“โฆสิต” ฉุนขาด ไอซีทีไม่ยอมส่งรายงานแพร่ภาพโทรทัศน์ก่อการร้ายเป็นลายลักษณ์อักษร สั่งปลัดตั้งคณะกรรมการตรวจสอบด่วน ด้าน “สือ ล้ออุทัย” ปลัดกระทรวงไอซีทีรับลูกทันทีระบุส่งรายละเอียดถึงมือรักษาการรมว.วันนี้ ยอมรับชินแซทฯหละหลวมสอบข้อมูลลูกค้าทั้งที่ติดแบล็คลีสมาหลายประเทศ "พ.อ.ธนาธิป" เผยฝ่ายความมั่นคง ไม่มีอำนาจเข้าไปล้วงลูก ทำได้แค่ประสานงานเท่านั้น
นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือ ไอซีที เปิดเผยว่า ได้สั่งการถึงนายสือ ล้ออุทัย ปลัดกระทรวงไอซีที ให้ดำเนินการตั้งคณะกรรมการสอบสวนกรณี ผู้เชี่ยวชาญอเมริกันออกมาระบุว่าดาวเทียมไทยคมของบริษัท ชินแซทเทลไลน์ จำกัด(มหาชน)ได้เปิดช่องสัญญาณให้สถานีโทรทัศน์ช่อง Al-Manar TV เลบานอนซึ่งเป็นของเครือข่ายก่อการร้ายระดับโลกถ่ายทอดข่าวสารถึงสมาชิกขบวนการทั่วโลก
”ตอนนี้ยังไม่ได้รับรายงานจากกระทรวงไอซีทีเลย การตั้งคระกรรมการสอบสวนจึงต้องนำสัญญามาดูความจริงว่าเป็นอย่างไร จะต้องเชิญผู้เกี่ยวข้องมาขอความชัดเจน ส่วนจะถึงขั้นให้ถอดสัมปทานหรือไม่ ยังไม่ทราบต้องดูเอกสารความชัดเจนก่อน”นายโฆสิต กล่าว
แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล กล่าวว่า ตั้งแต่กระแสดังกล่าวออกมา นายโฆสิต ได้สอบถามไปยังกระทรวงไอซีทีหลายครั้ง แต่ก็กลับไม่ได้รับรายงานเป็นลายลักษณ์อักษรกลับมา โดยนายโฆสิตไม่ได่นิ่งนอนใจกับปัญหาดังกล่าว เพราะเป็นปัญหาระดับชาติ เนื่องจากบริษัทเอกชนที่เป็นต่างชาติคงจะถือว่ามีบริษัทแม่ที่ตั้งอยู่ในต่างประเทศจึงไม่ได้รายงานมาเป็นลายลักษณ์อักษร อย่างไรก็ตามนายโฆสิต ได้ย้ำให้ดูสัญญาและข้อกฎหมายให้ชัดเจนว่า จะดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งได้หรือไม่
ด้าน นายสือ ล้ออุทัย ปลัดกระทรวงไอซีที เปิดเผยว่า วานนี้(17ม.ค.51) เมื่อเวลา 09.00 น. ไอซีที ได้เรียกผู้บริหารบริษัท ชินแซทฯมาชี้แจงเรื่องเปิดให้ดาวเทียมไทยคมแพร่ภาพสถานีโทรทัศน์ช่อง Al-Manar TV โดยชินแซทฯได้ส่งเจ้าหน้าที่ด้านวิศวกร และนักกฎหมาย ของบริษัทฯมาชี้แจง เนื่องจากผู้บริหารระดับสูงของบริษัทฯ ติดภารกิจไปสัมมนาต่างจังหวัดทำให้ไม่สามารถมาชี้แจงกรณีดังกล่าวได้
ทั้งนี้ เจ้าหน้าวิศวกรได้ชี้แจงว่า จากการให้ทดสอบช่องสัญญาณของบริษัทฯนั้น มีลูกค้าจากต่างประเทศได้ติดต่อขอเช่าใช้ช่องสัญญาณดาวเทียมไทยคมผ่านพนักงานขาย ซึ่งพนักงานขายได้ตรวจสอบรายละเอียดเบื้องต้นว่า เป็นบริษัทที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย และส่งต่อไปยังฝ่ายเทคนิค เพื่ออนุญาตให้ทดลองใช้บริการก่อนตามขั้นตอนของบริษัทฯ ซึ่งหลังจากนั้นก็ได้ตรวจสอบการใช้ช่องสัญญาณดาวเทียมอยู่ตลอดเวลา แต่ไม่ทราบว่าเป็นของกลุ่มผู้ก่อการร้าย เพราะเป็นรายการตามปกติ แต่เป็นการออกอากาศโดยใช้ภาษาอาหรับ ทั้งหมด โดยการออกอากาศนั้นมีผู้เข้าใจในภาษาอาหรับได้ส่งอี-เมลล์มายัง บริษัทฯ เข้าใจว่าเป็นกลุ่มของผู้ก่อการร้าย ทางบริษัทฯ จึงได้สั่งปิดสัญญาณทันที โดยได้มีการทดลองออกอากาศเพียง 3 วันเท่านั้น คือจากวันที่ 9-11 ม.ค.นี้
ขณะเดียวกันวานนี้ (17 ม.ค.) กระทรวงไอซีที ได้จัดตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวโดยมีนายวรพัฒน์ ทิวถนอม รองปลัดกระทรวงไอซีที เป็นประธานคณะกรรมการการตรวจสอบ โดยคาดว่าจะนำข้อเท็จจริงเสนอนายกรัฐมนตรี และนายโมสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ รักษาการรมว.ไอซีที ให้รับทราบเป็นลายลักษณ์อักษรภายในวันนี้ (18 ม.ค.)
