ฉบับวันที่ 15-1-51
ผู้จัดการรายวัน – คณะกลั่นกรองปรับเกณฑ์การขอใช้เงินจากกองทุนส่งเสริมการท่องเที่ยว อ้าง เพื่อให้งานมีประสิทธิผลตรงตามเป้าหมาย หลัง 3 ปีที่ผ่านมาผลงานไม่เข้าตาม ถูกลดงบ พร้อมตั้ง “ภิรมย์” นั่งประธานตรวจสอบ
นางสาวศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะ ประธานกลั่นกรองโครงการสนับสนุนกองทุนส่งเสริมการท่องเที่ยว เปิดเผยว่า เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้เงินจากกองทุนส่งเสริมการท่องเที่ยว ที่ประชุมจึงมีมติ ปรับเกณฑ์การยื่นขอใช้เงินกองทุนฯ โดยจะต้องมีจุดประสงค์เข้าข่าย 1 ใน 3 หัวข้อหลักคือ เพื่อพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเสื่อมโทรม ,เพื่อพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวในแหล่งที่ได้มีการส่งเสริมการตลาด และเพื่อการพัฒนาบุคคลากร
โดยการปรับเกณฑ์ครั้งนี้จะต้องสอดคล้องกับ พ.ร.บ.การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย พ.ศ.2550 ที่ระบุว่าต้อวงถ่ายโอนการทำงานของกองทุนจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย มาอยู่ในความดูแลของกระทรวงการท่องเที่ยวฯ
สำหรับผู้มีสิทธิขอใช้เงินกองทุน จะเป็นใครก็ได้ ทั้งภาครัฐ เอกชน และ หน่วยราชการส่วนท้องถิ่น แต่ต้องมีจุดประสงค์ตรงกับ 3 หัวข้อดังกล่าวข้างต้น โดยทางกองทุนจะมีการอบรมให้แก่ผู้ขอใช้เงินให้มีความรู้ความเข้าใจในการใช้เงินด้วย
“การปรับครั้งนี้เพื่อให้เกิดการใช้เงินได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด เพราะที่ผ่านมา จากการประเมิน พบว่า การใช้เงิน และ ผลที่ได้ มีเพียง 10% เท่านั้น ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ กองทุนฯได้รับจัดสรรเงินจากภาครัฐลดลง โดยปีงบ 2551 ได้เพียง 50 ล้านบาท ปัจจุบัน กองทุนมีเงินที่ใช้จ่ายได้รวมทั้งหมด 300 ล้านบาท จากเดิมมี 600 ล้านบาท โดยกองทุนตั้งมา 3 ปี ด้วยทุนประเดิม 25 ล้านบาท “
อย่างไรก็ตาม เพื่อให้การใช้เงินมีประสิทธิภาพ ได้แต่งตั้ง นายภิรมย์ สิมะสเถียร รองปลัดกระทรวงการท่องเที่ยว เป็นประธานในคณะกรรมการติดตามผลฯ โดยจะประเมินทุก 3 เดือน
**ล้อมคอกสั่งสพท.เช็คปักป้ายจุดเสี่ยง**
ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ยังได้กล่าวถึงกรณีนักท่องเที่ยวพลาดตกหน้าผาภูชี้ฟ้า จ.เชียงราย จนเป็นเหตุให้เสียชีวิต ว่า กระทรวงฯได้ประสานไปยังกระทรวงทรัพยากรฯ และสั่งการให้สำนักพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว ทำการรวบรวมจุดเสี่ยงตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆทั่วประเทศ เพื่อมาจัดทำแผนการป้องกันทั้งระยะสั้นและระยะยาง โดยในแบบเร่งด่วนนี้ ให้จัดทำป้ายเตือนในทุกๆที่ พร้อมเรียกประชุมบริษัทนำเที่ยว ขอความร่วมมือช่วยกันระวัง ส่วนระยะยาว เตรียม จัดทำมุมถ่ายรูป ตามแหล่งท่องเที่ยว เพื่อลดความเสี่ยง ทั้งนี้ ความเห็นของกระทรวงการท่องเที่ยวฯกับกระทรวงทรัพย์ฯ ยังต่างกันตรงที่ว่า กระทรวงทรัพย์ฯไม่ต้องการให้นักท่องเที่ยวไปในจุดเสี่ยง แต่ กระทรวงการท่องเที่ยวฯมองว่า ถ้าเป็นพื้นที่สวยงาม ก็เที่ยวได้แต่ต้องระวัง ซึ่งเรื่องดังกล่าว คงต้องหารือร่วมกันอีกครั้ง เร็วๆนี้
