โดย เวสารัช โทณผลิน
วันสุดท้ายที่ "วอเธอร์ อิไลอัส ดิสนีย์" มีชีวิตอยู่บนโลก เขานอนนิ่งบนเตียงคนไข้ เฝ้ามองตัวการ์ตูนที่ตัวเองและเพื่อนร่วมงานได้สร้างสรรค์ออกมากำลังกระโดดโลดเต้น เคลื่อนไหว และเข้าไปจับครองพื้นที่หัวใจของเด็กทุกคน ตั้งแต่รุ่นเริ่มเรียนรู้จนถึงวัยใกล้ฝั่งเช่นเดียวกับที่วอลต์กำลังประสบอยู่
หนูการ์ตูนหูโตชื่อ มิกกี้ หนึ่งในตัวละครที่วอลต์สร้างขึ้นเดินเข้ามากระซิบข้างหูเขาอย่างอ่อนโยนว่า "ไม่ต้องกลัวนะวอลต์ ความตายจะพรากไปได้แค่ลมหายใจกับการเคลื่อนไหวของหัวใจคุณเท่านั้น ที่เหลือนอกจากนั้นมันจะยังคงอยู่เหมือนเดิมทุกอย่าง"
42 ปีผ่านไป คณะนักสเก็ตน้ำแข็งมือฉมังจากสหรัฐอเมริกา ซึ่งร่วมงานอยู่กับบริษัท วอลต์ ดิสนีย์ อย่างยาวนานหลายสิบปี ได้กลับมาเปิดการแสดงชื่อ "ดิสนีย์ ออน ไอซ์" ในประเทศไทยอีกครั้ง ตามเสียงกระซิบอันศักดิ์สิทธิ์ที่มิกกี้ เมาส์ได้ฝากเป็นสิ่งสุดท้ายให้กับวอลต์ ดิสนีย์ผู้ล่วงลับ
ด้วยชื่อตอน "ดิสนีย์ ออน ไอซ์ พรีเซ้นทส์ มิกกี้ แอนด์ มินนี่ อะเมซิ่ง เจอร์นี่" สิ่งที่ปรากฏจึงเป็นการเดินทางท่องเที่ยวของมิกกี้และผองเพื่อน เพื่อเข้าสู่โลกแห่งจินตนาการของการ์ตูนดังทั้ง 5 เรื่อง
ทั้งการบุกป่าฝ่าดงเข้าไปเฝ้ามองการเจริญเติบโตของสิงโตน้อยชื่อ ซิมบ้า ใน เดอะ ไลอ้อน คิง เอาใจช่วยลูกสุนัขพันธ์ดัมเมชี่ยนตัวน้อยทั้ง 101 ตัวใน 101 ดัมเมเชี่ยนส์
ดำดิ่งลึกลงสู่ก้นสมุทรไปกับเงือกสาวชื่อ เอเรียล ใน เดอะ ลิตเติล เมอร์เมด เหาะเหินเหนือจินตนาการไปกับ ปีเตอร์ แพน และปิดท้ายความสนุกกับความแสบซ่าแสนกวนของเพื่อนต่างดาว ในลิโล แอนด์ สติทซ์
ความยิ่งใหญ่อลังการที่แฟนดิสนีย์ ออน ไอซ์เคยสัมผัส ได้กลับคืนมาแบบทบเท่าทวีคูณ เพราะนอกเหนือจากการวางคิวในการแล่นใบมีดที่รองเท้าสเก็ตไปบนผิวน้ำแข็งจะทำได้อย่างงดงาม น่าตื่นเต้นและลงตัวแล้ว การใช้เทคนิคพิเศษ ทั้งแสง สีและอุปกรณ์เสริมทั้งหลายก็ทำให้การแสดงในครั้งนี้มีสีสันและพิเศษกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา
ตั้งแต่การทักทายชิมลางด้วยการจำลองพื้นน้ำแข็งให้เป็นผืนป่าแอฟริกา ด้วยเหล่าวานรและการร่ายลีลาศบนรองเท้าสเก็ตของสองสิงห์หนุ่มสาวที่ทั้งสวยงามและลุ้นระทึกตลอดการแสดง รวมไปถึงการสร้างสีสันของทีโมนและพุมบ้าเพื่อนซี้จอมเพี้ยนของซิมบ้าที่ออกมาเรียกเสียงหัวเราะอันสดใสของเด็กที่เข้าไปร่วมชมได้เป็นระยะๆ