“ถือว่าพลาดแบบไม่น่าพลาดได้ ซึ่งตนมองว่าหากจะว่าหละหลวมก็ว่าหละหลวม เพราะบริษัทฯไม่ได้ดำเนินการตรวจสอบอย่างละเอียด ทั้งที่เป็นเรื่องสำคัญเพราะสถานีโทรทัศน์นี้ติดเบล็คลีสในหลายประเทศ เปรียบเทียบการทำบัตรเครดิต หรือว่ากู้เงิน ยังต้องตรวจสอบข้อมูลจากเครดิตบูโร แต่การเปิดให้เช่าช่องสัญญาณดาวเทียม ตรวจสอบเพียงบริษัทที่มาเช่าจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่เท่านั้น” นายสือ กล่าว
ทั้งนี้ กระทรวงไอซีที ได้สั่งให้บริษัทฯ ไปเข้มงวดและหามาตรการในการตรวจสอบรายละเอียดลูกค้าที่มาขอใช้ช่องสัญญาณดาวเทียมอย่างละเอียด กอปรกับกระทรวงไอซีทีจะต้องประสานกับหน่วยงานด้านความมั่นคงอย่างใกล้ชิด เพื่อมิให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก ส่วนเรื่องการยึดสัมปทานดาวเทียมคืนนั้น ขณะนี้ไม่สามารถตอบได้ เพราะต้องพิจารณารายละเอียดของสัญญาก่อน แต่หากบริษัทกระทำผิดสัญญาอย่างร้ายแรง ก็ต้องยึดสัมปทานคืน แต่กว่าจะไปถึงการยึดสัญญาสัมปทานคืน ก็ต้องเข้าสู่กระบวนการฟ้องร้อง ซึ่งต้องใช้เวลานานกว่าจะยึดคืน
พ.อ.ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) เปิดเผยว่า ไอซีทีออกมาชี้แจงเรื่องแซทเทลฯ เปิดให้สถานีโทรทัศน์ อัล มานาร์ ของกลุ่มก่อการร้ายผ่านดาวเทียวไทยคม กรณีดังกล่าวคล้ายการกับแฮคเกอร์ของกระทรวงไอซีที ต้องดูว่าที่บริษัทไทยคม มีใครเข้ามารับสัมปทาน เจ้าของคือใคร ต้องไปตรวจสอบว่าข้อมูลตรงนี้ว่าเป็นอย่างไร ซึ่งเราไม่สามารถสั่งปิดได้โดยตรง
ทั้งนี้ ปัจจุบันกระทรวงไอซีที คงมีการประสานว่าใครมารับสัมปทานดาวเทียมไทยคม ในแง่มุมของความมั่นคงที่ผ่านมาเรามีประสบการณ์ด้านการแฮคเกอร์ข้อมูล ซึ่งทางกอ.รมน.ได้มีการกำชับหน่วยกำลังหลักทั้งหมด และมีการประสานงานร่วมกันกับตำรวจนครบาลในกทม.และกอ.รมน.ภาค ในการตรวจตรา โดยเฉพาะข้อมูลที่เป็นความลับก็จะมีการเข้าชั้นความลับ
“กอ.รมน.ไม่สามารถใช้อำนาจไปสั่งปิดได้ ซึ่งตรงนี้ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่า จริงเท็จอย่างไร ทั้งนี้ เป็นเพียงการชี้แจงมาจากประเทศสหรัฐอเมริกาเท่านั้น ซึ่งน่าจะเป็นหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงไอซีที ที่จะต้องดูแลในเรื่องนี้” พ.อ.ธนาธิป กล่าว
