ผู้จัดการรายวัน-“พาณิชย์” ตั้งเป้าส่งออกข้าวปีนี้ 8.75 ล้านตัน มั่นใจขายได้ราคาพุ่งกระฉูด เหตุผลผลิตข้าวไทยมีไม่มาก แถมสต๊อกรัฐยังเหลือน้อย จับตาปีนี้ราคาข้าวหอมมะลิมีสิทธิ์สูงสุดเป็นประวัติการณ์ทะลุตันละ 700 เหรียญสหรัฐ แต่หวั่นส่งออกพลาดเป้า เพราะมีข้าวส่งออกน้อย
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ ได้ร่วมกับผู้ส่งออกข้าวตั้งเป้าหมายการส่งออกข้าวในปี 2551 ว่าจะส่งออกได้ 8.75 ล้านตัน เนื่องจากความต้องการซื้อข้าวไทยยังคงมีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และยังคาดว่าแนวโน้มราคาข้าวไทยจะดีกว่าปีที่ผ่านมา ทำให้จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้คำนวณว่ามูลค่าการส่งออกจะทำได้เท่าใด เพราะราคามีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นอีก แต่หากนับราคาปัจจุบัน คาดว่าจะทำได้มูลค่าประมาณ 3,300 ล้านเหรียญสหรัฐ
“ปีนี้ ข้าวไทยมีไม่มาก โดยผลผลิตข้าวปี 2551/52 จะมี 29 ล้านตันข้าวเปลือก หรือ 18-19 ล้านตันข้าวสาร แบ่งบริโภคในประเทศ 10 ล้านตัน ส่งออก 8-9 ล้านตัน ขณะที่สต๊อกรัฐบาลล่าสุดมีเพียง 1.9 ล้านตัน และจะมีข้าวเข้าสู่สต๊อกจากการรับจำนำปี 2550/51 ไม่ถึง 1 แสนตัน จากเป้าหมายรับจำนำ 9 ล้านตัน ทำให้รัฐมีสต๊อกไม่มาก จะนำออกประมูลขายหรือไม่ ต้องดูสถานการณ์ก่อน เพราะต้องเก็บสำรองไว้บริโภคในประเทศด้วย”นางอภิรดีกล่าว
ส่วนตั้งแต่วันที่ 1-15 ม.ค.2551 ส่งออกได้แล้ว 427,800 ตัน ขณะที่เดือนม.ค.2550 ที่ผ่านมา ส่งออกได้ 622,000 ตัน
นายชูเกียรติ โอภาสวง นายกสมาคมผู้ส่งข้าวออกต่างประเทศ กล่าวว่า ราคาส่งออกข้าวหอมมะลิในปีนี้น่าจะสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยราคาน่าจะทะลุตันละ 700 เหรียญสหรัฐ จากปัจจุบันตันละ 680 เหรียญสหรัฐ ส่วนข้าวขาว 100% น่าจะได้มากกว่าตันละ 400 เหรียญสหรัฐ ขณะที่ข้าวสารหอมมะลิในประเทศปัจจุบันตันละ 20,000 บาท ส่วนข้าวขาว 5% ประมาณ 11,500 ล้านบาท
'
“ผู้ส่งออกกังวลว่าจะหาข้าวส่งออกไม่ได้ เพราะข้าวในสต๊อกรัฐเหลือน้อยมาก และยังมีข้าวเข้าสู่โครงการรับจำนำปี 2550/51 น้อยมาก ประกอบกับ ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นมาก โดยทุกๆ 1 บาทที่แข็งค่าขึ้นจะทำให้ราคาข้าวสูงขึ้นตันละ 15 เหรียญ ทำให้ราคาแพงมากเมื่อเทียบกับเวียดนาม และยังมีค่าระวางเรือที่แพงมากอีก จึงเกรงว่า จะส่งออกไม่ได้ตามเป้าหมายที่ 8.7 ล้านตัน จากปีก่อนที่ส่งออกได้ 9.5 ล้านตัน เพราะผู้ส่งออกได้ข้าวที่รัฐระบายจากสต๊อกถึง 3 ล้านตัน” นายชูเกียรติกล่าว
นายวิจักร วิเศษน้อย รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า ทั้งรัฐบาล และผู้ส่งออกไทยอยากเห็นข้าวไทยมีราคาส่งออกสูงขึ้น และมีเสถียรภาพ แต่ก็ต้องคำนึงถึงผู้บริโภคด้วย แม้ปีนี้ตลาดจะเป็นของผู้ขายก็ตาม แต่ไม่ใช่ว่า เมื่อผลผลิตมีน้อยจากภาวะโลกร้อน แล้วผู้ส่งออกจะขึ้นราคาตามใจชอบ ต้องคำนึงด้วยว่า ราคาที่ปรับขึ้นไปนั้น ผู้บริโภคทั้งภายใน และต่างประเทศรับได้หรือไม่ หากรับไม่ได้ก็ไม่น่าจะขึ้นราคามากนัก หรือหากผู้บริโภคในประเทศเดือดร้อนก็ไม่ควรขึ้นราคา