ต่อกันที่การแสดงของ 101 ดัลเมเชี่ยนส์ ที่เปิดด้วยการโยกย้ายส่ายตัวชนิดสุดเหวี่ยงของ คลูเอ็ลดา เดอะ วิล ตัวร้ายประจำเรื่อง และการเปิดตัวแบบตื่นตาอลังการของพลพรรคสุนัขดัลเมเชี่ยนนับร้อย ที่ทีมผู้แสดงงัดเทคนิคน่ารักๆ ที่ใช้ทั้งความสามารถผนวกกับการซักซ้อมที่ข้นเข้มมาประกอบไว้อย่างลงตัว
เมื่อเครื่องของผู้แสดง พื้นน้ำแข็ง และคนดูติดจนร้อน มิกกี้กับผองเพื่อนก็พาทุกคนผ่านผิวทะเล แล้วดิ่งลงไปพบกับเงือกสาวแสนสวยอย่าง เอเรียล ใน เดอะ ลิตเติล เมอร์เมด ที่พ่วงพาแม่มดผู้ชั่วร้ายนาม เออร์ดูซ่า ซึ่งมาพร้อมกับเทคนิคของหุ่นบอลลูนยักษ์อันแสนมหัศจรรย์ และการเริงระบำของบรรดาสัตว์ใต้ทะเลน้อยใหญ่ที่น่าประทับใจ
พักการแสดงเพื่อฟื้นสภาพผิวน้ำแข็งเพียง 15 นาที ผู้ชมก็ได้เดินทางเข้าสู่กรุงลอนดอน ผจญราตรีของเด็กๆ และหนุ่มมหัศจรรย์ภายใต้ชุดเขียวชื่อ ปีเตอร์ แพน นอกจากฉากการเหินเหาะลอยข้ามแผ่นน้ำแข็งที่สามารถสะกดคนดูให้ตรึงอยู่กับที่ได้แล้ว ฉากต่อกรระหว่างปีเตอร์ แพนกับกัปตันฮุ๊คก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ทั้งตื่นเต้นสนุกสนานและตระการตาไปพร้อมๆ กัน
ปิดท้ายบนชายหาดเมืองฮาวาย กับสาวน้อยลิโล กับเพื่อนใหม่หน้าตาประหลาดที่ชื่อ สติทซ์ การจัดวางโครงการแสดงหนุนให้เจ้าสัตว์นอกโลกเป็นตัวเด่นที่สุดของการแสดง ซึ่งแม้เนื้อเรื่องจะไม่ค่อยมีพลังเทียมเท่ากับ 4 เรื่องที่ผ่านไป แต่ลีลาการเคลื่อนย้ายไปบนผืนน้ำแข็งของลิโลกับสติทซ์ก็เป็นสิ่งที่น่าประทับใจจนสามารถกลบข้อด้อยต่างๆ ไปจนแทบมองไม่เห็น
การแสดงจบลงด้วยการที่นักแสดงทุกคนออกมาเริงระบำบนน้ำแข็งผืนเดียวกันพร้อมรอยยิ้ม การจัดวางตำแหน่งที่ยอดเยี่ยม และคิวการแสดงที่ลงตัว ทำให้ช่วงท้ายของการแสดงที่ดูเหมือนจะธรรมดาเป็นการแสดงที่สวยงามและน่าประทับใจ รอยยิ้มของนักแสดงทุกคนที่ถูกกระตุ้นเสริมด้วยจังหวะไหวโบกของฝ่ามือทำให้ผู้แสดงทุกคนดูอบอุ่นและเป็นมิตรขึ้นทันที
วินาทีสุดท้ายที่แสงไฟรอบบริเวณลานน้ำแข็งมืดดับลง วิญญาณของวอลต์ ดิสนีย์ ที่แทรกซึมอยู่ทั่วบริเวณก็คงจะอมยิ้มด้วยความรู้สึกอิ่มเอม เมื่อเขาได้รู้ว่า ทุกถ้อยวจีของหนูการ์ตูนหูโตตัวที่เข้ามากระซิบข้างร่างของเขาที่ดับสลายไปแล้วในวันนั้น มิได้เป็นเรื่องเกินเลยหรือคลาดเคลื่อนไปจากความจริงที่ปรากฏในวันนี้เลยแม้แต่น้อย