ด้านความมั่นคงที่ผ่านมายังไม่มีกฎหมายที่จะมาดูแลสัญญาระหว่างภาครัฐกับเอกชนใดๆ เพราะฉะนั้นจึงทำได้ในกรอบของการประสานงานกับความร่วมมือเป็นหลัก แต่หากว่ามี พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ออกมาใช้ประกาศเป็นกฎหมายเราสามารถเข้าไปตรวจสอบในขั้นต้นว่าการใช้สัญญานครั้งนี้เกี่ยวพันอะไรกับความมั่นคงมากน้อยขนาดไหน หากพบว่ามีการเกี่ยวข้องต้องมีการระงับ
อย่างไรก็ตาม อำนาจเด็ดขาดขณะนี้ของเราไม่มี จึงทำได้แค่ประสานงานเบื้องต้น ขณะนี้เจ้าหน้าที่สารสนเทศฝ่ายข้อมูลของกอ.รมน. ได้มีการประสานงานกับเจ้าหน้าที่กระทรวงไอซีทีแล้ว แต่กอ.รมน.ไม่สามารถเข้าไปล้วงลึกได้
ขณะที่ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการเข้าชี้แจง ไอซีที ว่าเรื่องดังกล่าวเป็นอย่างที่บริษัทฯได้ชี้แจงว่า เป็นเพียงการเปิดให้ทดลองการออกอากาศ โดยที่บริษัทฯไม่ทราบว่า การทดลองการออกอากาศเป็นภาษาอาหรับมีความหมายอย่างไร เมื่อได้ทราบข้อมูลทางบริษัทก็ได้ยกเลิกไปแล้ว ตนได้รับทราบจากกระทรวงไอซีทีมีการตั้งกรรมการเพื่อสอบรายละเอียดอีกขั้นหนึ่ง แต่โดยหลักการหากเป็นไปอย่างที่บริษัทได้ชี้แจง คือมีการให้มีการทดลองออกอากาศทดลอง ไม่กี่วัน เมื่อมีปัญหาก็ยกเลิกการทดลองออกอากาศไปแล้ว ก็ไม่น่าจะมีปัญหาการทำงานของภาคเอกชน
นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือ ไอซีที เปิดเผยว่า ได้สั่งการถึงนายสือ ล้ออุทัย ปลัดกระทรวงไอซีที ให้ดำเนินการตั้งคณะกรรมการสอบสวนกรณี ผู้เชี่ยวชาญอเมริกันออกมาระบุว่าดาวเทียมไทยคมของบริษัท ชินแซทเทลไลน์ จำกัด(มหาชน)ได้เปิดช่องสัญญาณให้สถานีโทรทัศน์ช่อง Al-Manar TV เลบานอนซึ่งเป็นของเครือข่ายก่อการร้ายระดับโลกถ่ายทอดข่าวสารถึงสมาชิกขบวนการทั่วโลก
”ตอนนี้ยังไม่ได้รับรายงานจากกระทรวงไอซีทีเลย การตั้งคระกรรมการสอบสวนจึงต้องนำสัญญามาดูความจริงว่าเป็นอย่างไร จะต้องเชิญผู้เกี่ยวข้องมาขอความชัดเจน ส่วนจะถึงขั้นให้ถอดสัมปทานหรือไม่ ยังไม่ทราบต้องดูเอกสารความชัดเจนก่อน”นายโฆสิต กล่าว
แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล กล่าวว่า ตั้งแต่กระแสดังกล่าวออกมา นายโฆสิต ได้สอบถามไปยังกระทรวงไอซีทีหลายครั้ง แต่ก็กลับไม่ได้รับรายงานเป็นลายลักษณ์อักษรกลับมา โดยนายโฆสิตไม่ได่นิ่งนอนใจกับปัญหาดังกล่าว เพราะเป็นปัญหาระดับชาติ เนื่องจากบริษัทเอกชนที่เป็นต่างชาติคงจะถือว่ามีบริษัทแม่ที่ตั้งอยู่ในต่างประเทศจึงไม่ได้รายงานมาเป็นลายลักษณ์อักษร อย่างไรก็ตามนายโฆสิต ได้ย้ำให้ดูสัญญาและข้อกฎหมายให้ชัดเจนว่า จะดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งได้หรือไม่
ด้าน นายสือ ล้ออุทัย ปลัดกระทรวงไอซีที เปิดเผยว่า วานนี้(17ม.ค.51) เมื่อเวลา 09.00 น. ไอซีที ได้เรียกผู้บริหารบริษัท ชินแซทฯมาชี้แจงเรื่องเปิดให้ดาวเทียมไทยคมแพร่ภาพสถานีโทรทัศน์ช่อง Al-Manar TV โดยชินแซทฯได้ส่งเจ้าหน้าที่ด้านวิศวกร และนักกฎหมาย ของบริษัทฯมาชี้แจง เนื่องจากผู้บริหารระดับสูงของบริษัทฯ ติดภารกิจไปสัมมนาต่างจังหวัดทำให้ไม่สามารถมาชี้แจงกรณีดังกล่าวได้
ทั้งนี้ เจ้าหน้าวิศวกรได้ชี้แจงว่า จากการให้ทดสอบช่องสัญญาณของบริษัทฯนั้น มีลูกค้าจากต่างประเทศได้ติดต่อขอเช่าใช้ช่องสัญญาณดาวเทียมไทยคมผ่านพนักงานขาย ซึ่งพนักงานขายได้ตรวจสอบรายละเอียดเบื้องต้นว่า เป็นบริษัทที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย และส่งต่อไปยังฝ่ายเทคนิค เพื่ออนุญาตให้ทดลองใช้บริการก่อนตามขั้นตอนของบริษัทฯ ซึ่งหลังจากนั้นก็ได้ตรวจสอบการใช้ช่องสัญญาณดาวเทียมอยู่ตลอดเวลา แต่ไม่ทราบว่าเป็นของกลุ่มผู้ก่อการร้าย เพราะเป็นรายการตามปกติ แต่เป็นการออกอากาศโดยใช้ภาษาอาหรับ ทั้งหมด โดยการออกอากาศนั้นมีผู้เข้าใจในภาษาอาหรับได้ส่งอี-เมลล์มายัง บริษัทฯ เข้าใจว่าเป็นกลุ่มของผู้ก่อการร้าย ทางบริษัทฯ จึงได้สั่งปิดสัญญาณทันที โดยได้มีการทดลองออกอากาศเพียง 3 วันเท่านั้น คือจากวันที่ 9-11 ม.ค.นี้
ขณะเดียวกันวานนี้ (17 ม.ค.) กระทรวงไอซีที ได้จัดตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวโดยมีนายวรพัฒน์ ทิวถนอม รองปลัดกระทรวงไอซีที เป็นประธานคณะกรรมการการตรวจสอบ โดยคาดว่าจะนำข้อเท็จจริงเสนอนายกรัฐมนตรี และนายโมสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ รักษาการรมว.ไอซีที ให้รับทราบเป็นลายลักษณ์อักษรภายในวันนี้ (18 ม.ค.)
