ผู้จัดการรายวัน - เอส - 26 โปรเกรส โกลด์ แก้เกี้ยวตลาดนมผงพรีเมียม 3,800 ล้านบาท โตน้อย เร่งขยายฐานเด็กโต 1-7 ปีทดแทน พร้อมบุกภูธรเดินสายจัดกิจกรรม" เมืองแห่งการเรียนรู้สัญจร" เท 30 ล้านบาท หนุนโชว์ "ดิสนีย์ ออน ไอซ์ พรีเซ้นทส์ มิกกี้ แอนด์ มินนี่ อะแมซิ่ง เจอร์นี่" สิ้นปีโกยแชร์ 30% ปี 2553 โค่นบัลลังก์มิ้ล จอห์นสันสำเร็จ
นายวิริยะ จงไพศาล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไวเอท-เอเยิร์สท์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตนมผงเอส - 26 โปรเกรส โกลด์ เปิดเผยว่า ภาวะตลาดนมผงพรีเมียมมูลค่า 3,500-3,800 ล้านบาท ในปีนี้จะเริ่มมีอัตราการเติบโตลดลง หลังจากหลายปีที่ผ่านมาตลาดมีอัตราการเติบโต 25% อย่างต่อเนื่อง แต่เมื่อปีที่ผ่านมาเติบโต 20% ทั้งนี้เป็นเพราะตลาดเริ่มมีขนาดใหญ่ขึ้น ดังนั้นนโยบายการตลาดในปีนี้บริษัทฯจะมุ่งเน้นขยายฐานลูกค้ากลุ่มเป้าหมายเด็กโตอายุอายุ 1-7 ปี จากที่ผ่านมาเน้นดำเนินการตลาดเชิงรุกเจาะกลุ่มเด็กเล็ก
พร้อมกันนี้ยังเน้นขยายตลาดในต่างจังหวัด เพิ่มสัดส่วนจากกว่า 50% เป็น 60% และกรุงเทพฯ กว่า 40% เป็น 40% เนื่องจากการเข้าถึงไม่แตกต่างจากกรุงเทพฯ มากนัก อีกทั้งตลาดต่างจังหวัดยังมีขนาดใหญ่กว่า ซึ่งจะเดินสายจัดกิจกรรม"เมืองแห่งการเรียนรู้สัญจร"ตามจังหวัดทุกภูมิภาค ได้แก่ เชียงใหม่ นครราชสีมา ชลบุรี และนครสวรรค์ โดยจะเป็นกิจกรรมให้ความรู้แก้คุณแม่และกิจกรรมสำหรับส่งเสริมพัฒนาการเจ้าตัวเล็กให้เร่งรอบด้าน
สำหรับกลยุทธ์การตลาดปีนี้ บริษัทฯเน้นให้ความสำคัญการจัดกิจกรรมที่มุ่งส่งเสริมพัฒนาการของเด็กไทย ภายใต้จุดขายเดิมคือ"ใส่ใจเขาให้ครบรอบด้าน" โดยเน้นส่งเสริมและพัฒนาการด้านสมอง เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และด้านร่างกายให้แข็งแรง ตลอดจนการมุ่งเน้นการใช้กลยุทธ์ซีอาร์เอ็ม เพื่อกระชับความสัมพันธ์กับลูกค้าสร้างความภักดีต่อตราสินค้า
ล่าสุดได้ทุ่มงบ 30 ล้านบาท เป็นผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการ การแสดงสุดยอดโชว์"ดิสนีย์ ออน ไอซ์ พรีเซ้นทส์ มิกกี้ แอนด์ มินนี่ อะแมซิ่ง เจอร์นี่" เพื่อเปิดประสบการณ์แปลกใหม่ให้กับเจ้าตัวเล็กต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 3 ทั้งนี้จากการดำเนินการตลาดสิ้นปีนี้มีส่วนแบ่งเพิ่มจาก 25% เป็น 30% และในปี 2553 จะขึ้นเป็นผู้นำตลาดครองแทนที่ มิ้ลท์ จอห์นสัน ซึ่งมีส่วนแบ่ง 40% ดูเม็กซ์ 35%
นายวิริยะ จงไพศาล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไวเอท-เอเยิร์สท์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตนมผงเอส - 26 โปรเกรส โกลด์ เปิดเผยว่า ภาวะตลาดนมผงพรีเมียมมูลค่า 3,500-3,800 ล้านบาท ในปีนี้จะเริ่มมีอัตราการเติบโตลดลง หลังจากหลายปีที่ผ่านมาตลาดมีอัตราการเติบโต 25% อย่างต่อเนื่อง แต่เมื่อปีที่ผ่านมาเติบโต 20% ทั้งนี้เป็นเพราะตลาดเริ่มมีขนาดใหญ่ขึ้น ดังนั้นนโยบายการตลาดในปีนี้บริษัทฯจะมุ่งเน้นขยายฐานลูกค้ากลุ่มเป้าหมายเด็กโตอายุอายุ 1-7 ปี จากที่ผ่านมาเน้นดำเนินการตลาดเชิงรุกเจาะกลุ่มเด็กเล็ก
พร้อมกันนี้ยังเน้นขยายตลาดในต่างจังหวัด เพิ่มสัดส่วนจากกว่า 50% เป็น 60% และกรุงเทพฯ กว่า 40% เป็น 40% เนื่องจากการเข้าถึงไม่แตกต่างจากกรุงเทพฯ มากนัก อีกทั้งตลาดต่างจังหวัดยังมีขนาดใหญ่กว่า ซึ่งจะเดินสายจัดกิจกรรม"เมืองแห่งการเรียนรู้สัญจร"ตามจังหวัดทุกภูมิภาค ได้แก่ เชียงใหม่ นครราชสีมา ชลบุรี และนครสวรรค์ โดยจะเป็นกิจกรรมให้ความรู้แก้คุณแม่และกิจกรรมสำหรับส่งเสริมพัฒนาการเจ้าตัวเล็กให้เร่งรอบด้าน
สำหรับกลยุทธ์การตลาดปีนี้ บริษัทฯเน้นให้ความสำคัญการจัดกิจกรรมที่มุ่งส่งเสริมพัฒนาการของเด็กไทย ภายใต้จุดขายเดิมคือ"ใส่ใจเขาให้ครบรอบด้าน" โดยเน้นส่งเสริมและพัฒนาการด้านสมอง เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และด้านร่างกายให้แข็งแรง ตลอดจนการมุ่งเน้นการใช้กลยุทธ์ซีอาร์เอ็ม เพื่อกระชับความสัมพันธ์กับลูกค้าสร้างความภักดีต่อตราสินค้า
ล่าสุดได้ทุ่มงบ 30 ล้านบาท เป็นผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการ การแสดงสุดยอดโชว์"ดิสนีย์ ออน ไอซ์ พรีเซ้นทส์ มิกกี้ แอนด์ มินนี่ อะแมซิ่ง เจอร์นี่" เพื่อเปิดประสบการณ์แปลกใหม่ให้กับเจ้าตัวเล็กต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 3 ทั้งนี้จากการดำเนินการตลาดสิ้นปีนี้มีส่วนแบ่งเพิ่มจาก 25% เป็น 30% และในปี 2553 จะขึ้นเป็นผู้นำตลาดครองแทนที่ มิ้ลท์ จอห์นสัน ซึ่งมีส่วนแบ่ง 40% ดูเม็กซ์ 35%