ผู้จัดการรายวัน – คณะกลั่นกรองปรับเกณฑ์การขอใช้เงินจากกองทุนส่งเสริมการท่องเที่ยว อ้าง เพื่อให้งานมีประสิทธิผลตรงตามเป้าหมาย หลัง 3 ปีที่ผ่านมาผลงานไม่เข้าตาม ถูกลดงบ พร้อมตั้ง “ภิรมย์” นั่งประธานตรวจสอบ
นางสาวศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะ ประธานกลั่นกรองโครงการสนับสนุนกองทุนส่งเสริมการท่องเที่ยว เปิดเผยว่า เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้เงินจากกองทุนส่งเสริมการท่องเที่ยว ที่ประชุมจึงมีมติ ปรับเกณฑ์การยื่นขอใช้เงินกองทุนฯ โดยจะต้องมีจุดประสงค์เข้าข่าย 1 ใน 3 หัวข้อหลักคือ เพื่อพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเสื่อมโทรม ,เพื่อพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวในแหล่งที่ได้มีการส่งเสริมการตลาด และเพื่อการพัฒนาบุคคลากร
โดยการปรับเกณฑ์ครั้งนี้จะต้องสอดคล้องกับ พ.ร.บ.การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย พ.ศ.2550 ที่ระบุว่าต้อวงถ่ายโอนการทำงานของกองทุนจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย มาอยู่ในความดูแลของกระทรวงการท่องเที่ยวฯ
สำหรับผู้มีสิทธิขอใช้เงินกองทุน จะเป็นใครก็ได้ ทั้งภาครัฐ เอกชน และ หน่วยราชการส่วนท้องถิ่น แต่ต้องมีจุดประสงค์ตรงกับ 3 หัวข้อดังกล่าวข้างต้น โดยทางกองทุนจะมีการอบรมให้แก่ผู้ขอใช้เงินให้มีความรู้ความเข้าใจในการใช้เงินด้วย
“การปรับครั้งนี้เพื่อให้เกิดการใช้เงินได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด เพราะที่ผ่านมา จากการประเมิน พบว่า การใช้เงิน และ ผลที่ได้ มีเพียง 10% เท่านั้น ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ กองทุนฯได้รับจัดสรรเงินจากภาครัฐลดลง โดยปีงบ 2551 ได้เพียง 50 ล้านบาท ปัจจุบัน กองทุนมีเงินที่ใช้จ่ายได้รวมทั้งหมด 300 ล้านบาท จากเดิมมี 600 ล้านบาท โดยกองทุนตั้งมา 3 ปี ด้วยทุนประเดิม 25 ล้านบาท “
อย่างไรก็ตาม เพื่อให้การใช้เงินมีประสิทธิภาพ ได้แต่งตั้ง นายภิรมย์ สิมะสเถียร รองปลัดกระทรวงการท่องเที่ยว เป็นประธานในคณะกรรมการติดตามผลฯ โดยจะประเมินทุก 3 เดือน
**ล้อมคอกสั่งสพท.เช็คปักป้ายจุดเสี่ยง**
ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ยังได้กล่าวถึงกรณีนักท่องเที่ยวพลาดตกหน้าผาภูชี้ฟ้า จ.เชียงราย จนเป็นเหตุให้เสียชีวิต ว่า กระทรวงฯได้ประสานไปยังกระทรวงทรัพยากรฯ และสั่งการให้สำนักพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว ทำการรวบรวมจุดเสี่ยงตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆทั่วประเทศ เพื่อมาจัดทำแผนการป้องกันทั้งระยะสั้นและระยะยาง โดยในแบบเร่งด่วนนี้ ให้จัดทำป้ายเตือนในทุกๆที่ พร้อมเรียกประชุมบริษัทนำเที่ยว ขอความร่วมมือช่วยกันระวัง ส่วนระยะยาว เตรียม จัดทำมุมถ่ายรูป ตามแหล่งท่องเที่ยว เพื่อลดความเสี่ยง ทั้งนี้ ความเห็นของกระทรวงการท่องเที่ยวฯกับกระทรวงทรัพย์ฯ ยังต่างกันตรงที่ว่า กระทรวงทรัพย์ฯไม่ต้องการให้นักท่องเที่ยวไปในจุดเสี่ยง แต่ กระทรวงการท่องเที่ยวฯมองว่า ถ้าเป็นพื้นที่สวยงาม ก็เที่ยวได้แต่ต้องระวัง ซึ่งเรื่องดังกล่าว คงต้องหารือร่วมกันอีกครั้ง เร็วๆนี้