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ ได้ร่วมกับผู้ส่งออกข้าวตั้งเป้าหมายการส่งออกข้าวในปี 2551 ว่าจะส่งออกได้ 8.75 ล้านตัน เนื่องจากความต้องการซื้อข้าวไทยยังคงมีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และยังคาดว่าแนวโน้มราคาข้าวไทยจะดีกว่าปีที่ผ่านมา ทำให้จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้คำนวณว่ามูลค่าการส่งออกจะทำได้เท่าใด เพราะราคามีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นอีก แต่หากนับราคาปัจจุบัน คาดว่าจะทำได้มูลค่าประมาณ 3,300 ล้านเหรียญสหรัฐ
“ปีนี้ ข้าวไทยมีไม่มาก โดยผลผลิตข้าวปี 2551/52 จะมี 29 ล้านตันข้าวเปลือก หรือ 18-19 ล้านตันข้าวสาร แบ่งบริโภคในประเทศ 10 ล้านตัน ส่งออก 8-9 ล้านตัน ขณะที่สต๊อกรัฐบาลล่าสุดมีเพียง 1.9 ล้านตัน และจะมีข้าวเข้าสู่สต๊อกจากการรับจำนำปี 2550/51 ไม่ถึง 1 แสนตัน จากเป้าหมายรับจำนำ 9 ล้านตัน ทำให้รัฐมีสต๊อกไม่มาก จะนำออกประมูลขายหรือไม่ ต้องดูสถานการณ์ก่อน เพราะต้องเก็บสำรองไว้บริโภคในประเทศด้วย”นางอภิรดีกล่าว
ส่วนตั้งแต่วันที่ 1-15 ม.ค.2551 ส่งออกได้แล้ว 427,800 ตัน ขณะที่เดือนม.ค.2550 ที่ผ่านมา ส่งออกได้ 622,000 ตัน
นายชูเกียรติ โอภาสวง นายกสมาคมผู้ส่งข้าวออกต่างประเทศ กล่าวว่า ราคาส่งออกข้าวหอมมะลิในปีนี้น่าจะสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยราคาน่าจะทะลุตันละ 700 เหรียญสหรัฐ จากปัจจุบันตันละ 680 เหรียญสหรัฐ ส่วนข้าวขาว 100% น่าจะได้มากกว่าตันละ 400 เหรียญสหรัฐ ขณะที่ข้าวสารหอมมะลิในประเทศปัจจุบันตันละ 20,000 บาท ส่วนข้าวขาว 5% ประมาณ 11,500 ล้านบาท
'
“ผู้ส่งออกกังวลว่าจะหาข้าวส่งออกไม่ได้ เพราะข้าวในสต๊อกรัฐเหลือน้อยมาก และยังมีข้าวเข้าสู่โครงการรับจำนำปี 2550/51 น้อยมาก ประกอบกับ ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นมาก โดยทุกๆ 1 บาทที่แข็งค่าขึ้นจะทำให้ราคาข้าวสูงขึ้นตันละ 15 เหรียญ ทำให้ราคาแพงมากเมื่อเทียบกับเวียดนาม และยังมีค่าระวางเรือที่แพงมากอีก จึงเกรงว่า จะส่งออกไม่ได้ตามเป้าหมายที่ 8.7 ล้านตัน จากปีก่อนที่ส่งออกได้ 9.5 ล้านตัน เพราะผู้ส่งออกได้ข้าวที่รัฐระบายจากสต๊อกถึง 3 ล้านตัน” นายชูเกียรติกล่าว
นายวิจักร วิเศษน้อย รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า ทั้งรัฐบาล และผู้ส่งออกไทยอยากเห็นข้าวไทยมีราคาส่งออกสูงขึ้น และมีเสถียรภาพ แต่ก็ต้องคำนึงถึงผู้บริโภคด้วย แม้ปีนี้ตลาดจะเป็นของผู้ขายก็ตาม แต่ไม่ใช่ว่า เมื่อผลผลิตมีน้อยจากภาวะโลกร้อน แล้วผู้ส่งออกจะขึ้นราคาตามใจชอบ ต้องคำนึงด้วยว่า ราคาที่ปรับขึ้นไปนั้น ผู้บริโภคทั้งภายใน และต่างประเทศรับได้หรือไม่ หากรับไม่ได้ก็ไม่น่าจะขึ้นราคามากนัก หรือหากผู้บริโภคในประเทศเดือดร้อนก็ไม่ควรขึ้นราคา