“ถือว่าพลาดแบบไม่น่าพลาดได้ ซึ่งตนมองว่าหากจะว่าหละหลวมก็ว่าหละหลวม เพราะบริษัทฯไม่ได้ดำเนินการตรวจสอบอย่างละเอียด ทั้งที่เป็นเรื่องสำคัญเพราะสถานีโทรทัศน์นี้ติดเบล็คลีสในหลายประเทศ เปรียบเทียบการทำบัตรเครดิต หรือว่ากู้เงิน ยังต้องตรวจสอบข้อมูลจากเครดิตบูโร แต่การเปิดให้เช่าช่องสัญญาณดาวเทียม ตรวจสอบเพียงบริษัทที่มาเช่าจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่เท่านั้น” นายสือ กล่าว
ทั้งนี้ กระทรวงไอซีที ได้สั่งให้บริษัทฯ ไปเข้มงวดและหามาตรการในการตรวจสอบรายละเอียดลูกค้าที่มาขอใช้ช่องสัญญาณดาวเทียมอย่างละเอียด กอปรกับกระทรวงไอซีทีจะต้องประสานกับหน่วยงานด้านความมั่นคงอย่างใกล้ชิด เพื่อมิให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก ส่วนเรื่องการยึดสัมปทานดาวเทียมคืนนั้น ขณะนี้ไม่สามารถตอบได้ เพราะต้องพิจารณารายละเอียดของสัญญาก่อน แต่หากบริษัทกระทำผิดสัญญาอย่างร้ายแรง ก็ต้องยึดสัมปทานคืน แต่กว่าจะไปถึงการยึดสัญญาสัมปทานคืน ก็ต้องเข้าสู่กระบวนการฟ้องร้อง ซึ่งต้องใช้เวลานานกว่าจะยึดคืน
พ.อ.ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) เปิดเผยว่า ไอซีทีออกมาชี้แจงเรื่องแซทเทลฯ เปิดให้สถานีโทรทัศน์ อัล มานาร์ ของกลุ่มก่อการร้ายผ่านดาวเทียวไทยคม กรณีดังกล่าวคล้ายการกับแฮคเกอร์ของกระทรวงไอซีที ต้องดูว่าที่บริษัทไทยคม มีใครเข้ามารับสัมปทาน เจ้าของคือใคร ต้องไปตรวจสอบว่าข้อมูลตรงนี้ว่าเป็นอย่างไร ซึ่งเราไม่สามารถสั่งปิดได้โดยตรง
ทั้งนี้ ปัจจุบันกระทรวงไอซีที คงมีการประสานว่าใครมารับสัมปทานดาวเทียมไทยคม ในแง่มุมของความมั่นคงที่ผ่านมาเรามีประสบการณ์ด้านการแฮคเกอร์ข้อมูล ซึ่งทางกอ.รมน.ได้มีการกำชับหน่วยกำลังหลักทั้งหมด และมีการประสานงานร่วมกันกับตำรวจนครบาลในกทม.และกอ.รมน.ภาค ในการตรวจตรา โดยเฉพาะข้อมูลที่เป็นความลับก็จะมีการเข้าชั้นความลับ
“กอ.รมน.ไม่สามารถใช้อำนาจไปสั่งปิดได้ ซึ่งตรงนี้ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่า จริงเท็จอย่างไร ทั้งนี้ เป็นเพียงการชี้แจงมาจากประเทศสหรัฐอเมริกาเท่านั้น ซึ่งน่าจะเป็นหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงไอซีที ที่จะต้องดูแลในเรื่องนี้” พ.อ.ธนาธิป กล่าว
ด้านความมั่นคงที่ผ่านมายังไม่มีกฎหมายที่จะมาดูแลสัญญาระหว่างภาครัฐกับเอกชนใดๆ เพราะฉะนั้นจึงทำได้ในกรอบของการประสานงานกับความร่วมมือเป็นหลัก แต่หากว่ามี พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ออกมาใช้ประกาศเป็นกฎหมายเราสามารถเข้าไปตรวจสอบในขั้นต้นว่าการใช้สัญญานครั้งนี้เกี่ยวพันอะไรกับความมั่นคงมากน้อยขนาดไหน หากพบว่ามีการเกี่ยวข้องต้องมีการระงับ
อย่างไรก็ตาม อำนาจเด็ดขาดขณะนี้ของเราไม่มี จึงทำได้แค่ประสานงานเบื้องต้น ขณะนี้เจ้าหน้าที่สารสนเทศฝ่ายข้อมูลของกอ.รมน. ได้มีการประสานงานกับเจ้าหน้าที่กระทรวงไอซีทีแล้ว แต่กอ.รมน.ไม่สามารถเข้าไปล้วงลึกได้
ขณะที่ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการเข้าชี้แจง ไอซีที ว่าเรื่องดังกล่าวเป็นอย่างที่บริษัทฯได้ชี้แจงว่า เป็นเพียงการเปิดให้ทดลองการออกอากาศ โดยที่บริษัทฯไม่ทราบว่า การทดลองการออกอากาศเป็นภาษาอาหรับมีความหมายอย่างไร เมื่อได้ทราบข้อมูลทางบริษัทก็ได้ยกเลิกไปแล้ว ตนได้รับทราบจากกระทรวงไอซีทีมีการตั้งกรรมการเพื่อสอบรายละเอียดอีกขั้นหนึ่ง แต่โดยหลักการหากเป็นไปอย่างที่บริษัทได้ชี้แจง คือมีการให้มีการทดลองออกอากาศทดลอง ไม่กี่วัน เมื่อมีปัญหาก็ยกเลิกการทดลองออกอากาศไปแล้ว ก็ไม่น่าจะมีปัญหาการทำงานของภาคเอกชน
