนสร้างไม่เสร็จก็ส่งผลกระทบต่อการคมนาคมขนส่งในพื้นที่เช่นเดียวกัน เพราะมีเพียงถนน 2 ช่องจราจรที่เป็นหลักในการเข้า-ออกตัวเมืองยะลา

“ถนนเส้นใหม่สามารถย่นระยะเวลาจากเส้นทางเดิม 42 กิโลเมตร เหลือเพียง 29 กิโลเมตร และมีขนาดช่องจราจรกว้างขึ้นถึง 4 เลนไม่มีสัญญาณไฟจราจร 2 ข้างทางเป็นที่โล่ง ลดความเสี่ยงเรื่องความปลอดภัยได้มากขึ้น และลดต้นทุนด้านการขนส่ง ซึ่งทุกวันนี้ผู้ประกอบการแบกภาระมากพอแล้ว เพราะบริษัทสินค้าหลายแห่งยังคงส่งสินค้าปลายทางที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และให้ลูกค้าใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เข้ามารับสินค้าเอง หรือมิฉะนั้นก็ต้องเพิ่มค่าเสี่ยงภัยกรณีที่ต้องการให้ส่งสินค้าถึงที่และส่วนมากต้องจ่ายเงินสดอีกด้วย เพราะไม่มั่นใจเรื่องความปลอดภัย” นายฟุ้งกล่าว

ด้านนายวิรัช อัศวสุขสันต์ ประธานหอการค้าจังหวัดยะลา เปิดเผยว่า จริงๆ แล้วคาดหวังว่าโครงการดังกล่าวจะเสร็จสิ้นภายในปี 2550 เพื่อเป็นเส้นทางที่ 2 ที่ระบายการจราจรเข้า-ออกจากตัวเมืองยะลาสู่จังหวัดใกล้เคียงในกรณีที่เกิดปัญหา ซึ่งจะเป็นถนนเส้นแรกของ จ.ยะลา ที่มีขนาด 4 ช่องจราจร ขณะที่ปัตตานีและนราธิวาสมีแล้ว และโดยส่วนตัวแล้วคิดว่าควรจะซอยระยะทางให้สั้นลง เพื่อกระจายให้ผู้รับเหมาในพื้นที่ได้รับงานไปทำมากกว่า เพื่อช่วยเหลือให้มีงานทำและเสร็จเร็วขึ้น เพราะหากยิ่งล่าช้า นั่นหมายความว่าต้นทุนการก่อสร้างเพิ่มขึ้นด้วย

นอกจากนี้แล้ว จ.ยะลา ยังมีโครงการก่อสร้างพัฒนาเส้นทางคมนาคมใน อ.เบตง ที่หยุดชะงักเพราะผลกระทบจากเหตุความไม่สงบ ได้แก่ โครงการก่อสร้างสะพานข้ามอ่างเก็บน้ำบางลาง และโครงการก่อสร้างอุโมงค์ถนนทางหลวงสาย 410 ระยะทาง 800 เมตร ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาแนวถนนเส้นใหม่ที่จะเปิดประตู 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เชื่อม อ.เบตง จ.ยะลา นำสินค้าผ่านด่านเบตงสู่ประเทศมาเลเซียและนานาชาติ โดยผ่านท่าเรือปีนัง โดยมีบริษัท ประยูรวิศว์ การช่างของตระกูลดัง “ลิปตพัลลภ” ประมูลผ่านด้วยงบ 350 ล้าน แต่ไม่ยอมลงนามเซ็นสัญญา ต่อมากรมทางหลวงได้โอนให้กรมการทหารช่างรับผิดชอบ

สำหรับความก้าวหน้าของโครงการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 418 สายบ้านคลองขุด-บ้านท่าสาป ภายหลังจากที่กรมการทหารช่าง ได้ส่งทหารช่างชุดแรกเข้าพื้นที่โครงการแล้วตั้งแต่วันที่ 26 พฤศจิกายน 2550 ก็ได้เตรียมการต่างๆ คือ สำรวจพื้นที่ก่อสร้างเพิ่มเติม ก่อสร้างที่พักชั่วคราวของกำลังพล สำรวจตรวจสอบแหล่งวัสดุที่จะใช้ในการดำเนินการ และคาดการณ์ว่าจะดำเนินการก่อสร้างไปจนแล้วเสร็จได้ทันในวันที่ 5 ธันวาคม 2551

ทั้งนี้ ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจาก 2 ส่วน คือ 1.งบประมาณสำหรับการก่อสร้างส่วนที่เหลือ ซึ่งสำนักงบประมาณได้อนุมัติให้กรมการทหารช่างดำเนินการก่อสร้าง และเบิกจ่ายงบประมาณแทนกรมทางหลวงในวงเงิน 1,040.8 ล้านบาทจากงบประมาณปี 2547 และ2548 ที่กันไว้เบิกเหลื่อมปีจำนวน 176.4 ล้านบาท และส่วนที่ขาดอีก 864.4 ล้านบาท ให้ใช้จากการปรับแผนการใช้จ่ายงบประมาณปี 2551 ของกรมทางหลวง

2.งบประมาณงานระวังป้องกันและรักษาความปลอดภัย ซึ่งกรมการทหารช่างขอเพิ่มเติมจำนวน 46.7 ล้านบาท สำนักงานงบประมาณอยู่ระหว่างการนำเสนอต่อนายกรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติ ได้แก่งบประมาณที่จะใช้ในปีงบประมาณ 2551 เสนอขอใช้จากงบกลางรายการเงินสำรองจ่าย เพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น 28.7 ล้านบาท และงบประมาณที่จะใช้ในปีงบประมาณ 2552 18.0 ล้านบาท ให้กองทัพบกเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่าย
กำลังโหลดความคิดเห็น